วันนี้ การทำธุรกิจออนไลน์ไม่ใช่แค่ “ขายของบนอินเทอร์เน็ต” อีกต่อไป แต่คือ การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี ที่เข้าใจลูกค้าแบบเรียลไทม์ สร้างคอนเทนต์ได้ตรงใจ และปรับกลยุทธ์ได้ทันทุกการเปลี่ยนแปลงของตลาด

เพราะโลกดิจิทัลไม่เคยหยุดนิ่ง การตลาดที่เคยได้ผลเมื่อวาน อาจใช้ไม่ได้ในวันนี้

ด้วยเหตุนี้ K SME SIERRA โดยธนาคารกสิกรไทย เปิดเวทีพร้อมเชิญสองผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจออนไลน์อย่าง คุณโซอี้ เภสัชกรหญิง โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล เจ้าของเพจ Digital Shortcut และคุณพิมพ์พิตา ทรัพย์วงศ์ภูนปวี เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า PETCHPLOY ขึ้นมาเผยกลยุทธ์แห่งโลกดิจิทัล ที่จะช่วยเปิดโอกาสพาธุรกิจทุกภาคส่วนก้าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดออนไลน์

เข้าใจตลาดออนไลน์ เปิดทางให้ธุรกิจไปได้ไกล

Facebook (เฟซบุ๊ก) ไปต่อหรือพอแค่นี้? คุณโซอี้ ตั้งคำถามเปิดเวทีว่าทุกวันนี้ Facebook ยังเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับการทำตลาดออนไลน์อยู่หรือไม่ และในปัจจุบัน TikTok จะขึ้นแท่นแซง Facebook ได้หรือไม่

คำตอบคือ — Facebook ยังไม่ตาย

ข้อมูลจาก Social Media Stat ชี้ให้เห็นว่า จำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียในประเทศไทยอันดับหนึ่งยังคงเป็น Facebook รองลงมาคือ LINE และ TikTok ซึ่งข้อมูลนี้อัปเดตล่าสุดเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าแม้ว่า TikTok จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดเปิดตัวฟีเจอร์การทำตลาดขายสินค้ามาไม่กี่ปีก็สามารถกวาดร้านค้ามาได้อย่างมากมาย แต่ยังไม่สามารถชนะ Facebook ได้ แสดงว่า “การตลาดบน Facebook” ยังสำคัญและเป็นโอกาสของธุรกิจ

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ “พฤติกรรมผู้ใช้”

คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้คือ Short Video ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนก็เพิ่มฟีเจอร์เพื่อตอบรับเทรนด์วิดีโอสั้น ไม่ว่าจะเป็น Reels, Voom ตอกย้ำความนิยมด้วยแพลตฟอร์ม วิดีโอแบบ Long-form อย่าง YouTube ยังต้องเพิ่มฟีเจอร์ Shorts เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์

เพราะวิดีโอสั้นคือคอนเทนต์ที่สร้างการเข้าถึง (Reach) ได้ดีที่สุดในทุกแพลตฟอร์ม ธุรกิจที่เข้าใจวิธีใช้ “วิดีโอสั้น” อย่างถูกจังหวะ จึงได้เปรียบในสนามดิจิทัล

เจาะตลาดออนไลน์ ด้วยเครื่องมือ Meta

คุณโซอี้เปิดมุมมองของการตลาด แบ่งออกเป็น รุก : รับ พร้อมอธิบายเพิ่มเติม “การตลาดเชิงรุก คือการเดินเข้าไปหาลูกค้าในขณะที่กำลังใช้งานโซเชียลมีเดียอยู่ เช่น ขณะเลื่อนฟีด Facebook หรือเพลิดเพลินกับการดู YouTube แต่กลับมีโฆษณาปรากฏขึ้น รวมถึงการส่งข้อความผ่าน LINEBroadcast การใช้รีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ ล้วนเป็นรูปแบบของการตลาดเชิงรุกทั้งสิ้น ส่วนการตลาดเชิงรับจะเกิดขึ้นเมื่อผู้บริโภคเป็นฝ่ายเริ่มค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ และสิ่งที่สำคัญคือจะต้องทำให้ธุรกิจถูกค้นพบได้ง่ายกว่าคู่แข่ง”

คำถามคือ...จะทำอย่างไรให้ธุรกิจกับลูกค้ามาเจอกันได้ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ

หลายคนอาจมีคำถามว่า จะทำอย่างไรให้ “ธุรกิจ” กับ “ลูกค้า” มาเจอกันได้ ทั้งในจังหวะที่เราเข้าหาเขา และตอนที่เขากำลังมองหาเราอยู่?

คุณโซอี้อธิบายว่า การตลาดที่ดีต้อง “พร้อมทั้งรุกและรับ” เพื่อให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้ในทุกมิติ โดยมีเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้กลยุทธ์บน Facebook ทำงานได้ครบวงจร ดังนี้

ความท้าทายของโลกธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณโซอี้ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า “AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่คนที่ใช้ AI จะมาแทนที่คนที่ไม่ใช้มัน”

แม้ว่า AI จะตัดสินใจแทนเราไม่ได้ แต่สามารถช่วยให้ เราแม่นยำและเร็วขึ้นในทุกจังหวะของการทำธุรกิจ

ใช้เครื่องมือเป็น = ธุรกิจโตได้ไว

ปิดท้ายเวทีด้วยมุมมองของผู้ประกอบการตัวจริงอย่าง คุณพิมพ์พิตา ที่ใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มออนไลน์ ปั้นแบรนด์จากโลกออนไลน์ สู่หน้าร้าน และก้าวสู่ ELLE Fashion Week ได้สำเร็จ

ท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะธุรกิจเสื้อผ้า ลูกค้ามีทางเลือกที่มากยิ่งขึ้น ทุกแบรนด์จึงต้องสร้างความแตกต่าง ทั้งดีไซน์ และจุดยืนของแบรนด์ ต้องสร้าง Unique Selling Proposition (USP) หรือจุดที่ทำให้แบรนด์แตกต่างและเป็นตัวเลือกที่ลูกค้าจะเลือก ผู้ประกอบการต้องทำการบ้านเพื่อหาช่องว่างในตลาด (Market Gap) ท่ามกลางคู่แข่งจำนวนมาก

สิ่งสำคัญของการตลาดคือการสื่อสารแบบเข้าใจ เข้าใจจุดต่างของตัวเองซึ่งทำหน้าที่เป็นสาร เข้าใจแพลตฟอร์มซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อ และเข้าใจผู้ชมคอนเทนต์ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้รับสาร การจะสร้างจุดขายที่แตกต่างจะต้องเริ่มจากการหาช่องว่างในตลาด สร้าง Hero Product เพื่อเป็นตัวเอกของแบรนด์ และตั้งชื่อเล่นให้สินค้า เพราะเมื่อสินค้ามีแฮชแท็กและ ชื่อเรียกที่ง่ายและเฉพาะตัวจะทำให้สินค้าเป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น

คุณพิมพ์พิตา ยังได้แชร์แนวคิดการทำการตลาดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงดูดลูกค้า ด้วยการใช้คำที่สร้าง Impact สร้างภาพที่ชัดเจน เพราะคำบรรยายที่ดี = คน 10 คนต้องจินตนาการเห็นภาพเดียวกัน โดยเทคนิคการใช้คำสามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบหลัก

จากจุดเริ่มต้นที่ขายผ่านโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการสร้างฐานลูกค้าและชุมชนผู้ติดตามที่เหนียวแน่น PETCHPLOY ใช้เทคโนโลยีเป็นสะพานเชื่อมระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับโอกาสทางธุรกิจ จนสามารถไปปรากฏบนรันเวย์ ELLE Fashion Week ได้สำเร็จ และตอกย้ำว่า “เครื่องมือออนไลน์” ไม่เพียงช่วยให้แบรนด์เติบโต แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจไทยก้าวไกลได้อย่างแท้จริง

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนทุกจังหวะของตลาด ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ใครเริ่มก่อน แต่อยู่ที่ใคร “ใช้เครื่องมือเป็น” และ “เข้าใจผู้บริโภคจริง” มากกว่า