-
20 ต.ค. 68 ตลาดหุ้นเวียดนามร่วงหนักกว่า 5% สาเหตุมาจากการตรวจพบว่ามีหลายบริษัทที่ออกหุ้นกู้ ได้มีการทำผิดเกณฑ์ เช่น การใช้เงินจากการออกหุ้นกู้ผิดจุดประสงค์
-
K WEALTH มีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อตลาดหุ้นเวียดนาม โดยยังคงถือต่อได้หากถือไว้ไม่เยอะ หรือหาจังหวะขายทำกำไรหลังจากที่ตลอดทั้งปีขึ้นมาพอสมควร เพื่อลดสัดส่วนและความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัว และนำเงินไปลงทุนกองทุนหุ้นอื่น เช่น K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(A), K-GHEALTH, K-GINFRA, K-GSELECT, K-ATECH
ดัชนี VN Index ปรับตัวลงแรง 5.47% ในวันจันทร์ที่ 20 ต.ค. 68 หลังรายงานของหน่วยงานตรวจสอบของภาครัฐเวียดนามพบว่ามีการละเมิดกฎเกณฑ์ในบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ 67 แห่ง (รวมถึงธนาคาร 5 แห่ง) เช่น การใช้เงินจากการออกหุ้นกู้ผิดจุดประสงค์, การเปิดเผยข้อมูลไม่เพียงพอ, การบริหารเงินทุนไม่เหมาะสม, การชำระเงินต้นและดอกเบี้ยล่าช้า ประกอบกับมีแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนหลังตลาดหุ้นเวียดนามปรับขึ้นมามากกว่า 30% ในปีนี้
ดัชนีและกองทุนที่เกี่ยวข้อง (ข้อมูล ณ สิ้นวันที่ 20 ต.ค. 68)
- VN Index -5.47%เทียบกับวันทำการก่อนหน้า
- VN 30 -5.38%เทียบกับวันทำการก่อนหน้า
- K-VIETNAM -5.24%เทียบกับวันทำการก่อนหน้า
- K-VIETNAMRMF -5.07%เทียบกับวันทำการก่อนหน้า
- K-VIETNAM-SSF -5.10%เทียบกับวันทำการก่อนหน้า
Market Outlook
K WEALTH มีมุมมอง Neutral ต่อการลงทุนตลาดหุ้นเวียดนาม โดยมองว่าตลาดหุ้นเวียดนามได้ปรับตัวขึ้นมารับข่าว (Price-in) ไปแล้ว ทั้งประเด็นการเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญและข่าวการปรับสถานะตลาดหุ้นเวียดนามของ FTSE ไปบางส่วนแล้ว นอกจากนี้ตัวเลข Margin ที่เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง สะท้อนแรงเก็งกำไรที่สูงขึ้น ตลาดหุ้นเวียดนามจึงมีความผันผวนที่เพิ่มขึ้นตามเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในระยะยาวประเทศเวียดนามยังเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการมีข้อตกลงการค้าเสรีที่ค่อนข้างครอบคลุม ทิศทางการพัฒนาประเทศเพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่ชัดเจน เม็ดเงิน FDI ที่ไหลเข้าต่อเนื่อง และคาดการณ์การเติบโต GDP ที่โดดเด่นในย่านอาเซียน
คำแนะนำการลงทุน กองทุนหุ้นเวียดนาม เช่น K-VIETNAM
- นักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นเวียดนาม หากต้องการลงทุนแนะนำลงทุนในกองทุนแนะนำอื่น
- นักลงทุนที่มีการลงทุนกองทุนหุ้นเวียดนามอยู่:
- หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20%ของเงินลงทุน แนะนำให้ถือต่อได้เพื่อคว้าโอกาสการเติบโตในระยะยาวหรือลงทุนในกองทุนแนะนำอื่นที่น่าสนใจก็ได้เช่นกัน
- หากมีสัดส่วนมากกว่า 20%ของเงินลงทุน แนะนำทยอยลดสัดส่วนให้ถือกองทุนหุ้นเวียดนามน้อยกว่า 20% เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนกระจุกตัว และนำเงินส่วนที่ขายคืนไปลงทุนกองทุนแนะนำอื่น ได้แก่
- ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยเข้าลงทุนในกองทุนแนะนำที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว เช่น
- ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ แนะนำทยอยเข้าลงทุนในกองทุนผสมที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ได้แก่ K WealthPLUS Series อย่าง K-WPBALANCED K-WPSPEEDUP หรือกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว K-FIXEDPLUS-A
- ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS-A
หากกองทุนหุ้นเวียดนามที่ถือ มีกำไรมากกว่า 10% แนะนำพิจารณา ทยอยขายทำกำไรบางส่วน (Take Profit) เพื่อล็อกผลตอบแทน และสับเปลี่ยนเงินไปลงทุนกองทุนอื่นเพื่อปรับพอร์ตให้สมดุลได้
หมายเหตุ:
-
ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
- K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
- K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(A), K-GHEALTH, K-GINFRA, K-GSELECT, K-ATECH: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
-
นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(A), K-GHEALTH, K-GINFRA: ป้องกันความเสี่ยง ไม่น้อยกว่ากว่า 75%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-GSELECT, K-ATECH: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
-
ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-SFPLUS: T+1
- K-FIXEDPLUS-A: T+2
- K-GSELECT: T+3
- K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(A), K-GHEALTH, K-GINFRA, K-ATECH: T+4
- K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6