GDP ไทย Q3 โตต่ำกว่าคาด สะท้อนเศรษฐกิจชะลอ แต่ยังไม่เข้าสู่ Technical Recession พร้อมจับตาความเสี่ยงปี 2569 ทั้งส่งออกอ่อนแรง–หนี้ครัวเรือนสูง

ประเด็นร้อน : เศรษฐกิจไทยอ่อนแรง แต่ยังไม่ถดถอย

GDP ไทย Q3 โตต่ำกว่าคาด สะท้อนเศรษฐกิจชะลอ แต่ยังไม่เข้าสู่ Technical Recession พร้อมจับตาความเสี่ยงปี 2569 ทั้งส่งออกอ่อนแรง–หนี้ครัวเรือนสูง

กดฟัง
หยุด
  • GDP ไทย Q3/2568 โตเพียง 1.2% ต่ำคาดและติดลบ QoQ สะท้อนเศรษฐกิจชะลอจากการใช้จ่ายภาครัฐและการผลิตที่หดตัว แม้ส่งออก–ท่องเที่ยวยังพอช่วยประคอง
  • KResearch คาดเศรษฐกิจปี 2568 โต 2% และไม่เข้าสู่ Technical Recession แต่ปี 2569 ยังถูกกดดันจากส่งออกแผ่ว หนี้ครัวเรือนสูง และท่องเที่ยวฟื้นช้า
  • K WEALTH มีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แนะนำ กระจายการลงทุนไปยังตลาดที่เติบโตโดดเด่น เช่น อินเดีย K-INDIA หรือ เทคโนโลยีเอเชีย K-ATECH

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2568

GDP Q3 โต 1.2% YoY (คาดการณ์ 1.6%) จาก 2.8% YoY ในไตรมาสก่อนหน้า และ -0.6% QoQ สะท้อนเศรษฐกิจชะลอตัว แม้ภาคส่งออก–ท่องเที่ยวช่วยพยุง แต่การใช้จ่ายภาครัฐ–การผลิตหดตัว ผู้ประกอบการเร่งปรับลดสินค้าคงคลัง สะท้อนความกังวลต่อความชัดเจนของคำสั่งซื้อในระยะข้างหน้า


แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

  • KResearch ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 2568 เป็น 2.0% (เดิม 1.8%) มอง Q4/2568 ยังขยายตัวได้ราว 0.8%YoY ไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
  • แต่ปี 2569 เศรษฐกิจไทยยังเผชิญแรงกดดัน ทั้งส่งออกอ่อนแรง หนี้ครัวเรือนสูง และท่องเที่ยวฟื้นตัวช้า

คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นไทย
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายบางส่วนเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำ "คงน้ำหนักการลงทุน"
    • หากต้องการลงทุนในหุ้นไทยช่วงนี้ แนะนำ ลงทุนผ่านกองทุนลดหย่อนภาษี
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นไทย
    • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นไทย แนะนำให้ติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า หรือปัจจัยบวกอื่นเพิ่มเติมก่อนเข้าลงทุน
  • สำหรับเงินที่ได้จากการขายคืนและเงินที่ต้องการลงทุนเพิ่ม

    ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยเข้าลงทุนในกองทุนแนะนำที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว เช่น

    • ประเทศเศรษฐกิจขยายตัวสูงอย่างอินเดียผ่านกองทุน K-INDIA ซึ่งกำลังรับอานิสงส์จากทั้งนโยบายการเงินผ่อนคลายด้วยการลดดอกเบี้ยและการกระตุ้นทางการคลังด้วยการลดภาษีบริโภค
    • กองทุนหุ้นเทคโนโลยีเอเชียผ่านกองทุน K-ATECH เน้นลงทุนเทคโนโลยีในเอเซียที่ครอบคลุมกลุ่ม AI พร้อมทั้ง Valuation และศักยภาพการเติบโตไม่ได้ด้อยกว่าฝั่งสหรัฐฯ

    ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ แนะนำทยอยเข้าลงทุนในกองทุนผสมที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ได้แก่

    • K-WealthPLUS Series ซึ่งเป็นกองทุนผสมอย่าง K-WPBALANCED K-WPSPEEDUP
    • K-GDBOND ซึ่งเป็นกองทุนกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลกคุณภาพดี

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED, K-GDBOND ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-INDIA-A(A), K-ATECH: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง 100% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-INDIA-A(A) : ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 75% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-ATECH: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-GSELECT: T+3
    • K-INDIA-A(A), K-ATECH: T+4
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6


คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”, “ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

CIO Office at K WEALTH

Back to top