ประเด็นร้อน: แบงค์ชาติจีนกระตุ้นจัดหนัก ส่งหุ้นจีนทะยานฟ้า

ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดตัวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ที่ระดับ 5% โดยเน้นไปยังการลดอัตราดอกเบี้ยและการเสริมสภาพคล่องเข้าระบบการเงิน

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดตัวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ที่ระดับ 5% โดยเน้นไปยังการลดอัตราดอกเบี้ยและการเสริมสภาพคล่องเข้าระบบการเงิน


• K WEALTH ยังคงมีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อตลาดหุ้นจีน เนื่องจากยังต้องติดตามผลระยะยาวของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนตามเป้าหมายการเติบโตที่ 5% และฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้หรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่สุดที่ตลาดหุ้นจีนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้





แบงค์ชาติจีนจัดมาตรการกระตุ้นชุดใหญ่

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดตัวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ที่ระดับ 5% โดยมีมาตรการที่สำคัญ ดังนี้

• ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 7-day reverse repo จาก 1.7% เหลือ 1.5%

• ปรับลดอัตราส่วนกันเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% เพิ่มสภาพคล่องเข้าระบบ 1 ล้านล้านหยวน

• ปรับลดอัตราเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับอสังหาฯ มือสองมาที่ 15% จาก 25% และลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่พักอาศัยลง 0.5%

• อนุญาตให้กองทุน บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทประกันภัยเข้าถึงแหล่งเงินทุนพิเศษที่สามารถใช้ทรัพย์สินค้ำประกันเพื่อแลกเปลี่ยนสภาพคล่องจาก PBOC ในการซื้อหุ้นได้ และยังรวมถึงการจัดตั้งแหล่งเงินทุนเฉพาะสำหรับบริษัทจดทะเบียนและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อให้สามารถซื้อหุ้นคืนหรือเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นได้


นอกจากนี้ผู้ว่าฯ ธนาคารกลางจีน (PBOC) เผยว่าอาจมีการปรับลด RRR เพิ่มเติมในปีนี้อีกประมาณ 0.25-0.50% และจากมาตรการกระตุ้นที่เปิดเผยออกมาส่งให้ในวันที่ 25 ก.ย. 67 ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ลง 0.3% มาที่ระดับ 2.00%



ดัชนีที่เกี่ยวข้อง

หลังมีมาตรการกระตุ้นซึ่งเน้นไปยังการลดอัตราดอกเบี้ยและเสริมสภาพคล่องเข้าระบบการเงิน ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนทั้งแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงฟื้นตัวแรงนำโดยหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ และเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อผลตอบแทนกองทุนหุ้นจีนทั้งกองทุน K-CHINA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ), K-CCTV* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) และ K-CHX* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) โดยความเคลื่อนไหวของดัชนีที่สำคัญ มีดังนี้

• CSI300 4.33% (24 Sep)

• China A50 5.14% (24 Sep)

• Hang Seng 4.13% (24 Sep)

• Hang Seng China Enterprise 5.09% (24 Sep)



มุมมองการลงทุน

การกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของจีนครั้งนี้ มาจากความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนจะไม่โตตามเป้าหมายที่ 5% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่ออกมาเมื่อช่วงกลางปียังไม่เห็นผลเท่าที่ควร ส่งให้ธนาคารกลางจีน (PBOC) ต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและการลดอัตราการกันสำรอง (RRR) ซึ่งเป็นการผ่อนคลายเชิงนโยบายที่เกินความคาดหมายของตลาด ส่งผลให้ในระยะสั้นตลาดหุ้นจีนได้รับแรงสนับสนุนเชิงบวกจากมาตรการเหล่านี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ และเทคโนโลยีที่รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นและการลดอัตราดอกเบี้ย


อย่างไรก็ตาม K WEALTH ยังคงมีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อตลาดหุ้นจีน เนื่องจากยังต้องติดตามผลระยะยาวของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนตามเป้าหมายการเติบโตที่ 5% และฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้หรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่สุดที่ตลาดหุ้นจีนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้



โดยมีคำแนะนำในกองทุนแนะนำ มีดังนี้

• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น Medtech, Biotechnology

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GINFRA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ซึ่งลงในบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก เช่น ท่อก๊าซ โรงไฟฟ้า สนามบิน

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GOLD** (ระดับความเสี่ยง 8 จาก 8 ระดับ) เพื่อรับกับความผันผวนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน


• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น หรือกังวลกับความเสี่ยงในการลงทุน

o หากรับความเสี่ยงได้บ้าง หรือเป็นเงินลงทุนที่ถือได้อย่างน้อย 1 ปี ขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่

 กองทุน K-FIXED-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศ

 กองทุน K-FIXEDPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนต่างประเทศหรือรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศได้


• หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือต้องการหลีกเลี่ยงทางเลือกที่มีความผันผวน หรือต้องการพักเงินสั้นๆ เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง แนะนำ

o กองทุน K-SF-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน

o กองทุน K-SFPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg, CNBC

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

*กองทุน K-GHEALTH, K-VIETNAM, K-GINFRA, K-CHINA, K-CHX และ K-CCTV มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนหรือป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน

**กองทุน K-FIXED-A, K-FIXEDPLUS, K-SF-A, K-SFPLUS และ K-GOLD มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด



คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH
Back to top