ปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความไม่แน่นอนสูงนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือ “ความสามารถในการแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ” ไม่ว่าจะเป็นการจัดการต้นทุน รับมือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือปรับตัวสู่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทางออกที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่คือการค้นหา Winning Solution กลยุทธ์ที่ยั่งยืน มีนวัตกรรม และสร้างคุณค่าให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง
เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้รู้จักแก้ปัญหาทางธุรกิจ ธนาคารกสิกรไทย โดย K SME CARE จึงจัดสัมมนา “Winning Solutions for Industry Challenges” นำโดย รศ. ดร.กุลเชษฐ์ มงคล ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ และหนึ่งในเพียงสองคนไทยที่ได้รับการรับรอง Strategy Management Professional เพื่อร่วมเจาะลึกแนวทางสู่ Winning Solution ที่จะพาธุรกิจเผชิญทุกความท้าทายได้อย่างตรงจุดก้าวสู่ชัยชนะแบบยั่งยืน
เดินหน้าพาธุรกิจหา Winning Solution
“การลอกเลียนแบบผู้ที่สำเร็จแล้ว ไม่ได้แปลว่าคุณจะสำเร็จเหมือนเขา” คำกล่าวของ รศ.ดร.กุลเชษฐ์ ที่สะท้อนหัวใจของการแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ดังนั้น การมองหา Winning Solution จึงต้องเริ่มจากการค้นหาปัญหาที่แท้จริงของธุรกิจ เข้าใจมันอย่างรอบด้าน จากนั้นวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
และเหนือสิ่งอื่นใด การแก้ปัญหาอย่างมีระบบ ในแบบฉบับของตัวเอง คือกุญแจสู่กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
ท่ามกลางความผันผวนทางธุรกิจที่เกิดขึ้นมากมาย การแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้าอาจช่วยให้รอดจากสถานการณ์ฉุกเฉินได้ แต่ไม่เพียงพอที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในระยะยาว “การคิดอย่างเป็นระบบ” จึงกลายเป็นทักษะสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องมี
รศ.ดร.กุลเชษฐ์อธิบายว่า วิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ (Solving Problems Systematically) คือการดำเนินงานตามลำดับขั้นตอนอย่างมีแบบแผน ซึ่งมีข้อดีที่เห็นได้ชัด ได้แก่
ในโลกธุรกิจ ปัญหาไม่เคยมาแบบเรียงคิวรอแก้ทีละเรื่อง มันมักมาพร้อมกันหลายด้าน ทั้งการตลาด การเงิน ทรัพยากรบุคคล และการดำเนินงาน สิ่งที่จะช่วยให้เจ้าของกิจการไม่จมอยู่กับความสับสน คือ “การคิดอย่างเป็นระบบ”หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับว่าใช้ได้ผลจริงคือ Winning Solution Framework กรอบการคิดเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้เราวิเคราะห์ ออกแบบ และเลือกวิธีแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอน ชัดเจน และได้ผลลัพธ์ที่ใช่ที่สุด Framework นี้ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนสำคัญ ที่ค่อย ๆ พาธุรกิจไปสู่ทางออกที่มั่นใจได้ว่าทำแล้วเกิดผล
1. Problem Definition-นิยามปัญหาให้ชัด
เริ่มต้นด้วยการตอบให้ได้ว่า “เรากำลังแก้อะไรอยู่” เพราะถ้ากำหนดโจทย์ผิด ก็มีโอกาสสูงที่จะเสียเวลาไปกับการแก้ปัญหาที่ไม่ใช่
เพื่อไม่ให้หลงทาง เครื่องมือที่ช่วยจัดระเบียบความคิดได้ดีคือ Problem Definition Canvas จะช่วยจัดระเบียบความคิดด้วย 6 ช่องหลัก เช่น แก่นของปัญหา (Problem Statement), สถานการณ์ (Context), ผู้เกี่ยวข้อง (Stakeholders), เงื่อนไข ขอบเขตของปัญหา (Condition), กรอบเวลา และเกณฑ์วัดความสำเร็จ
2. Problem Structuring-แยกโครงสร้างปัญหา
เมื่อรู้แล้วว่าปัญหาคืออะไร ขั้นต่อไปคือ “แยกปัญหาออกเป็นโครงสร้าง” เพื่อให้เห็นสาเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ เครื่องมือที่ใช้ได้ผลดีคือ Issue Tree ซึ่งเป็นแผนภาพที่แตกปัญหาใหญ่ให้เป็นประเด็นย่อยอย่างไม่ซ้ำกัน วิธีนี้ช่วยให้มองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุหลัก–สาเหตุรอง ช่วยจัดลำดับว่าเรื่องไหนควรแก้ก่อน และลดความเสี่ยงในการมองข้ามจุดสำคัญไป
3. Prioritize Issues-จัดลำดับความสำคัญ
การจัดลำดับความสำคัญ ไม่ใช่ทุกปัญหาที่ต้องรีบแก้พร้อมกัน ใช้กฎ 80/20 หรือหลักพาเรโต (Pareto) เพื่อเลือกโฟกัสเรื่องที่ต้องแก้ไขก่อน และวางแผนเก็บข้อมูลในประเด็นนั้นอย่างเป็นระบบ
4. Generating Solutions-สร้างทางเลือก
การสร้างทางเลือกในการแก้ปัญหา ทางออกที่ดีอาจไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว รวมความรู้ ข้อมูลเชิงลึก ประสบการณ์ คำแนะนำผู้เชี่ยวชาญ และความคิดสร้างสรรค์ มาผสมกันเพื่อสร้าง “ชุดทางเลือก” แล้วคัดกรองหาวิธีที่เหมาะสมและทำได้จริง
5. Decision Making-เลือกและทดสอบ
เมื่อได้วิธีแล้วนำทางเลือกนั้นมาเปรียบเทียบทั้งด้านความยากง่ายและผลกระทบ ใช้ Solution Validation ตรวจสอบความเป็นไปได้ทางการเงิน (เช่น ROI) และความเป็นไปได้เชิงปฏิบัติ (เช่น ความพร้อมของระบบและทีมงาน) ก่อนตัดสินใจ
6. Execution-ลงมือทำให้เกิดผล
เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็ถึงเวลานำแผนไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง เพราะทางออกที่ดีที่สุดไม่มีค่าเลย ถ้าไม่ถูกลงมือทำ.
อย่างไรก็ดี รศ.ดร.กุลเชษฐ์ย้ำว่า การค้นหา Winning Solution คือกุญแจสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เพราะมันไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่คือการวางแนวทางที่ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างแท้จริง ทั้งในด้านความคุ้มค่า ประสิทธิภาพ และความสามารถในการนำไปใช้ได้จริง (Practicality) กระบวนการนี้ต้องอาศัยการคิดอย่างเป็นระบบ วิเคราะห์ข้อมูลรอบด้าน และพิจารณาทรัพยากร ความสามารถขององค์กร รวมถึงความเป็นไปได้ทางการเงินอย่างรอบคอบ
“Winning Solution ไม่ได้เกิดจากโชคหรือไอเดียเพียงอย่างเดียว แต่มันคือผลลัพธ์ของการคิด วิเคราะห์ ลงมือทำ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง” รศ.ดร.กุลเชษฐ์ย้ำพร้อมทิ้งท้ายว่า ผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการนี้ จะมีความพร้อมมากกว่าในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต แข็งแกร่ง และยั่งยืนในระยะยาว