
AI-Powered Transform Your Business
พลิกเกมธุรกิจให้ทรงพลังด้วย AI กลยุทธ์จากผู้สำเร็จตัวจริง
จาก K SME SIERRA โดยธนาคารกสิกรไทย
คุณภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ (CEO & Founder Pay Solutions และ TARAD.com)
คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล (Co-Founder, Director of Planning & Ideas BrandBaker)
คุณโสฬส เตียวเดชวรรณ (CEO & Co-Founder บริษัท Activeplus Blue)
วันที่ 20 ส.ค. 2568
โลกธุรกิจกำลังเปลี่ยนเร็วกว่าเคย และตัวแปรที่กำลัง “เขย่าเกม” อย่างรุนแรงคือ AI (Artificial Intelligence) จากเดิมที่ธุรกิจแข่งขันกันด้วย ทุน ทำเล และแรงงาน วันนี้… ความเร็วและการใช้เทคโนโลยีคือ ตัวชี้ชะตาว่าใครจะอยู่รอดและเติบโต
เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยก้าวทันการเปลี่ยนแปลง K SME SIERRA โดย ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนา “AI-Powered Transform Your Business AI พลิกเกมธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน” รวม 3 กูรูตัวจริงที่กำลังใช้ AI พลิกองค์กรและธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดด คุณภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ กูรู E-Commerce และผู้ก่อตั้ง TARAD.com นักวางกลยุทธ์การตลาดผู้เชี่ยวชาญด้าน AI Prompting คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล Co-Founder, Director of Planning & Ideas BrandBaker และคุณโสฬส เตียวเดชวรรณ CEO & Co-Founder บริษัท Activeplus Blue, ทายาทผู้สืบสาน “ร้านแก้วของฝาก” และต่อยอดขนมไทยสู่ตลาดโลก


AI = เครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตโลกธุรกิจ
ในยุคที่ข้อมูล คือเชื้อเพลิงใหม่ของโลกธุรกิจ คุณภาวุธ ชี้ชัดว่า AI จะกลายเป็น Growth Engine สำคัญสำหรับทุกองค์กรที่รู้จักใช้มันอย่างถูกวิธี
“AI ไม่ได้มาแทนคน แต่จะทำให้ ‘คนที่เก่งอยู่แล้วเก่งขึ้น 10 เท่า’ ถ้าใช้เป็น”
แม้ AI อาจยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายองค์กร ดังนั้น ถ้าอยากใช้ AI ให้มีประสิทธิภาพ ให้ผู้บริหารลองใช้กับชีวิตประจำวันก่อน เช่น ใช้ AI ช่วยสรุปคลิปประชุม จัดการตารางงาน หรือตั้งนาฬิกาปลุก เมื่อเห็นผลลัพธ์ในชีวิตประจำวัน คุณจะมองออกทันทีว่า AI ยกระดับงานทั้งองค์กรได้อย่างไร
“AI จะฉลาดได้ ก็ต่อเมื่อเรามีข้อมูลที่ดีพอ”
ผลสำเร็จจะเกิดขึ้นได้จึงไม่ใช่แค่นำ AI มาใช้ แต่ผู้ที่จะใช้ต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อม องค์กรที่มีข้อมูลละเอียดและเป็นระบบจะปลดล็อกศักยภาพ AI ได้สูงสุด ซึ่งการเก็บข้อมูลนั้นจำเป็นมากและสามารถทำได้แม้เป็นธุรกิจเล็กๆ เช่น ร้านอาหารตามสั่ง เก็บข้อมูลเมนูขายดี ช่วงเวลาพีก ฯลฯ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไป “การเตรียมทำล่วงหน้า (Pre-cook)” ช่วงเวลาเร่งด่วน ลดเวลาทำจาก 5 นาที/จาน เหลือ 2 นาที
ยิ่งมีข้อมูลพร้อมมากเท่าไหร่ผลลัพธ์ทวีคูณเท่านั้น ตัวอย่างเช่น บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ออกแบบบ้านให้ตรงความต้องการ และทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล เพิ่มยอดขายกว่า 2,100 ล้านบาท


บทบาทผู้บริหารที่จะทำให้ AI ในองค์กรเวิร์ก
คุณภาวุธย้ำว่า AI จะสร้างประโยชน์สูงสุดได้ก็ต่อเมื่อผู้บริหารลงมือจริงตั้งแต่
- กำหนดวิสัยทัศน์ ประกาศชัดว่า AI คือคันเร่งการเติบโตขององค์กร
- สร้างทีม AI ทดลองใช้จริงในแต่ละแผนก
- สนับสนุนทรัพยากร จัดสรรเครื่องมือ เวลา และงบประมาณอย่างพอเพียง
- ทำงาน ”แบบ step by step” นิยาม use case ชัด วัดผลได้ในระยะสั้น
- วัดผล – ปรับปรุง - ให้รางวัล ติดตามผลลัพธ์ ปรับกระบวนการ และยกย่องทีมที่ทำได้ดี


เปลี่ยน AI ให้เป็นผู้ช่วยมือขวา
“หากงานประสบอุปสรรค ลองใช้ AI เป็นที่ปรึกษา เพราะว่า AI พร้อมช่วยหาคำตอบโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” นี่คือคำแนะนำจากคุณสุรศักดิ์ ที่ช่วยให้ผู้บริหารเริ่มคุ้นเคยกับการใช้ AI และเข้าใจวิธีใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ AI ทำงานได้เต็มศักยภาพ ควรคำนึงถึง 3 องค์ประกอบหลัก
- Idea ระบุสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจน เช่น อยากได้โลโก้ใหม่ แผนการตลาด หรือบทวิเคราะห์
- Input ป้อนข้อมูลครบถ้วน อธิบายบริบทธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย หรือคอนเซปต์แบรนด์
- Output ระบุให้ชัดว่าผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นแบบไหน
“(Prompt) หรือคำสั่ง คือหัวใจของการใช้ AI ต้องละเอียด เพราะ AI ไม่มี Common Sense ถ้าคำสั่งไม่ชัด มันก็อาจตอบผิดทาง”


ดังนั้น การสั่งงาน AI ต้องเจาะจง มีบริบท และมีตัวอย่างประกอบ เช่น หากต้องให้ช่วยออกแบบ ต้องกำหนดบริบท AI ว่า “คุณคือดีไซเนอร์ระดับโลก” ผลลัพธ์ที่ได้จะตรงตามความต้องการมากขึ้น
อย่างไรก็ดีต้องเข้าใจว่า แม้ AI จะฉลาด เหมือนคนที่เรียนหนังสือเยอะ ไอคิวสูง แต่ไม่เคยทำงานจริง เช่น สั่งทำโฆษณาพัดลม แต่ AI อาจไม่เข้าใจรายละเอียดปฏิบัติจริง เช่น การวางแผนตำแหน่งอุปกรณ์ในงานโฆษณา จึงควรคาดการณ์ความผิดพลาดไว้เสมอ
AI ที่มีประสิทธิภาพ มักเป็นเวอร์ชันที่มีค่าใช้จ่าย เช่น GPT Pro หรือ GPTs ที่สามารถฝังข้อมูลธุรกิจลงไป ให้ทำงานเหมือน “ผู้ช่วยส่วนตัว”
ข้อควรระวังอีกข้อสำหรับการใช้ AI คือ หากเริ่มเรื่องใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับแชตเดิม ควรกด New Chat เสมอ เพราะไม่เช่นนั้น AI จะอ่านประวัติการสนทนาก่อนหน้าและอาจตอบไม่ตรงประเด็น


กรณีศึกษา Activeplus Blue : “จากร้านแก้วของฝากสู่แบรนด์ระดับโลก”
การใช้ AI ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนหรือเริ่มจากโปรเจกต์ใหญ่เสมอไป ตัวอย่างจาก Activeplus Blue ร้านแก้วของฝากเล็กๆ ในเมืองกาญจนบุรี คุณโสฬสพิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถพลิกเกมธุรกิจด้วย AI จนกลายเป็นผู้ส่งออกขนมไทยระดับโลก โดยเน้นวิธีง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง ต่อไปนี้คือ 5 กลยุทธ์ AI ที่ SME ไทยสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที
1. ลดต้นทุนการผลิต
ในอดีต โรงงานของ Activeplus Blue มีของเสียกว่า 10% เพราะเครื่องจักรบางครั้งทำงานผิดจังหวะ ทางบริษัทจึงได้ติดตั้ง IoT Sensors บนเครื่องจักรเพื่อเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ แล้วให้ AI วิเคราะห์ ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น และความเร็วสายพาน ผลลัพธ์คือ โรงงานสามารถคาดการณ์ปัญหาได้ล่วงหน้า ลดต้นทุนไป 8–10%
2. ช่วยการพัฒนาสินค้าใหม่
ในอดีต การคิดสูตรขนมใหม่ใช้เวลาเป็นเดือนต้องไปออกบูธฟังเสียงลูกค้า แต่วันนี้ AI ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป คุณโสฬสบอกว่าใช้ ChatGPT และ Gemini วิเคราะห์ เทรนด์ผู้บริโภคทั่วโลก ปรับสูตรสินค้าให้เหมาะกับแต่ละตลาด เช่น รัสเซีย ต้องการขนม สีสันจัดจ้าน ปักกิ่ง ชอบขนมรสหวานกว่ามาตรฐาน
3. ทำการตลาดด้วย “ข้อมูล” ไม่ใช่ “ความรู้สึก”
คุณโสฬสเล่าว่า เมื่อก่อนเขาใช้ประสบการณ์และสัญชาตญาณเป็นหลักในการเลือกตลาดต่างประเทศ แต่วันนี้เขาใช้ AI วิเคราะห์ยอดขายย้อนหลัง 3 ปี และประเมินว่าประเทศไหนมีโอกาสทำกำไรมากที่สุด
AI สรุปให้เลยว่า 5 ประเทศนี้คือตลาดศักยภาพสูงสุด ทำให้ Activeplus Blue ลงทุนเฉพาะจุดที่คุ้มค่า ลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดได้กว่า 40% และปิดดีลกับลูกค้ารายใหญ่ได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ


4. ยกระดับ HR บริหารคนอย่างชาญฉลาด
เป็นการนำ AI ใช้คัดกรองใบสมัครงานที่มีเป็น 100 ฉบับภายใน 30 นาที พร้อมให้คะแนนความเหมาะสมของผู้สมัครอัตโนมัติ และสร้างคู่มือการทำงานดิจิทัลที่ทำให้ “การปรับตัวเข้ากับงาน (Onboarding)” พนักงานใหม่เร็วขึ้นมาก
5. เพิ่มทักษะ
ใช้ AI แปลเอกสาร “ข้อเสนอ (Proposal)” และสัญญาภาษาต่างประเทศ ส่งอีเมลและเจรจาลูกค้าต่างชาติได้เร็วขึ้น
สำหรับคุณโสฬส AI คือเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้บริหารเก่งขึ้น และสร้างทักษะใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่อย่าลืมว่าไม่มี AI ตัวไหนสมบูรณ์ 100% ดังนั้น ถ้าใช้ให้ถูกงานผลลัพธ์จะคุ้มค่า ทั้งนี้เขาใช้ AI หลักๆ 3 ตัว ได้แก่ ChatGPT สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างคอนเทนต์, Gemini สำหรับข้อมูลเรียลไทม์และเทรนด์ล่าสุด และ Perplexity สำหรับทำวิจัยตลาดเชิงลึก
เขาเสริมว่า เวลาป้อนคำสั่งให้ AI ควรระบุให้ชัดเจนว่าต้องการอะไรและอยากได้คำตอบแบบไหน เพราะ AI มีข้อมูลมหาศาล หากไม่กำหนดเป้าหมาย มันก็อาจตอบสะเปะสะปะ
ดังนั้น การใช้ AI ให้เต็มศักยภาพจึงต้องเริ่มจากการทำข้อมูลบริษัทให้เป็นดิจิทัลและจัดระเบียบอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ AI ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นความลับ คุณโสฬสแนะนำว่า หากใช้ ChatGPT ควรตั้งค่าไม่แชร์ข้อมูลไปภายนอก ซึ่งช่วยป้องกันข้อมูลในระดับหนึ่ง
“AI ไม่ใช่คำตอบวิเศษ แต่คือเครื่องเร่งการเติบโต ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และแม่นยำขึ้น AI จะทรงพลังที่สุดเมื่อผู้บริหารเข้าใจเป้าหมาย เตรียมข้อมูลให้พร้อม และเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม” คุณโสฬสสรุป


หมายเหตุ: การเข้าร่วมกิจกรรม สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่ใช้สินเชื่อธุรกิจธนาคารกสิกรไทยตามเกณฑ์ของโปรแกรม K SME SIERRA เท่านั้น (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขการเข้าร่วมโปรแกรม K SME SIERRA กรุณาติดต่อผู้ดูแลสินเชื่อของท่าน หรือติดต่อธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา)