-
เงินปันผลจากกองทุนรวมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอในภาวะที่ตลาดผันผวนและสถานการณ์การลงทุนมีความไม่แน่นอน
-
กองทุนปันผลแนะนำ ได้แก่ กองทุน K-GINFRA-A(D), K-GHEALTH, K-INDIA-A(D) และ K-CHINA-A(D)
ในภาวะตลาดผันผวนแบบนี้ “รายได้สม่ำเสมอ” กลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนมองหาไม่แพ้ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา กองทุนปันผลจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับนักลงทุน แต่จะเลือกลงทุนกองทุนปันผลอย่างไรดี บทความนี้ K WEALTH รวบรวมกองทุนปันผล 2568 มาแนะนำ
สร้าง Passive Income ในช่วงตลาดผันผวน
ในช่วงตลาดผันผวน สถานการณ์การลงทุนมีความไม่แน่นอน การมี Passive Income เข้ามาจะช่วยลดความไม่แน่นอนของผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน โดย Passive Income เกิดจากการลงทุนลงแรงในช่วงแรกเพื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือสร้างทรัพย์สินที่จะให้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างรายได้แบบ Passive Income
- ค่าเช่า เช่น ปล่อยเช่าบ้าน คอนโดฯ
- ดอกเบี้ย เช่น ฝากเงิน ลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้
- เงินปันผล เช่น ลงทุนในหุ้น กองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้จากเงินปันผล การลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะลงทุนง่าย เริ่มต้นด้วยเงินเพียง 500 บาท ก็สามารถลงทุนได้ หากสนใจควรเลือกกองทุนไหนดี K WEALTH มีกองทุนปันผลมาแนะนำ
กองทุนปันผลยอดนิยมปี 2568
ข้อมุลกองทุน
| มุมมองการลงทุน(ข้อมูล ณ1 พ.ย. 68) |
| K-GINFRA-A(D) พิจารณาปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง(พิจารณาจ่ายทุกสิ้นเดือน ก.พ. พ.ค. ส.ค. และ พ.ย.) รวมเงินปันผลทั้งหมด3.85บาท/หน่วย
| ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาวยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เช่น ดิจิทัล ไฟฟ้าไฮบริด ระบบขนส่งเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นธีมระยะยาวของกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
|
K-GHEALTH
พิจารณาปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง(พิจารณาจ่ายทุกสิ้นเดือน ม.ค. เม.ย. ก.ค. และ ต.ค.) รวมเงินปันผลทั้งหมด3.50บาท/หน่วย
| ในระยะยาว Healthcare ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีจากประชากรสูงวัย ความต้องการรักษาที่เพิ่มขึ้น และนวัตกรรมทางการแพทย์
|
K-INDIA-A(D) พิจารณาปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง(พิจารณาจ่ายทุกสิ้นเดือน ม.ค. เม.ย. ก.ค. และ ต.ค.) รวมเงินปันผลทั้งหมด7.35บาท/หน่วย
| หากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวตามที่คาด จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มวัฏจักรซึ่งตลาดหุ้นอินเดียมีสัดส่วนหลักเป็นหุ้นกลุ่มดังกล่าว
|
วิธีเลือกกองทุนปันผลให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ
สำหรับแนวทางในการเลือกกองทุนปันผล นอกจากเรื่องนโยบายการลงทุนและความเสี่ยงที่รับได้แล้ว ควรเลือกให้เหมาะกับเป้าหมายของเรา
-
ต้องการได้รับเงินปันผลบ่อย พิจารณากองทุนปันผลที่จ่ายเงินปันผลทุกๆ 3 เดือน และมีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
-
เน้นเสถียรภาพของเงิน พิจารณากองทุนปันผลที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในระดับที่ค่อนข้างสูง โดยไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
- ต้องการยีลด์สูง พิจารณากองทุนปันผลที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นหรือยอมรับการลงทุนที่ค่อนข้างกระจุกตัวในบางหมวดอุตสาหกรรมได้ เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
เริ่มลงทุนกองทุนปันผลอย่างไร
สำหรับการเริ่มต้นลงทุนกองทุนปันผลเป็นเรื่องง่ายมาก ซึ่งวิธีลงทุนที่นักลงทุนหลายคนนิยมใช้เพราะใช้งานง่ายและสะดวกรวดเร็วคือ การลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS หากใครยังไม่มีบัญชีกองทุนก็สามารถเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้เลย

กองทุนปันผลเหมาะกับนักลงทุนที่เน้นผลตอบแทนจากเงินปันผล รวมถึงคนวัยเกษียณที่ต้องการรายได้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ กองทุนปันผลที่ดีไม่ได้มีเพียงแค่ยีลด์สูง แต่ควรเป็นกองทุนที่มีสินทรัพย์ลงทุนที่แข็งแกร่ง มีแนวโน้มเติบโต บริหารจัดการกองทุนได้ดี ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันสถานการณ์ และเหมาะกับเป้าหมายทางการเงินของเรา เพราะรายได้จากเงินปันผลที่มั่นคงควรมาพร้อมกับพอร์ตที่ยั่งยืนในระยะยาว
หมายเหตุ:
-
ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-GINFRA-A(D), K-GHEALTH, K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(D): ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
-
นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-GINFRA-A(D), K-GHEALTH, K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(D): ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
- ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-GINFRA-A(D), K-GHEALTH, K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(D): T+4
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บลจ.กสิกรไทย