ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25-5.50% ตามคาดการณ์ แต่ได้สงสัญญาณว่าว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ถ้าเกิดเห็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีความสมดุลมากขึ้นระหว่างเงินเฟ้อที่มีโอกาสที่จะลดลงเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% และ ตลาดแรงงานมีความร้อนแรงลดน้อยลง แต่ยังคงขอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงานเพิ่มเติมเพื่อมีให้มีความมั่นใจมากขึ้น ก่อนจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน
ในแถลงการณ์หลังการประชุมรอบนี้ มีการเน้นเรื่องเรื่องหน้าที่ของธนาคารกลางเรื่องการรักษาเสถียรภาพของระดับราคาและการจ้างงานที่เต็มประสิทธิภาพ (dual mandate) โคยครั้งก่อนเน้นเพียงแค่ความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อเพียงอย่างเดียว โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ให้ความเห็นว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่ไม่คาดคิดนั้นลดลงแล้ว ส่วนตลาดแรงงานมองยังคงแข็งแกร่งแต่ชะลอตัวเล็กน้อย การจ้างงานลดลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2564 แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ
มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ในการประชุมครั้งนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีท่าทีที่ Dovish มากขึ้น ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมยังแข็งแกร่ง GDP ไตรมาส 2/67 เติบโตดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เงินเฟ้อที่อยู่ในช่วงขาลง โอกาสการเกิด Recession มีน้อยลงมาก และคาดว่า Fed จะมีการลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งปลายปีนี้ ในช่วงเดือนกันยายน
จากทิศทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปี รวมถึงกระแส AI ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สะท้อนผ่านระดับมูลค่าที่ตึงตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้ Upside มีค่อนข้างจำกัด และเริ่มเห็นแรงกดดันจากผลประกอบการที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ดังนั้น K WEALTH จึงมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
คำแนะนำการลงทุนกองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ
• คำแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ เช่น กองทุน K-USA, K-USXNDQ, K-US500X ดังนี้
o นักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ แนะนำลงทุนในกองทุนแนะนำอื่น ๆ ด้านล่าง
o นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ แนะนำถือลงทุนต่อ หรือหากมีกำไรมากกว่า 10% แนะนำให้ทยอยขายทำกำไร
ตลาดหุ้นจีนบวกแรง แม้ตัวเลข Manufacturing PMI อ่อนแอกว่าที่คาด
เมื่อวานนี้ 31 ก.ค. 67 ดัชนีหุ้นจีน (CSI 300) ดัชนีหุ้นฮ่องกง Hang Seng (HSI) ปรับตัวบวกกว่า 2% แม้ดัชนี Manufacturing PMI ของ Caixin ในเดือน ก.ค. 67 อยู่ที่ 49.8 ต่ำกว่าคาดที่ 51.4 และลดลงจาก 51.8 จุด ในเดือน มิ.ย. 67แสดงให้เห็นถึงการหดตัวของภาคการผลิต เป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ต.ค. สาเหตุหลักมาจากการขึ้นกำแพงภาษีของยุโรปต่อสินค้าจีน โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้นักลงทุนในตลาดมองว่า เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ 5% ทางการจีนน่าจะทำการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต
มุมมองการลงทุน
ความเคลื่อนไหวของทางการจีนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สะท้อนความตั้งใจใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและชัดเจนกว่าปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมยังอ่อนแอและฟื้นตัวต่ำกว่าที่คาด อีกทั้งยังคงต้องรอนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนจากทางการจีนมากขึ้น ดังนั้น K WEALTH จึงยังมีมุมมองเป็น Neutral ต่อการลงทุนตลาดหุ้นจีน
คำแนะนำการลงทุนกองทุนจีน มีดังนี้
คำแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นจีน เช่น กองทุน K-CHINA-A(A), K-CHINA-A(D), K-CCTV และ K-CHX ดังนี้
o นักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นจีน แนะนำลงทุนในกองทุนแนะนำอื่น ๆ ด้านล่าง
o นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นจีน แนะนำถือลงทุนต่อ หรือหากมีกำไรมากกว่า 10% แนะนำให้ทยอยขายทำกำไร
สำหรับกองทุนแนะนำอื่น มีดังนี้
• สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น Medtech, Biotechnology
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม
• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น
o หากไม่สามารถรับความเสี่ยงการลงทุนต่างประเทศได้ แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-FIXED-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ถือลงทุนอย่างน้อย 1 ปี
o ชอบกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศบางส่วน แนะนำพิจารณาลงทุน K-FIXEDPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) แนะนำถือลงทุนอย่างน้อย 1 ปี
• สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น และไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง หรือกองทุน K-SFPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Investing, Bloomberg, CNBC
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”
*กองทุน K-GHEALTH และ K-VIETNAM มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
**กองทุน K-FIXED-A, K-FIXEDPLUS, K-SF-A และ K-SFPLUS มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด