ดัชนีที่เกี่ยวข้อง
• Invesco DB Oil Fund (กองทุนหลักของกองทุน K-OIL) +1.29% (17 ก.ย.) และในรอบ 1 สัปดาห์ +6.78%
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ปิดที่ 71.19 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ +1.57% (17 ก.ย.) และในรอบ 1 สัปดาห์ +5.35%
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ปิดที่ 73.70 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ +1.31% (17 ก.ย.) และในรอบ 1 สัปดาห์ +3.88%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น หาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฟรานซีน (Francine) ซึ่งทำให้การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกกว่า 12% ถูกระงับชั่วคราว
ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1.57% ปิดที่ 71.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 1.31% ปิดที่ 73.70 ดอลลาร์/บาร์เรล สถานการณ์ดังกล่าวช่วยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของกองทุนน้ำมันหลายแห่ง รวมถึง Invesco DB Oil
นักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของตลาด โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่กำลังจะมาถึงในวันนี้ (18 ก.ย.) โดยข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนให้ความเป็นไปได้ถึง 65% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมันอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลให้น้ำมันมีราคาน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ที่มา CME Group ณ วันที่ 18 ก.ย. 67
ตามรายงานจาก Bloomberg เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ตลาดน้ำมันมีการตอบรับบวกต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอล ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนราคาน้ำมัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียง 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การปรับตัวของราคากองทุนน้ำมัน Invesco DB Oil ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ Fed จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับตลาดน้ำมันทั่วโลก ทั้งจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน
มุมมองการลงทุน
K WEALTH ยังมีมุมมองเป็นกลางกับกองทุนน้ำมัน เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความผันผวนสูง จากราคาน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการและอุปทานน้ำมันโลก สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง แม้ว่ากองทุนน้ำมันจะมีปัจจัยสนับสนุนต่างๆ เช่น
1.การคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น การลดดอกเบี้ยทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น อีกทั้งทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทำให้ราคาน้ำมันถูกลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
2. ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง หรือการหยุดชะงักของการผลิตน้ำมันจากพายุและภัยธรรมชาติ เป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาน้ำมัน
3. การจัดการอุปทานจาก OPEC+ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่มีบทบาทในการควบคุมปริมาณการผลิตเพื่อรักษาราคาน้ำมันในระดับที่เหมาะสม
คำแนะนำการลงทุนในกองทุนน้ำมัน
o ผู้ที่ลงทุนกองทุนน้ำมัน ได้แก่ K-OIL สามารถถือลงทุนต่อได้ หรือหากมีกำไรแนะนำขายทำกำไรบางส่วน โดยมีสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำไม่เกิน 15% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
o สำหรับผู้ที่ยังไม่มีกองทุนน้ำมัน แนะนำรอประเมินสถานการณ์ โดยพิจารณาความเสี่ยง ความผันผวน และแนะนำให้กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เพื่อไม่ให้พอร์ตการลงทุนพึ่งพาการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเพียงอย่างเดียว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg และ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”