ประเด็นร้อน: หุ้นเทคเอเชียฟื้น นักลงทุนคลายความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย

• ตลาดหุ้นเอเชียมีความผันผวนในสัปดาห์ก่อนหน้า จากการ Unwind yen carry trade และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในสหรัฐฯ แต่หลังจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาดทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและ Fed ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย


• ตลาดหุ้นเอเชียจะได้รับปัจจัยบวกจากการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่ส่งผลให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าในอนาคต เป็นปัจจัยหนุนบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย ดังนั้น K WEALTH มีมุมมอง slightly positive ต่อหุ้นเอเชีย





ตลาดหุ้นเอเชียฟื้น นักลงทุนคลายกังวลเศรษฐกิจ Recession

ตลาดหุ้นเทคโนโลยีเอเชียปรับตัวบวกได้ดี หลังจากที่ระหว่างวันที่ 5-9 ส.ค. 67 ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวน จากการ Unwind yen carry trade และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในสหรัฐฯ แต่หลังจากมีการประกาศดัชนี CPI หรืออัตราเงินเฟ้อชะลอตัวและลดลงมากกว่าที่คาด และตัวเลข Initial Jobless Claims สัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงต่ำกว่าคาด


เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจเปิดเผยออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อประเด็นเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ นอกจากนี้จากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่ำกว่าคาด นักลงทุนจึงมีมุมมองว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เป็นอีกปัจจัยที่กล่าวไปทั้งหมดส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น



มุมมองต่อการลงทุนตลาดหุ้นเอเชีย

ตลาดหุ้นเอเชียจะได้รับปัจจัยบวกจากการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่ส่งผลให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าในอนาคต เป็นปัจจัยหนุนบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย ดังนั้น K WEALTH มีมุมมอง slightly positive ต่อหุ้นเอเชีย



คำแนะนำการลงทุนกองทุนรวมหุ้นเอเชีย

• คำแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นเอเชีย มีดังนี้

o นักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นเอเชีย หรือมีแต่สัดส่วนน้อยกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำถือต่อ หรือทยอยสะสมเพิ่มเติม

o นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นเอเชีย และมีสัดส่วนมากกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำให้ทยอยขายบางส่วนเพื่อลดสัดส่วนให้ต่ำกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด



สำหรับกองทุนแนะนำอื่น มีดังนี้

• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น Medtech, Biotechnology

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GINFRA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ซึ่งลงในบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก เช่น ท่อก๊าซ โรงไฟฟ้า สนามบิน o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GOLD** (ระดับความเสี่ยง 8 จาก 8 ระดับ) เพื่อรับกับความผันผวนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน


• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น

o หากไม่สามารถรับความเสี่ยงการลงทุนต่างประเทศได้ แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-FIXED-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ถือลงทุนอย่างน้อย 1 ปี

o มีความสนใจกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศบางส่วน แนะนำพิจารณาลงทุน K-FIXEDPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) แนะนำถือลงทุนอย่างน้อย 1 ปี


• สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น และไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง หรือกองทุน K-SFPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน



ขอขอบคุณข้อมูลจาก Investing, Bloomberg

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

*กองทุน K-GHEALTH, K-VIETNAM และ K-GINFRA มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

**กองทุน K-FIXED-A, K-FIXEDPLUS, K-SF-A, K-SFPLUS และ K-GOLD มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด



คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH
Back to top