ตราสารหนี้มีให้เลือกตั้งมากมายทั้งระยะสั้น กลาง ยาว แล้วจะเลือกลงทุนแบบใดดีล่ะ?
คาด Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง แนะเก็บตราสารหนี้ระยะยาวรับอัตราผลตอบแทนที่อยู่ระดับสูงในรอบ 10 ปี
Bond yield ปัจจุบันอยู่ระดับ 4.3% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงในรอบ 10 ปี อาจปรับเพิ่่มขึ้นอีกเล็กน้อยแต่คาดว่าอยู่ในกรอบ 4.5% ในระยะสั้้น จากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีแผนเตรียมออกพันธบัตรระยะยาวเพิ่่มขึ้้นและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด
แม้ Fed จะไม่รีบลดดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แต่คาดว่าความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและผลกระทบจากดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงทำให้คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯอาจถูกปรับลงเพิ่มเติม เป็นปัจจัยหนุนให้ Fed ปรับลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง
การทยอยลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวช่วงนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมเพื่อรับประโยชน์จากระดับ Bond yield ที่สูงและแนวโน้มดอกเบี้ยที่อาจปรับตัวลงซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจะได้ประโยชน์จากมูลค่าราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวขึ้นด้วย และในช่วงที่ผ่านมามีเม็ดเงินลงทุนเข้าตลาดตราสารหนี้โลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่าง กองทุน K-GB-A(D) มีการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวที่มีคุณภาพดีทั่วโลก (Investment grade) ซึ่งได้อานิสงส์จากการส่งสัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ผลตอบแทนกองทุนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 5.62% สูงกว่าดัชนีชี้วัด และมีความผันผวนน้อยกว่ากองทุนตราสารหนี้ประเภทเดียวกัน
(ข้อมูล KAsset ณ วันที่ 31 ม.ค. 67)
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตราสารหนี้ควรกระจายการลงทุนทั้งตราสารหนี้ที่มีอายุระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของการลงทุน
• ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SF,K-SFPLUS ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 1.78% ต่อปี สูงกว่าเงินฝาก มีสภาพคล่องสูง ความผันผวนต่ำมาก สามารถใช้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินหรือเหมาะแก่การพักเงินเพื่อรอลงทุนกองทุนแนะนำอื่นที่สนใจเข้าลงทุน
• ลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง เช่น K-FIXED , K-FIXEDPLUS ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 2.16% ต่อปี สูงกว่าการลงทุนใน กองทุน Term Fund เหมาะแก่การลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงและยังเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งยังมีสภาพคล่องสูง หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินก็สามารถขายคืนก่อนได้
• ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว เช่น K-GB , K-GDBOND ผลตอบแทนกองทุนในช่วง 3 เดือน อยู่ประมาณ 5-6% (ขณะที่ผลตอบแทน 1 ปี อยู่ที่ -0.5% จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีที่ผ่านมา) เพื่อรับประโยชน์จากผลตอบแทนที่สูงขึ้น อีกทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงจะยังได้รับผลตอบแทนจาก capital gain ที่เพิ่มอีกด้วย
ทั้งนี้ กองทุนรวมตราสารหนี้ที่บริหารโดย บลจ.กสิกรไทย ได้รับการยอมรับว่ามีการบริหารงานที่ยอดเยี่ยม ล่าสุดได้รับรางวัล Most Prominent Fund House in Bond Market จากงาน ThaiBMA Best Bond Awards 2023 จัดโดยสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ตอกย้ำในประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนได้เป็นอย่างดี
คำเตือน : ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน