ECB คงดอกเบี้ยตามคาด รอติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มเติม
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.75% ตามคาดการณ์ หลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปในการประชุมครั้งที่แล้ว และคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ไว้ที่ 4.25% เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมไว้ที่ 4.50%
แม้อัตราเงินเฟ้อยุโรปจะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่คณะกรรมการต้องการติดตามข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะลดลงมาที่ระดับเป้าหมาย 2% ก่อนจะมีการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการ ECB มีความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อในภาคบริการที่ยังทรงตัว
มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นยุโรป
สภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยังไม่มีปัจจัยกดดันใหม่เพิ่มเติม ส่งผลให้แรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลงและมีแนวโน้มปรับตัวลง โดยนักลงทุนลดความกังวลต่อประเด็นนี้ลงและมองว่า ECB มีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และคาดว่าครั้งแรกจะเกิดขึ้นการประชุมเดือน ก.ย. นี้ โดย ECB จะตัดสินใจจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่เปิดเผยออกมาช่วงระหว่างนี้ไปถึงการประชุมเดือน ก.ย.
จากทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและการลดอัตราดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนประกอบกับระดับมูลค่าของตลาดหุ้นยุโรป (STOXX50) ที่ 14.06 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 16.27 เท่า K WEALTH มีมุมมอง Slightly Positive ต่อการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป นอกจากนี้หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนความน่าสนใจของตลาดหุ้นยุโรป
คำแนะนำการลงทุนกองทุนรวมหุ้นยุโรป
• คำแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นยุโรป เช่น กองทุน K-EUROPE-A(D) และ K-EUSMALL ดังนี้
o นักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นยุโรป หรือมีแต่สัดส่วนน้อยกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำถือต่อ หรือทยอยสะสมเพิ่มเติม
o นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นยุโรป และมีสัดส่วนมากกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำให้ทยอยขายบางส่วนเพื่อลดสัดส่วนให้ต่ำกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด
สำหรับกองทุนแนะนำอื่น มีดังนี้
• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น Medtech, Biotechnology
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม
• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น
o หากไม่สามารถรับความเสี่ยงการลงทุนต่างประเทศได้ แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-FIXED-A ถือลงทุนอย่างน้อย 1 ปี
o ชอบกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศบางส่วน แนะนำพิจารณาลงทุน K-FIXEDPLUS แนะนำถือลงทุนอย่างน้อย 1 ปี
• สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น และไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF-A ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง หรือกองทุน K-SFPLUS เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Investing, Bloomberg