เวียดนามอาจขึ้นดอกเบี้ย ทำตลาดร่วงกว่า 3%

กดฟัง
หยุด
  • 12 ธ.ค. 68 ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงแรงมากกว่า -3% จากการที่นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางเวียดนามอาจขึ้นดอกเบี้ย
  • K WEALTH มีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อตลาดหุ้นเวียดนาม อีกทั้งตลาดหุ้นเวียดนามที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ ได้รับข่าวปัจจัยบวกโดยส่วนใหญ่ไปแล้ว
  • ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นเวียดนาม หากยังถือไม่เกิน 20%ของเงินลงทุน ยังสามารถถือต่อได้ แต่หากถือเกิน 20%ของเงินลงทุนหรือมีกำไรมากกว่า 10% แนะนำทยอยขายบางส่วน เพื่อลดสัดส่วนลง

12 ธ.ค. 68 ในระหว่างวันตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงแรงกว่า 3% เป็นผลมาจากมีข่าวลือในตลาดว่าธนาคารกลางเวียดนามอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อดึงเงินทุนจากสินทรัพย์ทางการเงินประเภทอื่นเข้ามาเพิ่มสภาพคล่อง ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว


ดัชนีและกองทุนที่เกี่ยวข้อง ณ วันที่ 12 ธ.ค. 68

  • ดัชนี VNI -3.06% ดัชนี VN30 -2.98% เทียบกับวันก่อนหน้า
  • กองทุน K-VIETNAM -3.53% กองทุน K-VIETNAMRMF -3.42% เทียบกับวันก่อนหน้า

มุมมองจาก K WEALTH

  • K WEALTH มีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อตลาดหุ้นเวียดนาม โดย Sentiment ระยะสั้นอ่อนแรงลง อีกทั้งตลาดหุ้นเวียดนามที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ ได้รับข่าวปัจจัยบวกโดยส่วนใหญ่ไปแล้ว
  • ขณะเดียวกันหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามข่าวลือ สวนทางความคาดหวังที่ตลาดเคยมองว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ในปี 2568 จะเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นทัั้งในแง่ต้นทุนการเงินและการประเมิน Valuation
  • คาดว่าในระยะสั้นต่อจากนี้ตลาดหุ้นเวียดนามอาจผันผวนจากแรงขายลดความเสี่ยง ส่วนในระยะยาวยังมีศักยภาพเติบโตเด่นเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค

คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับผู้ที่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นเวียดนาม เช่น K- K-VIETNAM
    • หากกองทุนหุ้นเวียดนาม มีสัดส่วนน้อยกว่า 20% ของเงินลงทุน แนะนำถือต่อได้
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% หรือมีกำไรมากกว่า 10% แนะนำทยอยขายทำกำไรบางส่วน (Take Profit) เพื่อล็อกผลตอบแทนและปรับพอร์ตให้สมดุล
  • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นเวียดนาม แนะนำลงทุนในกองทุนแนะนำอื่น

โดยเงินที่ได้จากการขายคืนและเงินที่ต้องการลงทุนเพิ่ม สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยเข้าลงทุนในกองทุนแนะนำที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว เช่น:

  • ประเทศเศรษฐกิจขยายตัวสูงอย่างอินเดียผ่านกองทุน K-INDIA และประเทศจีนผ่านกองทุน K-CHINA
  • กลุ่ม Defensive ไม่ว่าจะเป็น Global Healthcare ผ่านกองทุน K-GHEALTH หรือกลุ่ม Global Infrastructure ผ่านกองทุน K-GINFRA
  • กองทุนหุ้นโลกที่เน้นคัดเลือกหุ้นคุณภาพผ่านกองทุน K-GSELECT
  • กองทุนหุ้นเทคโนโลยีเอเชียผ่านกองทุน K-ATECH

ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ แนะนำทยอยเข้าลงทุนในกองทุนผสมที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ได้แก่

  • K WealthPLUS Series ซึ่งเป็นกองทุนผสมอย่าง K-WPBALANCED K-WPSPEEDUP
  • K-FIXEDPLUS-A ซึ่งเป็นกองทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว

ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำลงทุนในกองทุนตลาดเงินหรือตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS-A


หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-GSELECT, K-INDIA-A(A), K-GHEALTH, K-ATECH, K-CHINA-A(D), K-CHINA-A(A), K-GINFRA-A(D): ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-INDIA-A(A), K-GHEALTH, K-CHINA-A(D), K-CHINA-A(A), K-GINFRA-A(D): ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 75%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-GSELECT, K-ATECH: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-GSELECT : T+3
    • K-INDIA-A(A), K-GHEALTH, K-ATECH, K-CHINA-A(D), K-CHINA-A(A), K-GINFRA-A(D): T+4
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6

คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”, “ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

CIO Office at K WEALTH

Back to top