ประธาน Fed เผยถึงเวลาแล้วที่จะลดดอกเบี้ย
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุม Jackson Hole ที่เป็นการประชุมนโยบายทางเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง โดยมีการเชิญบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก ซึ่งการประชุมครั้งนี้นักลงทุนต่างติดตามว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีท่าทีอย่างไรต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย หลังตลาดแรงงานลดความร้อนแรงและอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวชัดเจน
ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. 67 นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงสุนทรพจน์ว่า “ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับนโยบาย” “ทิศทางของการปรับมีความชัดเจน แต่จังหวะเวลาและขนาดของการปรับลดจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับเพิ่มเติม พัฒนาการของมุมมองเศรษฐกิจ และการหาสมดุลของความเสี่ยง” นอกจากนี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังเผยเพิ่มเติมว่า “ความมั่นใจที่ว่าเงินเฟ้อจะกลับมาที่ 2% มีมากขึ้น”
มุมมองต่อท่าทีการประชุม Jackson Hole
การกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้สะท้อนท่าทีชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ก.ย. นี้ ซึ่งส่งผลในเชิงบวกต่อสินทรัพย์การเงินทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก อย่างไรก็ตามกระแส AI ที่หนุนตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี อาจส่งให้ภาพรวมตลาดหุ้นโลกมี Upside จำกัด รวมถึงเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว K WEALTH มีมุมมอง Neutral ต่อการลงทุน ตลาดหุ้นโลก โดยมองว่านักลงทุนจะหันไปให้ความสนใจหุ้นกลุ่มที่ยังมีมูลค่าเหมาะสมและกำไรยังเติบโตได้ดี เช่น Healthcare, Utilities, Infrastructure เป็นต้น
โดยต่อจากนี้ตลาดจะให้ความสนใจต่อตัวเลขเศรษฐกิจที่กำลังจะเปิดเผยออกมาโดยเฉพาะ 1.) ตัวเลขตลาดแรงงาน 2.) ดัขนี PCE และ 3.) ดัชนี CPI ซึ่งต่างมีผลต่อขนาดและจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
คำแนะนำการลงทุนกองทุนรวมหุ้นโลก
• คำแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นโลก เช่น K-WORLDX, K-GLOBE มีดังนี้
o นักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นโลก แนะนำลงทุนในกองทุนแนะนำอื่น
o นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นโลก แนะนำถือลงทุนต่อ
สำหรับกองทุนแนะนำอื่น มีดังนี้
• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น Medtech, Biotechnology
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GINFRA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ซึ่งลงในบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก เช่น ท่อก๊าซ โรงไฟฟ้า สนามบิน
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GOLD** (ระดับความเสี่ยง 8 จาก 8 ระดับ) เพื่อรับกับความผันผวนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น หรือกังวลกับความเสี่ยงในการลงทุน
o หากรับความเสี่ยงได้บ้าง หรือเป็นเงินลงทุนที่ถือได้อย่างน้อย 1 ปี ขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่
กองทุน K-FIXED-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศ
กองทุน K-FIXEDPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนต่างประเทศหรือรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศได้
• หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือต้องการหลีกเลี่ยงทางเลือกที่มีความผันผวน หรือต้องการพักเงินสั้นๆ เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง แนะนำ
o กองทุน K-SF-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน
o กองทุน K-SFPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”
*กองทุน K-GHEALTH, K-VIETNAM และ K-GINFRA มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
**กองทุน K-FIXED-A, K-FIXEDPLUS, K-SF-A, K-SFPLUS และ K-GOLD มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด