โลกหมุนไวเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน วิวัฒนาการของการจัดการเงินก็แปรเปลี่ยนไปเช่นกัน เริ่มตั้งแต่สมัยก่อนที่คนมักจะนำเงินไปเก็บไว้ในไห ในตุ่ม ฝังดินไว้ ต่อมาเปลี่ยนเป็นเก็บไว้ในบ้าน ในตู้เซฟบ้าง จนมาถึงยุคที่เริ่มมีธนาคาร ก็นำเงินไปฝากเข้าบัญชีปัจจุบันมาถึงยุคดิจิทัลที่สามารถฝากบัญชีออนไลน์ได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

“
แต่โลกการเงินไม่ได้มี
แค่บัญชีเงินฝากเพียงอย่างเดียว หากเราเปิดใจ
ยังมีทางเลือกใหม่ในการจัดการเงินที่เก๋ไก๋ไฉไลกว่า
“

แถมให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าและไม่ทำให้เงินหายไปไหน แล้วทางเลือกที่ว่านั้นคืออะไร จะเลือกยังไง ให้ถูกใจใช่เลย

จัดการเงิน สร้างดอกผลให้งอกเงย

สำหรับใครที่ชอบความชัวร์ อยากได้ผลตอบแทนแน่นอนสม่ำเสมอ แบบที่ว่านั่งเฉยๆ ก็มีเงินใช้ไม่ขาดมือ “หุ้นกู้” ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ ที่ออกโดยเอกชนเพื่อนำไปใช้ในกิจการของบริษัท ผู้ลงทุนจึงมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ ลงทุนแล้วก็นั่งชิลรอรับ ดอกเบี้ยที่บริษัทจ่ายให้เป็นงวดๆ ตามที่ตกลงกันไว้ แม้ผลตอบแทนจะดี แต่ไม่ได้มีให้ซื้อบ่อยๆ หากเจอเมื่อไรต้องรีบชิงจองกันหน่อยนะ

ชอบความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

ส่วนใครที่รู้ตัวว่าชอบความเป็นเจ้าของ แถมยังชอบลุ้น ชอบเสี่ยง เพราะอยากได้ผลตอบแทนสูงๆ “หุ้น” เป็นตัวเลือกที่เหมาะ เพราะเป็นการลงทุนในกิจการของบริษัทโดยตรง ผู้ลงทุนจึงมีฐานะเป็นเจ้าของกิจการนั่นเอง ลงทุนแล้วกำไรที่ได้จะมาใน 2 รูปแบบด้วยกันคือ เงินปันผล และส่วนต่างราคา แม้จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงอย่างที่ต้องการ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากเลือกจัดการเงินด้วยวิธีนี้ต้องมีเวลาศึกษาข้อมูลและ ติดตามสถานการณ์ทุกย่างก้าวเลยทีเดียวเชียว

ไม่มีเวลา หรือไม่เชี่ยวชาญลงทุน

สำหรับคนไม่มีเวลา หรือไม่เชี่ยวชาญลงทุนก็ใช่ว่าจะลงทุนไม่ได้ “กองทุนรวม” ตอบโจทย์นี้ได้สบาย เพราะเป็นการรวบรวมเงินของผู้ลงทุนหลายๆ คนไปลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารต่างๆ ตามนโยบายการลงทุนที่กำหนดไว้ โดยมีผู้จัดการกองทุนช่วยบริหารเงินลงทุนให้ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้จะมาในรูปแบบของเงินปันผลและส่วนต่างราคาเมื่อขายคืน ขอบอกเลยว่าสบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

แล้วกองทุนรวมมีดียังไง ทำไมถึงต้องลงทุนด้วย ก็เพราะกองทุนรวมทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ถึง 6 เท่าเลยน่ะสิ มีเงินเท่าไรก็ลงทุนได้ มีผู้เชี่ยวชาญช่วยจัดการเงินให้ มีหน่วยงานคอยตรวจสอบ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกนำเงินไปลงทุนในทางไม่ดี แถมยังมีการกระจายความเสี่ยง เพราะลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารหลากหลาย และอย่าลืมว่า ตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป สถาบันคุ้มครองเงินฝากจะลดความคุ้มครองวงเงินลง เหลือเพียง 1 ล้านบาทต่อคนต่อสถาบันการเงินเท่านั้น นี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราต้องนำเงินไปลงทุนมากขึ้นนั่นเอง รู้อย่างนี้แล้วจะรอช้าอยู่ไย มาเริ่มต้นลงทุนให้มั่งคั่งกันเลย

จัดการเงิน สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเงิน

นอกจากจะลงทุนให้งอกเงย มีกินมีใช้ไปนานๆแล้ว คงไม่มีใครอยากให้เงินในกระเป๋าลดน้อยถอยลงเป็นแน่ จริงไหม ดังนั้นอย่าลืมใส่ใจจัดการเงินเพื่อรักษาความแน่นของกระเป๋าเอาไว้ด้วย โดยหาคนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพหากเจ็บป่วย ทั้งค่าหมอ ค่ายา รวมถึงค่าห้อง ค่ารักษาต่างๆด้วย “ประกันสุขภาพ” ซึ่งมีความคุ้มครองให้เลือกทั้งแบบเหมาจ่าย และแบบแยกค่าใช้จ่าย โดยจะทำแบบเดี่ยว หรือแบบพ่วงกับประกันชีวิตก็ยังได้

ส่วนใครอยากมอบทรัพย์สมบัติให้กับลูกหลานแบบที่ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะต้องเสียภาษีไหม หรือกังวลว่าคนข้างหลังจะใช้ชีวิตต่อไปได้ไหมก็ให้ “ประกันชีวิต” เป็นตัวช่วยได้เช่นกัน แถมยังมั่นใจหายห่วงได้ตั้งแต่วันแรกที่ทำประกันเลยว่า ลูกหลานจะมีกินมีใช้อย่างแน่นอน ซึ่งประกันชีวิตที่ว่านี้ก็มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ทั้งแบบชั่วระยะเวลา แบบตลอดชีพ แบบสะสมทรัพย์ หรือแบบบำนาญ ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็ขอให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดละกัน

หากใครจัดการเงินที่มีอยู่ได้ครบทั้ง 2 ด้าน ทั้งลงทุนสร้างดอกผลให้งอกเงย
และดูแลคุ้มกันเงินให้อยู่กับเราไปนานๆ ไม่รีบหนีหายไปไหน
รับรองว่าชีวิตจะสดใส แฮปปี้ ตลอดปี ตลอดไป