ประเด็นร้อน : เงินเฟ้อสหรัฐฯ ก.ย. ต่ำคาด แนะจับตาประชุม Fed ปลายสัปดาห์

กดฟัง
หยุด
  • เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 68 ต่ำกว่าคาด หุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวก แต่ยังต้องติดตามตัวเลข Core PCE และผลประชุม Fed ที่จะรู้ผลเช้าวันที่ 30 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย
  • ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ยังคงถือต่อได้ แต่หากต้องการลงทุนเพิ่ม K WEALTH แนะนำลงทุนกองทุน K-GSELECT K-GPIN-A(A) หรือกองทุนผสมกลุ่ม K-WealthPLUS Series เช่น K-WPBALANCED K-WPSPEEDUP

คืนวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. 68 (ตามเวลาประเทศไทย) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวก โดย Nasdaq +1.15% Dow Jones +1.01% และ S&P 500 +0.79%เทียบกับวันก่อนหน้า หลังการประกาศเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาด

  • ดัชนีเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI)
    • ปรับตัวขึ้น 3.0%YoY ในเดือน ก.ย. สูงกว่าระดับ 2.9% ในเดือน ส.ค. แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่ 3.1%
    • เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.3% จาก ระดับ 0.4% ในเดือน ส.ค.
  • ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI)
    • ปรับตัวขึ้น 3.0%YoY ลดลงเล็กน้อยจาก 3.1% ในเดือน ส.ค. และต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้เล็กน้อย
    • เมื่อเทียบรายเดือน Core CPI ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.3% ในเดือนส.ค.

โดยแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงมาจากภาคบริการ เช่น ค่าเช่าที่อยู่อาศัย ค่าโดยสารเครื่องบิน และรถยนต์ แต่สินค้าในหมวดที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าไม่ได้เร่งตัวขึ้นมากอย่างที่ตลาดคาด



Market Outlook

  • ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน ว่า Fed มีแนวโน้มจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้ 28-29 ต.ค. โดยคาดว่าจะรู้ผลเช้ามืดวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย
  • ตลาดให้น้ำหนักความน่าจะเป็นสูงกว่า 90% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคม

ปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม

  • ตัวเลข Core PCE เดือน ก.ย. ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อหลักที่ Fed ใช้ประกอบการตัดสินใจนโยบายการเงิน
  • ท่าทีของ Fed และรัฐบาลสหรัฐฯ หลังเงินเฟ้อเริ่มอยู่ในทิศทางควบคุม
  • พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเฉพาะในหมวดสินค้านำเข้าและบริการที่ต้นทุนยังสูง


คำแนะนำการลงทุน

  • แนะนำทยอยสะสมกองทุนหลัก (Core Portfolio) อย่าง K-WealthPLUS Series เช่น K-WPBALANCED K-WPSPEEDUP เพื่อสร้างความมั่นคงระยะยาว
  • นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ควรพิจารณากองทุนตราสารหนี้ เช่น K-SFPLUS และ K-FIXEDPLUS ซึ่งได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง
  • นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้น อาจทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีผ่านกองทุนแนะนำในเอกสาร Monthly View เช่น K-GSELECT หรือ K-GPIN-A(A) ที่เน้นหุ้น Defensive พร้อมกลยุทธ์ลดความเสี่ยง
  • สำหรับผู้ที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เช่น K-USA K-USXNDQ K-US500X ฯลฯ K WEALTH ยังคงมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อภูมิภาคนี้ (มุมมอง ณ เดือน ต.ค. 68) โดยยังคงถือต่อได้ หากเงินลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่ถึง 30%ของเงินลงทุน แต่หากต้องการลงทุนเพิ่ม แนะนำให้ลงทุนในกองทุนแนะนำอื่นของ K WEALTH ตามที่ได้แนะนำไว้แล้ว

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-GSELECT, K-GPIN-A(A): ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-GSELECT, K-GPIN-A(A): ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-GSELECT, K-GPIN-A(A): T+3
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6

คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”, “ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top