บริษัท จิ๋วแต่แจ๋วในยุโรป

เพราะอะไรที่ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นขนาดกลางในยุโรปถูกมองว่าน่าดึงดูดในช่วงเวลาที่ผ่านมาและมีลักษณะพิเศษอย่างไรที่ทำให้หุ้นขนาดเล็กนี่น่าจับตามอง บทความนี้มีคำตอบ

• บริษัทขนาดเล็กในยุโรปเป็นเหมือน ‘เพชรในตม’ คือเป็นของดีมีศักยภาพการเติบโตสูงหนุนจากทั้งภาพใหญ่และปัจจัยเฉพาะตัว แต่มูลค่าหุ้นไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงเนื่องจากถูกนักวิเคราะห์มองข้าม


• กองทุน K-EUSMALL เป็นกองทุนลงทุนในหุ้นขนาดเล็กในยุโรปที่มีศักยภาพสูง แต่อาจถูกประเมินค่าต่ำเกินไป พร้อมทั้งได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง




เพราะอะไรถึงทำให้ยุโรปถึงน่าสนใจลงทุนตอนนี้

1) ขนาดตลาดที่ใหญ่และมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี: ตลาดหุ้นยุโรปมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองเป็นรองแค่สหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 12.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 11.1% ของตลาดหุ้นโลก นอกจากนี้ รายได้จากหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรปยังมีการกระจายตัวมาจากทั่วโลกประมาณ 75% ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากภาวะสงครามและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ


2) แรงหนุนจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิค: มหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นในปารีสในปี 2024 คาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้าประเทศในทวีปยุโรปมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปในอนาคตได้


3) ปัจจัยมหภาคเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว: หากเราพิจารณาตัวเลขทางเศรษฐกิจในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ดัชนี PMI ที่เปิดเผยออกมาสะท้อนการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม ด้านตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ก็เห็นการขยายตัว 0.4% (YoY) และ 0.3% (QoQ) โดยการเติบโตหลัก ๆ มาจากภาคบริการ นอกจากนี้ ทางธนาคารกลางยุโรปได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 67 ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยุโรปทั้งสิ้น


4) การประเมินมูลค่าที่น่าดึงดูดใจ: สุดท้ายคือเรื่องการประเมินมูลค่า (PE) ซึ่งระดับ PE ของดัชนี STOXX600 อยู่ที่ 13.7 เท่า (ณ วันที่ 24 ก.ค. 2024) ถูกกว่าประเทศในกลุ่มที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ (S&P500) ซึ่งมี PE อยู่ที่ 30.1 เท่า และตลาดหุ้นโลกโดยรวม (MSCI ACWI) ที่ 18.03 เท่า



ทำไมหุ้นขนาดเล็กในยุโรปถึงน่าสนใจกว่าหุ้นขนาดใหญ่

คนส่วนใหญ่มักจะรู้จัก LVMH บริษัท Louis Vuitton เป็นบริษัทสินค้าหรูชั้นนำของโลกมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศโดยเฉพาะจากภูมิภาคเอเชีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ของรายได้ทั้งหมด หรือบริษัท ASML บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของโลกมีสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศราว 49% ซึ่งเหล่านี้เป็นหุ้นขนาดใหญ่ในยุโรป


อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจไม่รู้ว่า บริษัทขนาดกลางและเล็กในยุโรปก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจยุโรปเริ่มฟื้นตัวอย่างในตอนนี้ K Wealth สรุป 4 เหตุผลที่สนับสนุนว่า ทำไมหุ้นขนาดเล็กในยุโรป จึงเริ่มมีความน่าสนใจกว่าหุ้นขนาดใหญ่


1) มีโอกาสการเติบโตตามเศรษฐกิจยุโรปได้มากกว่า: หุ้นขนาดเล็กในยุโรปโดยส่วนใหญ่รายได้หลักจะเป็นรายได้ภายในประเทศ/ภูมิภาค ทำให้มีโอกาสการเติบโตเมื่อเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่มากกว่าบริษัทขนาดใหญ่เช่น LVMH (Louis Vuitton) เป็นบริษัทสินค้าหรูชั้นนำของโลกมีส้ดส่วนรายได้จากภูมิภาคเอเชีย คิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ของรายได้ทั้งหมด และ บริษัท ASML บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของโลกมีสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศราว 49%


2) การประเมินมูลค่าเริ่มน่าสนใจ: หากเราดูดัชนี European Mid-Small Cap เป็นตัวแทนของหุ้นขนาดเล็กในยุโรป ปัจจุบันมีระดับ PE (Price to Earnings) อยู่ที่ประมาณ 14.2 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 19.1 เท่าพอสมควร สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักวิเคราะห์ไม่ให้ความสนใจในหุ้นขนาดเล็ก ที่ในความเป็นจริงแล้วอาจมีศักยภาพการเติบโตที่ดี


3) แนวโน้มการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าบริษัทขนาดใหญ่: โดยปกติแล้วหากเทียบแนวโน้มการเติบโต บริษัทเล็กย่อมมีแนวโน้มที่ดีกว่าบริษัทใหญ่ที่เติบโตมาจนถึงจุดหนึ่งแล้ว ยิ่งหากเป็นบริษัทขนาดเล็กมีการควบคุมโดยธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งกว่าที่มักให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ


4) กระจายความเสี่ยงได้ดี: นอกเหนือจากศักยภาพในการเติบโตที่รวดเร็วแล้ว การลงทุนในบริษัทเล็กยังสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนได้ดี เนื่องจากมีการดำเนินงานในหลากหลายอุตสาหกรรม



ตัวอย่างหุ้นที่น่าจับตามองในยุโรป

Fugro NVเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านข้อมูลทางธรณีวิทยาและวิศวกรรมสำหรับอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และน้ำ โดยมีการดำเนินงานครอบคลุมในหลายประเทศทั่วโลก บริษัทให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมโครงการ การสำรวจ การประมวลผล การวิเคราะห์ และการแปลความหมายข้อมูล รวมถึงการให้คำปรึกษา นอกจากนี้ Fugro ยังให้บริการด้านการตรวจสอบและติดตามสินทรัพย์ทางทะเล การให้สัญญาณและตำแหน่ง และการสนับสนุนการก่อสร้าง


Fugro NV ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024 เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้าว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของโครงการลมนอกชายฝั่ง ส่งผลให้รายได้รวมเติบโต 9.0% ส่งผลให้มีอัตรากำไร กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 16.5% และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี (EBIT) 8.8% กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 24.0 ล้านยูโร เป็น 66.2 ล้านยูโร


Bawag Group: เป็นบริษัทการเงินในออสเตรีย โดยให้บริการแก่ลูกค้าทางพาณิชย์ ธุรกิจขนาดเล็ก บริษัทขนาดใหญ่ อสังหาริมทรัพย์ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีลูกค้ามากกว่า 2.1 ล้านคน ครอบคลุมในออสเตรีย, เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, เนเธอร์แลนด์, ยุโรปตะวันตก และสหรัฐอเมริกา โดยช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา BAWAG Group ได้ประกาศการเซ็นสัญญาซื้อ Knab ธนาคารออนไลน์ของเนเธอร์แลนด์จาก ASR ด้วยมูลค่า 510 ล้านยูโร และกำลังรอการอนุมัติจากองค์กรดูแลกำกับ คาดว่าการซื้อกิจการจะแล้วเสร็จในครึ่งหลังของปี 2024 คาดจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาวของบริษัทฯ


BAWAG Group เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2024 รายงานกำไรสุทธิ 167 ล้านยูโร คิดเป็นกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.11 ยูโร และ อัตราผลตอบแทนจากเงินทุน (ROCE) ที่ 23.7%


CTS Eventum: เป็นบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับตั๋วและการแสดงสดอย่างครบวงจร โดยดำเนินธุรกิจผ่านสองส่วนหลัก ได้แก่ ธุรกิจตั๋วและการแสดงสด โดยธุรกิจตั๋วประกอบด้วยการผลิต การขาย การจัดจำหน่าย และการประชาสัมพันธ์ตั๋วสำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต การแสดงละคร การแข่งขันกีฬา ฯลฯ ส่วนธุรกิจการแสดงสดมุ่งเน้นไปที่การประสานงาน การจัดระเบียบ และการดำเนินการจัดกิจกรรมคอนเสิร์ต เทศกาล และการแสดงสดอื่นๆ ในหลายประเทศทั่วโลก


CTS Eventum รายงานรายได้รวมของกลุ่มบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2024 อยู่ที่ 408.7 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อัตรากำไร EBITDA ที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITDA) เพิ่มขึ้นเร็วกว่ากำไร 3 เท่า ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้น 36.3% เป็น 92.2 ล้านยูโร คิดเป็นอัตรากำไรที่ 22.6%


Reply: เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีและการปรึกษาธุรกิจ โดยเชี่ยวชาญในการออกแบบและการนำเสนอโซลูชั่นและบริการที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ บริษัทมีความเชี่ยวชาญในหลายอุตสาหกรรม โดยให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การวางกลยุทธ์ การออกแบบ การพัฒนา ไปจนถึงการนำไปปฏิบัติจริง และมีการดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก


Reply ได้รายงานผลกระกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2024 ดังนี้ รายได้รวม 554.3 ล้านยูโร (เพิ่มขึ้นจาก 520.6 ล้านยูโรในปี 2023) กำไรก่อนหักภาษี 73.1 ล้านยูโร (เพิ่มขึ้นจาก 62.1 ล้านยูโรในปี 2023) อัตรกำไร EBITDA อยู่ที่ 87.3 ล้านยูโร (เพิ่มขึ้นจาก 81.0 ล้านยูโรในปี 2023) และ EBIT อยู่ที่ 72.1 ล้านยูโร (เพิ่มขึ้นจาก 65.6 ล้านยูโรในปี 2023)



แนะนำกองทุนหุ้นยุโรปขนาดเล็กที่น่าสนใจ

กองทุน K-EUSMALL เป็นกองทุนเปิดที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป สวิสเซอร์แลนด์ สแกนดิเนเวีย บัลแกเรีย โรมาเนีย โครเอเชีย ตุรกี และประเทศเครือรัฐเอกราช แต่ไม่รวมกลุ่มประเทศในสหราชอาณาจักร โดยมุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี กระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อลดความเสี่ยง กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco Continental European Small Cap Equity Fund, C-Acc Shares (EUR) โดยมี Top 10 holding ดังนี้


ที่มา : Invesco


ผลจากการดำเนินงานของกองทุน K-EUSMALL ในช่วง 1 ปี (ตั้งแต่วันที่ 18/07/2023 – 18/7/2024) ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 13.80% ปัจจุบันราคา NAV อยู่ที่ 14.9139




ที่มา : kasikornasset


จากภาพรวมของเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาคยุโรปที่พื้นตัวขึ้น กอปรกับความสามารถในการทำกำไรของหุ้นทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นขนาดเล็กที่มักไม่ได้รับการวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์ ทำให้มีโอกาสที่นักลงทุนจะค้นพบ "เพชรในตม" หรือหุ้นที่มีมูลค่าที่แท้จริงสูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน มีศักยภาพในการเติบโตที่รวดเร็ว ปัจจัยบวกต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หนุนให้มูลค่าของกองทุน K-EUSMALL ปรับตัวขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มองว่าเงินเฟ้อเริ่มอยู่ในระดับที่เหมาะสม เราอาจเห็นการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัท อีกทั้งการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรจะช่วยเพิ่มรายได้ที่มาจากต่างประเทศได้อีกด้วย โดย K WEALTH มีมุมมองค่อนข้างบวก (Slightly Positive) ต่อตลาดหุ้นยุโรป


ขอขอบคุณข้อมูลจาก: Invesco, Kbank, MSCI


คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH อรรถกิจ พิมพ์ศรี
Back to top