แม้ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีจีน 100% แต่ถ้อยแถลงล่าสุดช่วยคลายกังวลและผลกระทบค่อนข้างจำกัด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นเริ่มกลับมาบวก

ประเด็นร้อน : ตลาดคลายกังวล หลังภาษีทรัมป์ต่อจีนไม่รุนแรงอย่างที่คิด

แม้ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีจีน 100% แต่ถ้อยแถลงล่าสุดช่วยคลายกังวลและผลกระทบค่อนข้างจำกัด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นเริ่มกลับมาบวก

กดฟัง
หยุด
  • ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 100% มีผล 1 พ.ย. สร้างแรงเทขายในหุ้นเทคโนโลยี ฉุด Nasdaq ร่วงแรงสุดในรอบ 6 เดือน
  • ตลาดเริ่มฟื้นหลังทรัมป์ส่งสัญญาณอ่อนลง โดยโพสต์ว่ามิได้ต้องการทำร้ายจีนหรือนำเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้นักลงทุนคลายกังวล
  • K WEALTH มองผลกระทบจำกัดในระยะสั้น โดยตลาดรอความชัดเจนของการเจรจาการค้าก่อน 1 พ.ย. ขณะเฟดยังเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ

Trump ประกาศภาษีจีนเพิ่มอีก 100%

วันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงสุดในรอบ 6 เดือน หลัง ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 100% ตั้งแต่ 1 พ.ย. และเตรียมใช้มาตรการควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญทั้งหมดของสหรัฐฯ


แรงขายหนักในหุ้นเทคโนโลยีฉุดดัชนี Nasdaq ร่วง -3.6%, S&P 500 -2.7%, โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Semiconductor และ Consumer Electronics ที่ได้รับผลกระทบจากความกังวลเรื่องสงครามการค้ารอบใหม่


Trump ระบุว่าสามารถ “ยกเลิกได้หากจีนยอมถอยจากการจำกัดส่งออกแร่หายาก (Rare Earths)” แต่ตลาดยังวิตกว่าการเจรจาระหว่างสองประเทศอาจล้มเหลวก่อนการประชุม Xi–Trump ปลายเดือนนี้


สถานการณ์ตลาดเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง

หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาโพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X โดยระบุว่า “เราเคารพผู้นำจีน ไม่คิดทำร้าย และไม่ได้ต้องการให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย (Depression)” ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนลง


เช้าวันที่ 14 ต.ค. ตลาดหุ้นจีนกลับมาเปิดในแดนบวก โดย

  • China A50 ปรับขึ้น +0.27%
  • HIS ปรับตัวลดลงเล็กน้อย -0.77%

(ข้อมูล ณ เวลา 11.20 น. วันที่ 14 ต.ค.)


Market Outlook

แม้ตลาดผันผวนแรงจากความเสี่ยงการเมือง–การค้า แต่ต้องรอดูความชัดเจนหลังจากนี้ว่าจะสามารถมีการเจรจาก่อนวันที่ 1 พ.ย. ได้หรือไม่ คาดว่าจะส่งผลกระทบจำกัด อีกทั้ง Fed จะยังเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าเพื่อพยุงเศรษฐกิจ


คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นจีน
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำ “ทยอยสะสมได้”
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นจีน
    • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นจีน “ทยอยสะสมได้”
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS
  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 30% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 30% แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ “รอโอกาสลงทุนที่น่าสนใจ”
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A), K-CHINA-A(A), K-CHX: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A), K-CHX, K-CHINA-A(A) : ป้องกันความเสี่ยง ไม่น้อยกว่ากว่า 75%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-CHX: T+3
    • K-CHINA-A(A): T+4
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A): T+6

คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”, “ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top