-
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนและปิดลบ แม้ NVIDIA รายงานกำไรดีกว่าคาด แต่แรงกังวลว่า Fed อาจไม่ลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. หลังตัวเลขตลาดแรงงานฟื้นตัว กดดันตลาดโดยรวม
-
K WEALTH มีมุมมองเป็นกลางในระยะสั้น แต่บวกในระยะยาว หุ้นเทค–AI สหรัฐฯ ราคาแรงและอ่อนไหวต่อข่าว มองตลาดปรับลงรอบนี้เป็น Healthy Correction มากกว่าสัญญาณลบ โดยธีม AI–Tech ยังมีศักยภาพโตต่อ โดยเฉพาะฝั่งเอเชียที่ Valuation ยังน่าสนใจ
Market Update
เมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดตลาดอยู่ในแดนบวก นำโดย NVIDIA ที่ประกาศผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรดีกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นกลับปรับตัวลงในช่วงกลางดึกและปิดตลาดในแดนลบ หลังนักลงทุนเริ่มกังวลว่า Fed อาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.
เนื่องจากตัวเลขตลาดแรงงาน เดือน ก.ย. ที่เปิดเผยออกมามีสัญญาณการฟื้นตัว แม้อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นมาที่ 4.4% จากเดือนก่อนหน้าที่ 4.3% แต่ตัวเลข Nonfarm Payrolls กลับเพิ่มขึ้นถึง 119,000 ตำแหน่ง ดีกว่าคาดการณ์ที่ 53,000 ตำแหน่ง อีกทั้งอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกิดจากมีประชาชนที่ว่างงานกลับเข้าตลาดแรงงานหางานกันมากขึ้น สะท้อนผ่านตัวเลข Participation Rate ที่เพิ่มจาก 62.3% มาที่ 62.4% จึงส่งให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
ดัชนีที่เกี่ยวข้อง
- Dow Jones -0.84%
- S&P500 -1.55%
- Nasdaq -2.15%
(ข้อมูลวันที่ 20 พ.ย. 2025)
Market Outlook
-
K WEALTH มีมุมมอง Neutral ต่อการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและธีม AI โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เนื่องจากราคาหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มดังกล่าวได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากก่อนหน้านี้และได้สะท้อนข่าวดี (Price-in) ของผลประกอบการและการเติบโตที่แข็งแกร่งไปพอสมควรแล้ว อีกทั้ง Valuation ของหลายบริษัท โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำด้าน AI อยู่ในระดับสูง ขณะที่การเพิ่มขึ้นของ Valuation นี้ทำให้ตลาดมีความอ่อนไหวและมีความผันผวนต่อข่าวมากขึ้นเช่นกัน
- นอกจากนี้ตลาดยังมีปัจจัยกดดันระยะสั้นจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงิน รวมถึงแรงขายลักษณะ “Sell on fact” หลังประกาศผลประกอบการ แม้จะออกมาดีกว่าคาด เป็นสัญญาณว่าแรงเก็งกำไรในตลาดเทคโนโลยีเริ่มสูงขึ้นและทำให้ความผันผวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
- อย่างไรก็ตามในระยะยาว K WEALTH มองว่าธีม AI และกลุ่มเทคโนโลยียังคงมีความน่าสนใจจากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตในระดับสูง ความต้องการใช้พลังงานและ Data Center ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงโอกาสการเติบโตในอุตสาหกรรมเดียวกันที่อยู่ใน Asia ซึ่งยังมี Valuation อยู่ในระดับต่ำกว่าและยังไม่สะท้อนศักยภาพการเติบโตเต็มที่เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ
- โดยสรุป K WEALTH ประเมินว่าการปรับตัวลงรอบนี้เป็นลักษณะ Healthy Correction หลังการปรับตัวขึ้นแรงมาก่อนหน้า มากกว่าจะเป็นสัญญาณลบต่อภาพระยะยาวของอุตสาหกรรม AI และเทคโนโลยี
คำแนะนำการลงทุน
- สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐฯ
- หากมีสัดส่วนมากกว่า 30% แนะนำทยอยลดสัดส่วนให้น้อยกว่า 30% เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตกระจุกตัวเกินไป
- หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 30% แนะนำ ถือต่อได้ เพราะระยะยาวโอกาสเติบโตยังสูง หรือจะกระจายไปลงทุนกองทุนอื่นก็ได้เช่นกัน
- สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ
- สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ แนะนำลงทุนในกองทุนแนะนำอื่นที่น่าสนใจกว่า
- สำหรับกองทุนอื่นที่น่าสนใจ มีดังนี้
ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยลงทุนในกองทุนต่อไปนี้ได้
- ประเทศเศรษฐกิจขยายตัวสูงอย่างอินเดียและจีน ผ่านกองทุน K-INDIA และ K-CHINA
- กลุ่ม Defensive ไม่ว่าจะเป็น Global Healthcare อย่าง K-GHEALTH หรือกลุ่ม Global Infrastructure ผ่านกองทุน K-GINFRA
- กองทุนหุ้นเทคโนโลยีเอเชียผ่านกองทุน K-ATECH ซึ่งมีระดับ Valuation ที่น่าสนใจกว่าฝั่งสหรัฐฯ
ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ แนะนำทยอยเข้าลงทุนในกองทุนผสมที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ได้แก่
- K-WealthPLUS Series ซึ่งเป็นกองทุนผสมอย่าง K-WPBALANCED K-WPSPEEDUP
- K-FIXEDPLUS-A ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว
ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำลงทุนในกองทุนตลาดเงินหรือตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS-A
สุดท้ายสำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นอื่น ๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ สัดส่วนเกิน 20% หรือมีกำไรมากกว่า 10% แนะนำ ทยอยขายทำกำไรบางส่วน (Take Profit) เพื่อล็อกผลตอบแทนและปรับพอร์ตให้สมดุล
หมายเหตุ:
-
ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
- K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
- K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A), K-GSELECT, K-INDIA-A(A), K-GHEALTH, K-GINFRA, K-ATECH: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
-
นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง 100% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยงมากกว่า 90% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A), K-INDIA-A(A), K-GHEALTH, K-GINFRA: ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 75% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-GSELECT, K-ATECH: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
-
ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-SFPLUS: T+1
- K-FIXEDPLUS-A: T+2
- K-USXNDQ-A(A), K-GSELECT: T+3
- K-USA-A(A), K-INDIA-A(A), K-GHEALTH, K-GINFRA, K-ATECH: T+4
- K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6