เมื่อถึงช่วงปลายปี คำถามที่วนกลับมาเหมือนเดิมทุกทีคือ “จะซื้ออะไรลดหย่อนภาษีดี?” สำหรับพนักงานเงินเดือนที่ต้องยื่นภาษี ซึ่งการวางแผนภาษีไม่ได้มีไว้แค่ลดภาระภาษีในปีนี้เท่านั้น แต่คือจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่งที่ Gen Y ทุกคนสร้างได้ด้วยตัวเอง การวางแผนภาษีสำหรับคน Gen Y จึงหมายถึงการออกแบบการเงินให้สมดุลระหว่างความมั่งคั่งวันนี้ และความมั่นคงในวันหน้า บทความนี้มีโพยลดหย่อนภาษีที่เหมาะกับ Gen Y มาแนะนำ
คนโสด กับ คนมีครอบครัว จัดการภาษีต่างกันอย่างไร
Gen Y ถือเป็นช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตอีกวัยหนึ่งก็ว่าได้ เนื่องจากมักเป็นช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น บางคนแต่งงาน สร้างครอบครัว มีลูก มีคนข้างหลังต้องดูแล ขณะที่บางคนยังโสด แต่เริ่มมีเป้าหมายชีวิตหลายอย่างมากขึ้น ซึ่งคนโสดกับคนมีครอบครัวมีความแตกต่างกันในการจัดการภาษีอย่างชัดเจน
คนโสด
คนโสด ภาระค่าใช้จ่ายยังไม่สูง มีอิสระทางการเงินสูงกว่าคนมีครอบครัว การจัดการภาษีจึงมุ่งเน้นไปที่การเก็บออมเงินให้ตัวเองไว้ใช้ในอนาคต ลงทุนเพื่อให้เงินเติบโต งอกเงย หากรับความเสี่ยงได้ก็สามารถลงทุนแบบลุยได้ เช่น หุ้นต่างประเทศ หุ้นโลก
หลายคนเลือกใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านกองทุน Thai ESG หรือ RMF เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว พร้อมลดหย่อนภาษีไปในตัว หรือบางคนอาจเพิ่มประกันสุขภาพของตัวเองเพื่อสร้างความอุ่นใจเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงประกันบำนาญเพื่อให้มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอหลังเกษียณ
คนมีครอบครัว
สำหรับคนมีครอบครัว หรือมีภาระต้องดูแลครอบครัว แนวคิดการวางแผนภาษีจึงเปลี่ยนไป จากเดิมที่มุ่งเน้นการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนและเก็บเงินเพื่อตัวเอง เปลี่ยนมาเป็นการเน้นสร้างความมั่นคงให้ครอบครัว และดูแลคนที่อยู่ข้างหลังไม่ให้ลำบาก
หลายคนเลือกใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตที่เน้นความคุ้มครองสูงและประกันสุขภาพ รวมถึงสิทธิลดหย่อนลูกและลดหย่อนคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระภาษีของคนมีครอบครัวไปได้อย่างมาก
ภาษีเกี่ยวอะไรกับความมั่งคั่ง
ภาษี กับ ความมั่งคั่ง
หลายคนจ่ายภาษีเงินเดือน โดยไม่รู้ว่าเงินจำนวนนี้สามารถนำไปสร้างผลตอบแทนได้อีกมาก หากไม่วางแผนภาษีก็ต้องจ่ายภาษีตามอัตรา ยิ่งมีรายได้มากขึ้นเท่าไหร่ ภาระภาษีก็สูงขึ้นตามฐานเงินเดือน และภาษีที่เพิ่มขึ้นจะกินส่วนที่ควรเป็นความมั่งคั่งของคุณไปเรื่อยๆ หากไม่วางแผนภาษีให้ดี
ในทางกลับกัน หากวางแผนภาษีจะสามารถเปลี่ยนเงินภาษีที่ต้องจ่ายให้กลายเป็นเงินออม เงินลงทุนให้กับเราในอนาคตได้ โดยนำเงินไปออมหรือลงทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กองทุน Thai ESG, RMF ประกันสะสมทรัพย์ หรือประกันบำนาญ เมื่อเวลาผ่านไป เงินก้อนนี้จะเติบโต งอกเงยขึ้น สร้างผลตอบแทนให้กับเราในอนาคต ทำให้เรามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น
ตัวอย่าง
หากลงทุนกองทุน RMF เพื่อลดหย่อนภาษีทุกปี ปีละ 100,000 บาท คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี ผ่านไป 30 ปี เงินก้อนนี้จะกลายเป็น 6,643,885 บาท ยังไม่นับรวมสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับในแต่ละปีซึ่งขึ้นอยู่กับฐานภาษีของแต่ละคน เช่น ฐานภาษี 20% ลงทุนกองทุน RMF 100,000 บาท จะประหยัดภาษีไปได้ถึง 20,000 บาท
คนที่กำลังสร้างตัว สร้างครอบครัว ควรเริ่มต้นจัดการภาษีอย่างไร
การวางแผนภาษีสำหรับคนที่มีเงินเดือนเสียภาษี ไม่ใช่แค่การหาว่าจะซื้ออะไรดี แต่ต้องเริ่มจากพื้นฐานต่อไปนี้
-
รายได้ รู้ว่ามีรายได้เข้ามาจากทางไหนบ้าง และรายได้ทั้งปีอยู่ที่เท่าไร
-
ภาระ รู้ภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่มี เช่น คนโสดอาจต้องดูแลพ่อแม่ ส่วนคนมีครอบครัวต้องดูแลสามีภรรยา และลูก และรู้รายจ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครอบครัว
-
อนาคต วางแผนเก็บออมเงินและลงทุนเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายในชีวิต เช่น เพื่อเป็นทุนการศึกษาลูก เพื่อดูแลพ่อแม่ในวัยชรา เพื่อเป็นเงินเกษียณของตัวเอง
หากเราเข้าใจทั้งสามส่วนจะสามารถใช้เครื่องมือลดหย่อนภาษีทั้งกองทุนและประกันมาช่วยสนับสนุนเป้าหมายทางการเงินของเราให้สำเร็จได้
โพยกองทุนลดหย่อนภาษีแนะนำ
กองทุนลดหย่อนภาษีสำหรับคน Gen Y จะเหมาะกับกองทุน RMF เนื่องจากมีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนหลากหลาย เป็นการลงทุนระยะยาวที่สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ในอนาคตและยังช่วยให้มีเงินก้อนไว้ใช้หลังเกษียณ โดยโพยลดหย่อนภาษีแนะนำขอแบ่งออกเป็น 2 ช่วงวัย ได้แก่
วัยเริ่มความมั่นคง ซึ่งเป็นวัยทำงานที่เริ่มมีความมั่นคงในชีวิต กองทุนแนะนำ ได้แก่
-
กองทุน K-GSELECTRMF ลงทุนในกองทุน JPMorgan Global Select Equity ETF ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก
-
กองทุน K-US500XRMF ลงทุนในกองทุน iShares Core S&P 500 ETF ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่มีนโยบายลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ และต้องการเพิ่มความมั่งคั่งในระยะยาว
วัยสร้างครอบครัว ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มมีความก้าวหน้า มีความมั่นคงมากขึ้น และมีครอบครัวต้องดูแล กองทุนแนะนำ ได้แก่
-
กองทุน K-WPBALRMF ลงทุนในหุ้นประมาณ 30% และตราสารหนี้ประมาณ 70%
-
กองทุน K-GDRMF ลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่เน้นลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งในตลาดโลก
เหมาะกับผู้ต้องการความสมดุลระหว่างความเติบโตและความมั่นคง
นอกจากกองทุนลดหย่อนภาษีแล้ว Gen Y ยังสามารถลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตได้ ซึ่งเหมาะกับคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือมีคนข้างหลังต้องดูแล หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ก็มีเงินก้อนไว้ให้คนข้างหลังได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างไม่ลำบาก โดยประกันชีวิตแนะนำ ได้แก่
-
ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองตลอดชีพ 99/5 ที่ให้ความคุ้มครองสูง จ่ายเบี้ยแค่ 5 ปี คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี
- ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองตลอดชีพ 99/9 ที่ให้ความคุ้มครองสูง จ่ายเบี้ย 9 ปี คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี
สรุป: วิธีจัดพอร์ตลดภาษีสำหรับ Gen Y ที่ได้ผลที่สุด
- กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์และหลายภูมิภาค เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาด
- ใช้ประโยชน์จากค่าเบี้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันบำนาญ และสิทธิลดหย่อนต่างๆ ที่มีอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากที่สุด
- จัดการวางแผนลงทุนล่วงหน้าตามฐานเงินเดือน/ฐานภาษีของตนเอง
สำหรับ Gen Y ที่เป็นพนักงานเงินเดือนที่ต้องยื่นภาษีทุกปี ถ้าวางแผนดีๆ การลดหย่อนภาษีจะไม่ใช่ภาระ แต่เป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งระยะยาวที่ทรงพลังที่สุด
หมายเหตุ:
- ระดับความเสี่ยงกองทุน
- นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บลจ.กสิกรไทย