หุ้นจีนยังน่าลงทุน หลังจีนเผยแผนเศรษฐกิจใหม่ เน้นโตมั่นคง เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสีเขียว กองทุน K-CHINA ผลตอบแทนเด่น เหมาะสำหรับผู้ต้องการลงทุนหุ้นจีน

ประเด็นร้อน : หุ้นจีนทำไม? ยังน่าลงทุน หลังเห็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน

หุ้นจีนยังน่าลงทุน หลังจีนเผยแผนเศรษฐกิจใหม่ เน้นโตมั่นคง เทคโนโลยี และเศรษฐกิจสีเขียว กองทุน K-CHINA ผลตอบแทนเด่น เหมาะสำหรับผู้ต้องการลงทุนหุ้นจีน

กดฟัง
หยุด
  • เงินลงทุนในกองทุน K-CHINA ประมาณ 70% อยู่ในหุ้นกลุ่มที่สอดคล้องโดยตรงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน ฉบับที่ 15 ที่เพิ่งเปิดเผยไปเมื่อ 23 ต.ค. 68
  • ผลตอบแทนที่ผ่านมา 3 เดือน ของ K-CHINA อยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งโดดเด่นกว่าดัชนีหุ้นจีนและหุ้นโลกในช่วงเวลาเดียวกัน
  • ผู้ที่ถือกองทุน K-CHINA สามารถถือต่อได้ รวมถึงสามารถทยอยลงทุนเพิ่มได้ หากยังมีการลงทุนหุ้นไม่ถึง 20%ของเงินลงทุน

23 ต.ค. 68 (ไทยปิดทำการ) จีนได้เปิดเผยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน ฉบับที่ 15 (2026–2030) ซึ่งแม้เนื้อหาจะเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่ยังตอกย้ำชัดว่า จีนกำลังเปลี่ยนจาก การโตเร็วแต่เปราะบาง สู่ การโตมั่นคงและยั่งยืน เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว โดยสรุปแผน 5 ปี ฉบับที่ 15 เน้นไปที่ “โตมั่นคง-เทคโนโลยี-สีเขียว”

  • เปลี่ยนจาก โตเร็ว มาเป็น โตอย่างมั่นคงและมีคุณภาพ เน้นเสถียรภาพมากกว่าตัวเลข
  • ผลักดัน เทคโนโลยีของตัวเอง เช่น ชิป AI และอุตสาหกรรมผลิตขั้นสูง เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ
  • เดินหน้า เศรษฐกิจสีเขียว และให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงาน อาหาร และข้อมูล

โดยเช้าวันนี้ 24 ต.ค. 68 เวลาประมาณ 9.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ดัชนีหุ้นจีนอย่าง China A50 และ CSI 300 ก็ยังคงปรับตัวขึ้นประมาณ 0.5%เทียบกับวันก่อนหน้า


มุมมองต่อเศรษฐกิจจีนยุคใหม่: โตช้าลงแต่แข็งแรงกว่าเดิม

  • เศรษฐกิจจีนจะ โตช้าลงแต่มั่นคงขึ้น โดยเน้นประสิทธิภาพมากกว่าปริมาณ
  • การบริโภคภายในประเทศและชนชั้นกลาง จะกลายเป็นแรงขับหลักแทนภาคอสังหาริมทรัพย์
  • รัฐจะใช้งบประมาณหนุน เทคโนโลยี พลังงานสะอาด และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว

มุมมองตลาดหุ้นจีน : เล่นตามนโยบายรัฐ มีโอกาสนำตลาด

  • ตลาดหุ้นจีนยังมี อัพไซด์ระยะกลาง จากแรงหนุนของ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม มูลค่าหุ้นที่ยังถูกกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนที่เริ่มผ่อนคลายลง ซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนให้กลับมาเป็นบวกมากขึ้น
  • ตลาดมีเเนวโน้มให้น้ำหนักกับหุ้นที่ อยู่ในกลุ่มนโยบายรัฐสนับสนุน มากขึ้น
  • กลุ่มที่ได้ประโยชน์ (ตาม MSCI China):
    1. Information Technology – ชิป เทคโนโลยี AI
    2. Communication Services – คลาวด์ แพลตฟอร์มออนไลน์
    3. Consumer Discretionary – รถยนต์ไฟฟ้า อีคอมเมิร์ซ สินค้าพรีเมียม

อัปเดตและมุมมองการลงทุนในกองทุน K-CHINA

  • กองทุน K-CHINA ทำผลงานเด่น ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ +10% (ข้อมูล ณ 21 ต.ค. 68) ชนะทั้งดัชนีหุ้นจีน และดัชนีหุ้นโลกที่อยู่ประมาณ 4%
  • ปัจจุบันกองทุนมีสัดส่วนราว 70% อยู่ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พลังงานสะอาด และการบริโภคในประเทศ สอดคล้องโดยตรงกับนโยบายใหม่ของจีน

คำแนะนำการลงทุน กองทุนหุ้นจีน K-CHINA-A(A) K-CHINA-A(D)

  • นักลงทุนที่มีการลงทุนกองทุน K-CHINA-A(A) หรือ K-CHINA-A(D) อยู่ ยังคงถือต่อไปได้
  • เมื่อรวมกับการถือกองทุนหุ้นจีน หากรวมแล้วมากกว่า 20%ของเงินลงทุน แนะนำหาจังหวะลดสัดส่วนลง โดยขายบางส่วนและนำเงินไปลงทุนกองทุนแนะนำอื่น ที่มีความเสี่ยงใกล้เคียงกัน เช่น K-INDIA-A(D) K-GSELECT
  • สำหรับคนที่ยังไม่มีการลงทุนกองทุนหุ้นจีน K-CHINA-A(A) K-CHINA-A(D) สามารถทยอยลงทุนได้ โดยควรมีสัดส่วน ไม่เกิน 20%ของเงินลงทุน เพื่อคุมความเสี่ยงให้สมดุล

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(A), K-CHINA-A(D), K-GSELECT: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(A), K-CHINA-A(D): ป้องกันความเสี่ยง ไม่น้อยกว่ากว่า 75%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-GSELECT: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-GSELECT: T+3
    • K-INDIA-A(D), K-CHINA-A(A), K-CHINA-A(D): T+4

คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”, “ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top