เพิ่งเริ่มธุรกิจ จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรจดบริษัท เพิ่งเริ่มธุรกิจ จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรจดบริษัท

เพิ่งเริ่มธุรกิจ จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรจดบริษัท

อีกคำถามที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่หลายคนต้องครุ่นคิดก็คือ ‘เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ จำเป็นต้องจดบริษัทเลยไหม’ แต่ก่อนจะตัดสินใจว่าจะจดหรือไม่ มาดูความแตกต่างระหว่างการทำธุรกิจแบบบุคคลธรรมดา กับนิติบุคคลกันก่อนว่า มีข้อดี ข้อเสียต่างกันอย่างไร

ธุรกิจแบบบุคคลธรรมดา

การทำธุรกิจในรูปแบบนี้ก็ตรงตามชื่อเลยคือ ‘บุคคล’ เป็นการดำเนินธุรกิจโดยใช้ชื่อผู้ประกอบการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ เช่น ดีลทางธุรกิจ จัดซื้อ รับรายได้ ฯลฯ

ข้อดี

  • เริ่มต้นได้ทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสาร
  • ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนการค้า ต่ำกว่าการจดทะเบียนบริษัท
  • ดำเนินงานได้คล่องตัว ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  • ได้ชำระภาษีเงินได้แบบบุคคลธรรมดา
    ซึ่งจะมีอัตราต่ำกว่าภาษีนิติบุคคลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีกำไรไม่สูงนัก
  • ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน และรายละเอียดธุรกิจต่อสาธารณะมากนัก

ข้อเสีย

  • ความรับผิดชอบที่ไม่สามารถแยกออกจากธุรกิจได้ ในกรณีที่มีหนี้สินจากการทำธุรกิจ ก็ต้องนำทรัพย์สินส่วนตัวมาชดใช้ด้วย
  • ความน่าเชื่อถือในสายตาคู่ค้า รวมถึงลูกค้าของธุรกิจบางประเภท ตลอดจนสถาบันการเงิน ที่อาจไม่ได้รับความไว้วางใจ
  • เสียเปรียบด้านภาษีในระยะยาว หากธุรกิจมีผลกำไรที่สูงขึ้น และบุคคลธรรมดาไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายทางธุรกิจได้
  • กรณีที่ต้องการโอนกิจการให้คนอื่นต่อ จะมีความซับซ้อนมากกว่า

ธุรกิจนิติบุคคล

การทำธุรกิจผ่านการจัดตั้งบริษัทจำกัด ซึ่งกฎหมายถือว่าเป็นคนละหน่วยงานกับผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของบริษัท ทำให้เกิดการแยกแยะความรับผิดชอบ และภาระหน้าที่ทางกฎหมายที่ชัดเจน

ข้อดี

  • กระจายความเสี่ยงในการรับผิดชอบ
    ผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบหนี้สินของบริษัทไม่เกินมูลค่าหุ้นที่ตนเองยังชำระไม่ครบ ความหมายคือ หากธุรกิจมีหนี้สินที่ต้องชำระ ก็จะไม่กระทบถึงทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าของ
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ ต่อคู่ค้าและสถาบันการเงิน ทำให้ดำเนินธุรกิจได้คล่องตัวมากขึ้น
  • วางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำรายจ่ายที่เกิดขึ้นในธุรกิจ กำหนดเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชีได้ ทั้งยังได้รับประโยชน์ทางภาษีธุรกิจด้านอื่น ๆ
  • มีโอกาสในการเติบโตได้มากกว่า สามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้นจากความน่าเชื่อถือที่มีมากกว่า

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นค่อนข้างสูง ทั้งยังมีขั้นตอนการลงทะเบียนที่ซับซ้อน
  • มีหน้าที่ทางกฎหมายด้านการทำบัญชีที่มากกว่า นิติบุคคลจำเป็นต้องมีการทำบัญชีตามมาตรฐาน ตรวจสอบ และยื่นเอกสารต่อหน่วยงานราชการอย่างสม่ำเสมอ
  • เสียภาษีนิติบุคคล จะมีอัตราสูงกว่าภาษีบุคคลธรรมดา (เฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในช่วงเริ่มต้น)
  • จำเป็นต้องนำข้อมูลทางการเงิน และรายละเอียดของบริษัทบางส่วนเปิดเผยต่อสาธารณะ

แล้วเมื่อไหร่ถึงควรจะต้องจดบริษัท?

ลองพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

1. ธุรกิจขยายตัวขึ้น

เมื่อมีจำนวนลูกค้ามากขึ้น การจดทะเบียนบริษัทจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และรองรับการเติบโตในอนาคต

2. วางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อธุรกิจหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว มีรายได้เกินกว่า 750,000 บาท (ต่อปี) ขึ้นไป หากคุณเป็นบุคคลธรรมดาจะต้องเสียภาษีถึง 35% ส่วนภาษีเงินได้สูงสุดที่ต้องเสียของนิติบุคคลจะอยู่ที่ 20% เท่านั้น

3. ต้องการระดมทุน

การจดบริษัทเป็นธุรกิจแบบนิติบุคคล จะช่วยให้กิจการของคุณสามารถระดมทุนจากนักลงทุน และสถาบันการเงินได้ง่ายกว่า เนื่องจากมีโครงสร้างทางบัญชีที่ชัดเจน

4. วางแผนที่จะขยายธุรกิจ

การทำธุรกิจบริษัท จะมีโครงสร้างที่ยืดหยุ่น และเอื้อต่อการขยายธุรกิจในอนาคต เช่น การขยายสาขา หรือเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ

5. จำกัดความเสี่ยงในการรับผิดชอบ

หากธุรกิจของคุณมีความเสี่ยงทางกฎหมาย หรือทางการเงินสูง การจดทะเบียนบริษัท เป็นธุรกิจแบบนิติบุคคล จะช่วยป้องกันทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าของกิจการจากหนี้สินทางธุรกิจได้

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยอื่น ๆ อาทิ เรื่องการบริหารจัดการ หากคุณต้องการทำธุรกิจอย่างเป็นระบบ มีฝ่ายต่าง ๆ รับผิดชอบงานแต่ละด้านชัดเจน และจ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมาย การจดทะเบียนธุรกิจให้เป็นนิติบุคคล จะช่วยให้คุณมีแบบแผนที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งจะทำให้การทำธุรกิจคล่องตัวมากขึ้น อย่างเช่น การปิดงบบัญชีรายเดือน การยื่นงบฯ ประจำปี การขอสินเชื่อธุรกิจกับสถาบันการเงิน ฯลฯ

หากให้บอกว่าช่วงเวลาไหนเหมาะสมที่สุดในการจดบริษัท คำตอบก็คือ ช่วงเวลาที่คุณพิจารณาดูแล้วว่าสิ่งนี้ ‘จำเป็น’ กับทิศทางการเติบโตของธุรกิจคุณ

แตะเพื่อเปิด