ข้อตกลงทรัมป์-สีจิ้นผิง ที่เมืองปูซาน เป็นสัญญาณบวกต่อบรรยากาศการค้าโลก ลดแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทาน และอาจกระตุ้นแรงซื้อในหุ้นเทคโนโลยีจีนระยะสั้น

ประเด็นร้อน : ทรัมป์คุยสีจิ้นผิง ผ่อนคลายศึกการค้า หนุนบรรยากาศลงทุน

ข้อตกลงทรัมป์-สีจิ้นผิง ที่เมืองปูซาน เป็นสัญญาณบวกต่อบรรยากาศการค้าโลก ลดแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทาน และอาจกระตุ้นแรงซื้อในหุ้นเทคโนโลยีจีนระยะสั้น

กดฟัง
หยุด
  • ข้อตกลงทรัมป์-สีจิ้นผิง เป็นสัญญาณบวกต่อบรรยากาศการค้าโลก ลดแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทาน และอาจกระตุ้นแรงซื้อในหุ้นเทคโนโลยีจีนระยะสั้น
  • K WEALTH มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นจีน และเทคโนโลยีเอเซีย แนะนำเลือกลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีจีนและห่วงโซ่ AI ภายในประเทศที่ได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนของรัฐและการพึ่งพาชิปในประเทศ ผ่านกองทุน K-CHINA และ K-ATECH

Market Update

วันที่ 30 ต.ค. 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำของสหรัฐฯ พบกับ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำของจีน ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยข้อตกลงทรัมป์-สีจิ้นผิง เป็นสัญญาณบวกต่อบรรยากาศการค้าโลก ลดแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทาน และอาจกระตุ้นแรงซื้อในหุ้นเทคโนโลยีจีนระยะสั้น แม้ภาพใหญ่ยังอยู่ในยุค Decoupling หรือการแยกห่วงโซ่อุปทาน นักลงทุนควรใช้จังหวะนี้ปรับพอร์ตสู่ธีมเทคโนโลยีจีนและ AI Ecosystem ภายในประเทศ


สรุปประเด็นสำคัญ

  • สหรัฐฯ ลดภาษีสินค้ากลุ่ม Fentanyl จาก 20% เหลือ 10% หลังการพบปะระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และสีจิ้นผิง ที่เมืองปูซาน พร้อมเลื่อนการเก็บภาษีเพิ่ม 100% ที่เคยขู่ไว้
  • จีนชะลอการใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่ Rare Earths 1 ปี และกลับมาซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะถั่วเหลือง
  • มีสัญญาณบวกต่อกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ของจีน หลังทรัมป์ระบุว่า อาจผ่อนคลายข้อจำกัดการเข้าถึงชิปของ Nvidia (แต่ยังไม่รวมชิปขั้นสูงรุ่น Blackwell)
  • แม้มาตรการลดภาษีช่วยหนุนบรรยากาศลงทุน แต่ผลต่อเศรษฐกิจจีนมีจำกัด คาดช่วยยกระดับ GDP เพียงราว +0.1% เนื่องจากผลกระทบจากภาษีเดิมยังคงอยู่
  • อัตราภาษีเฉลี่ยสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนอยู่ราว 30% ซึ่งยังสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น

มุมมองข้างหน้า

  • ทั้งสองฝ่ายจะขยาย “ช่วงพักศึกการค้า” ออกไปอย่างน้อย 1 ปี
  • ทรัมป์มีกำหนดเยือนจีนเดือนเมษายน 2026 ซึ่งอาจเป็นเวทีลงนามข้อตกลงการค้าอย่างเป็นทางการ

มุมมองการลงทุน

  • การผ่อนคลายความตึงเครียดช่วยหนุน Sentiment เชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ของจีนที่เชื่อมโยงกับห่วงโซ่
  • ระยะกลางถึงยาว ความเสี่ยงจากการแบ่งแยกทางเทคโนโลยี (US–China Tech Decoupling) ยังคงดำเนินต่อ ทั้งสองฝ่ายเร่งสร้างการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี
  • K WEALTH มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นจีน และเทคโนโลยีเอเซีย

คำแนะนำการลงทุน

  • แนะนำเลือกลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีจีนและห่วงโซ่ AI ภายในประเทศที่ได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนของรัฐและการพึ่งพาชิปในประเทศ ผ่านกองทุน
    • K-CHINA ที่มีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี อีกทั้งได้ประโยชน์จาก Sentiment เชิงบวก รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง
    • K-ATECH เน้นลงทุนเทคโนโลยีในเอเซียที่ครอบคลุมกลุ่ม AI พร้องทั้ง Valuation และศักยภาพการเติบโตไม่ได้ด้อยกว่าฝั่งสหรัฐฯ
หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-CHINA-A(A), K-CHINA-A(D), K-ATECH: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6

  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-CHINA-A(A), K-CHINA-A(D): ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 75% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-ATECH: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-CHINA-A(A), K-CHINA-A(D), K-ATECH: T+4

คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”, “ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top