7 Tips ปั้นธุรกิจ สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการมือใหม่ไม่ควรมองข้าม
‘นิยามความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน’ แนวคิดนี้ใช้ได้ดีกับการทำธุรกิจ ผู้ประกอบการบางคนอาจวางเรื่องรายได้เป็นที่ตั้ง โดยธุรกิจที่ทำจะต้องสร้างกำไรให้ได้มากที่สุด ในขณะที่อีกคนอาจมองเรื่องการสร้าง Community เน้นความยั่งยืนในชุมชน ฯลฯ ไม่ว่าความสำเร็จจะอยู่ในรูปแบบใด 7 ข้อต่อไปนี้จะเป็นกุญแจที่จะช่วยให้คุณไขประตูสู่เส้นทางบรรลุเป้าหมาย พาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
1. กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัด
เมื่อจุดหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เป้าหมายทางธุรกิจจึงไม่มีกฎตายตัวในการออกแบบ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องสร้างเป้าหมายและตัวชี้วัดขึ้นมาเพื่อไปให้ถึงปลายทาง ด้วยรูปแบบ SMART จะช่วยให้การวางเป้าหมายทางธุรกิจมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
S: Specific = เฉพาะเจาะจง
M: Measurable = วัดผลได้
A: Attainable = ทำได้จริง
R: Relevant = เกี่ยวข้อง
T: Time-bound = กรอบเวลา
เพราะในทุกเป้าหมายต้องมีกรอบเวลา และตัวชี้วัด (KPIs) ที่ชัดเจน
เพื่อทำความเข้าใจว่าธุรกิจมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง
2. ระบุ Mission & Vision
กับดักที่ผู้ประกอบการมือใหม่หลายคนมักติดกันก็คือ นำความสำเร็จไปผูกติดกับขนาดของธุรกิจ จนทำให้ลืมความตั้งใจและเป้าหมายที่แท้จริงของการทำธุรกิจว่าคืออะไร การกำหนด Mission (พันธกิจ) และ Vision (วิสัยทัศน์) จะเป็นเหมือนการวางแผนเส้นทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทางที่อยากให้เป็น
Mission: คือเป้าหมายหลัก เป็นการกำหนดกิจกรรมที่ธุรกิจจะทำเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย คือการบอกว่าเราจะทำอะไร และทำเพื่อใคร
Vision: คือภาพอนาคตที่อยากให้ธุรกิจไปถึง เป็นการบอกว่าอยากให้ธุรกิจมีหน้าตาแบบไหนในวันข้างหน้า
3. สร้างแผนธุรกิจที่แข็งแกร่ง
แผนธุรกิจที่สอดคล้องกัน มีการคิดไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี คือรากฐานของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แผนธุรกิจจะเป็นเสมือนเครื่องมือนำทางเพื่อไม่ให้เกิดคำถามที่ว่า ‘แล้วต้องทำอะไรต่อ?’ โดยในแผนธุรกิจควรประกอบไปด้วย บทสรุปผู้บริหาร ภาพรวมบริษัท สินค้าหรือบริการที่นำเสนอ การวิเคราะห์ตลาด แผนการตลาด แผนการดำเนินงาน และแผนการเงิน
แผนธุรกิจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงคำถามที่น่ากลัวอย่าง "แล้วฉันต้องทำอะไรต่อ?"
ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการใหม่หลายคนต้องเผชิญ
4. ดำเนินกลยุทธ์การตลาด
ไม่ว่าผลิตภัณฑ์จะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ทำการตลาดก็มีโอกาสไปต่อได้ยาก หากเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร ต้องการประสบการณ์แบบไหน ก็จะสามารถเชื่อมโยงธุรกิจเข้ากับพวกเขาได้ โดยการตลาดที่มีประสิทธิภาพจะต้องตั้งต้นด้วยวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ประกอบกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า โดยจะต้องผ่านการศึกษาพฤติกรรม แล้วจึงสร้างออกมาเป็นแผนกลยุทธ์ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ
5. พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น
‘คุณภาพ’ ยังคงเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเสมอ เพียงแต่ความพึงพอใจของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อย่างเช่น ราคา ชื่อเสียงแบรนด์ สถานที่ซื้อ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจของพวกเขาทั้งสิ้น
ดังนั้นความโดดเด่นอาจไม่ใช่แค่ในแง่คุณภาพการใช้งานเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงความแตกต่างที่หากไม่ใช่ด้าน Function การใช้งาน ก็ใช้กลยุทธ์การตลาดสร้างความแตกต่างด้วย Emotional ผ่านการสร้างคุณค่าให้กับตัวสินค้า และสื่อสารกับผู้บริโภคเพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อ
6. เตรียมพร้อมเพื่อปรับตัว
การอัปเดต Algorithm แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย E-Commerce มีการปรับอัตราการหักค่า GP (Gross Profit) พฤติกรรมผู้บริโภคต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงจากไม่กี่เดือนก่อน ฯลฯ ในโลกที่ทุกอย่างพร้อมเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการที่ตระหนักถึงการปรับตัวอยู่เสมอจึงจะสามารถไปต่อได้ ดังนั้นให้กลับไปที่ขั้นตอนการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ อย่าลืมที่จะคาดการณ์ และวางแผนสำหรับสถานการณ์ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเอาไว้ด้วย
7. ใช้ประโยชน์จาก AI
Predictive AI เป็นผู้ช่วยให้การวางแผน และคาดการณ์ทางธุรกิจด้านต่าง ๆ แม่นยำมากขึ้น
Generative AI ทำให้งานต่าง ๆ สำเร็จได้รวดเร็วขึ้นหลายสิบเท่าด้วยผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกัน
Agentic AI ทำให้ธุรกิจสามารถโต้ตอบ และให้บริการกับลูกค้าได้ 24 ชั่วโมงแบบไร้รอยต่อ
เห็นได้ว่า AI ไม่ใช่แค่กระแสแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวทัน หรือนำหน้าตลาดได้
การทำธุรกิจไม่ได้มีสูตรสำเร็จ การจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้จึงต้องอาศัยความทุ่มเท ใส่ใจ และมีวัยนัยอย่างมาก ในทุก ๆ ขั้นตอนของการสร้างธุรกิจ ให้ลองหันมาตรวจสอบผลลัพธ์อยู่เสมอ และเมื่อเจอจุดบกพร่องหรือสัญญาณที่จะทำให้ความสำเร็จนั้นไกลออกไป ก็จงรีบปรับตัวเพื่อรองรับกับสถานการณ์ใด ๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้น หากทำเช่นนั้นได้เป้าหมายที่คาดหวังเอาไว้ก็ไม่ไกลเกินความสามารถของผู้ประกอบการมือใหม่อย่างคุณ
ตัวช่วยร้านค้าตัวจริง ขายง่ายทั้งขายออนไลน์หรือมีหน้าร้าน