K WEALTH / บทความ / Product Review / เกาะขบวน AI พร้อมลดหย่อนภาษีปีนี้ไปกับ KUSXNDQRMF
17 กันยายน 2567
4 นาที

เกาะขบวน AI พร้อมลดหย่อนภาษีปีนี้ไปกับ KUSXNDQRMF


​​​​​​​​​​​“

• ทุกวันนี้การลงทุนในอุตสาหกรรม AI เป็นธีมการลงทุนที่มีแนวโน้มเติบโตในระดับสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI จะได้ประโยชน์ทั้งหมด แต่หากเลือกลงทุนหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกและชื่อเสียงของแต่ละบริษัทก็เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดี มีความน่าเชื่อถือและความมั่นคง ก็ทำให้เรามั้นใจได้ว่าการลงทุนของเราก็จะงอกเงยตามไปด้วย


• K Wealth จึงแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนบริษัทที่มีการเติบโตสูงอย่างอุตสาหกรรม AI ให้มากขึ้นด้วยการลงทุนในกองทุน K US Equity NDQ 100 Index RMF (KUSXNDQRMF) เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการลงทุนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ AI ทั้งทางตรงและทางอ้อมพร้อมทั้งลดหย่อนภาษี ที่จะเสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 10 - 16 กันยายน 2567 นี้




AI ที่เป็นหนึ่งใน Mega Trend สำคัญแห่งโลกการลงทุน

​ในช่วงปีที่ผ่านมา AI ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกระแสหลักของโลกการลงทุน ส่งผลให้ทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่ในธุรกิจ AI เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากความคาดหวังของนักลงทุนว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะก้าวขึ้นมาเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก ที่ผ่านมานักลงทุนจะได้รับคำแนะนำให้เร่งเข้าไปลงทุนในทุกภาคส่วนของ AI Value Chain โดยมีหุ้นจำนวนมากที่ปรับตัวขึ้นพุ่งทยานเกินความเป็นจริง ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI จะมีระดับ Valuation ที่เหมาะสม และมีผลประกอบการ ที่เติบโตดีเสมือนหุ้น NVIDIA



AI ที่ไม่ใช่แค่ ชิป

หากพูดถึง AI แล้วสิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คืออุตสาหกรรมการผลิตชิปหรือ Semiconductor นั่นเอง ที่เป็นเช่นนั้นก็จากความสำคัญในฐานะที่เป็นสมองของ AI ในการประมวลผล ส่งผลให้นักลงทุนหันเข้ามาลงทุนในบริษัทในอุตสาหกรรมนี้อย่างล้นหลาม อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมชิปเท่านั้นที่ได้รับอานิสงส์จาก AI แต่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างอุตสาหกรรม Cloud Computing ที่เปรียบได้กับอุตสาหกรรมต้นน้ำของ AI เนื่องจากการประมวลผลและพัฒนา AI นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ข้อมูลอย่างมหาศาลและพึ่งพาระบบ Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลรวมถึงทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับ AI Developer ในการเข้าถึง Semiconductor นั่นเอง นอกจากนั้นอุตสาหกรรม Data Center และ Cybersecurity ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน​


จากที่ K Wealth ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่าแม้การลงทุนในอุตสาหกรรม AI เป็นธีมการลงทุนที่มีแนวโน้มเติบโตในระดับสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI จะได้ประโยชน์ทั้งหมด ดังนั้น K Wealth จึงแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนบริษัทที่มีการเติบโตสูงอย่างอุตสาหกรรม AI ให้มากขึ้น โดยเน้นลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี รวมถึงมีการกระจายไปในอุตสาหกรรมอื่นๆ แต่ก็ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่สูง ไม่ได้มีการกระจุกตัวแค่ในกลุ่ม AI เพียงกลุ่มเดียว ซึ่งการลงทุนในกองทุน K US Equity NDQ 100 Index RMF (KUSXNDQRMF) โดยกองทุนจะลงทุนใน Invesco NASDAQ 100 ETF (กองทุนหลัก) ที่จะสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Nasdaq 100 ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของโลก พร้อมทั้งได้ประโยชน์ลดหย่อนภาษีอีกด้วย โดยจะเริ่มเสนอขาย (IPO) ระหว่างวันที่ 10 - 16 กันยายน 2567 นี้​



ดัชนี Nasdaq 100 ที่เป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำของโลก

ความน่าสนใจของ Nasdaq 100 คือการเป็นตัวแทนของหุ้นเทคโนโลยีและเต็มไปด้วยหุ้นที่มีการเติบโตสูง ซึ่งหลายบริษัทเคยเป็นหุ้นขนาดเล็กมาก่อนแต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ก็ได้เติบใหญ่กลายเป็นหุ้นชั้นนำของโลกในวันนี้ เมื่อมองถึงการเติบโตของบริษัทที่อยู่ในดัชนี Nasdaq 100 แล้วนั้น (ภาพที่ 1) จะเห็นได้ว่าประมาณการผลประกอบการยังมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยในปี 2024 คาดการณ์กำไรโตกว่า 11% และปี 2025 คาดการณ์จะโตกว่า 20% เลยทีเดียว​


ภาพที่ 1 ประมาณการเติบโตของกำไรบริษัทใน ดัชนี Nasdaq 100​



​นอกจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรในระยะข้างหน้าที่มีการเติบโตสูงแล้ว เรากลับมาดูผลประกอบการในหุ้นของดัชนี Nasdaq 100 ว่าจะยังคงแข็งแกร่งที่จะโตตามแนวโน้มในระยะข้างหน้าหรือไม่ ซึ่งผลประกอบการที่ได้ประกาศมาล่าสุดในไตรมาส 2/2024 (ภาพที่ 2) จะเห็นได้ว่ายังคงออกมาได้ดีและยังประกาศออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้อีกด้วย


​ภาพที่ 2 Earnings Surprise หุ้นในดัชนี Nasdaq 100 Q2/2024



ซึ่งแน่นอนว่าหุ้นในดัชนี Nasdaq 100 ไม่ได้มีแค่หุ้นเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวแต่ประกอบไปด้วยบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภท ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่มีความน่าเชื่อถือและมีตัวเลขการเจริญเติบโตที่มีศักยภาพสูง แต่อย่างไรก็ตามองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ดัชนี Nasdaq 100 โด่งดังระดับโลกนั่นก็คือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี (ภาพที่ 3) ที่นอกเหนือจาก Sector IT แล้วไม่ว่าจะเป็น Amazon หรือ Tesla ที่อยู่ใน Sector Consumer Discretionary ยังมี Meta (Facebook) หรือ Google ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Communication Service เองก็ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั้งสิ้น ​


​ภาพที่ 3 สัดส่วนการลงทุนรายอุตสาหกรรมและสัดส่วน 10 อันดับแรก


เสน่ห์ของ Nasdaq 100 อยู่ที่ความลงตัวของศักยภาพในการเติบโตของตลาด ช่องทางที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงได้ง่าย และประวัติของผลตอบแทนที่แซงค่าเฉลี่ยแทบทุกปี ตราบใดที่บริษัทเทคโนโลยียังคงก้าวหน้าและนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับภาคธุรกิจ และในแง่ของการลงทุนเองดัชนี Nasdaq 100 ก็ถือเป็นสินทรัพย์ตัวสำคัญที่นักลงทุนควรพิจารณาหาซื้อติดพอร์ตกันเอาไว้โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 10 ปีสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 18.6% ต่อปีเลยทีเดียว (ภาพที่ 4) ซึ่งหากนักลงทุนเป็นคนที่มองถึงการลงทุนในระยะยาวที่มองข้ามความผันผวนในระยะสั้นได้ละก็ การลงทุนในดัชนี Nasdaq 100 ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว


ภาพที่ 4 ผลการดำเนินงานย้อนหลังของดัชนี Nasdaq 100 



​จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ดัชนี Nasdaq 100 เป็นดัชนีที่คู่ควรต่อการลงทุน ด้วยเหตุผลที่สรุปได้ง่ายๆ ว่า เป็นดัชนีที่รวมหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกเอาไว้ถึง 100 บริษัท และชื่อเสียงของแต่ละบริษัทก็เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดี อีกทั้งยังมีความน่าเชื่อถือและความมั่นคง รวมถึงผลตอบแทนในอดีตที่โดดเด่น และยิ่งสามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยละก็ยิ่งทวีความน่าสนใจขึ้นอีกมาก ​



บทความโดย K WEALTH กิตติภพ เรืองอ่อน

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ

RMF คืออะไร? คู่มือการลงทุนฉบับง่ายเพื่อเกษียณสบายและได้ลดหย่อนภาษี
ประเด็นร้อน: หุ้นเทคโนโลยีเอเชียฟื้นตัวรับอานิสงส์เงินเฟ้อสหรัฐฯตํ่ากว่าคาดการณ์
คู่มือวางแผนเกษียณฉบับมนุษย์เงินเดือน เริ่มเก็บเงินเกษียณวันนี้มีเหลือใช้ไร้กังวล
KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!