ประเด็นร้อน : เงินเฟ้อสหรัฐฯ ตามคาด หนุนหุ้นเทคพุ่ง สวนทาง Hang Seng ร่วงต่อเนื่อง

หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากแรงหนุนการเลือกตั้งและเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เป็นไปตามคาด ขณะที่ดัชนี Hang Seng ฮ่องกงร่วงลงต่อเนื่องจากความผิดหวังในมาตรการกระตุ้นของจีนและความกังวลต่อนโยบายทรัมป์ อ่านคำแนะนำการลงทุนล่าสุดเพื่อปรับพอร์ตของคุณให้ทันเหตุการณ์





ดัชนีที่เกี่ยวข้อง

• K-CHANGE-A(A) +3.06% (12 พ.ย.) และในรอบ 1 สัปดาห์ +4.79%

• Hang Seng China Enterprise -3.11% (12 พ.ย.) และในรอบ 1 สัปดาห์ -5.68%


ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับแรงหนุนหลักจากผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ตลาดมองว่าผลการเลือกตั้งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ทำให้กลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวในเชิงบวกอย่างเห็นได้ชัด ดัชนี Nasdaq ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่านโยบายของทรัมป์จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ


กราฟ : ดัชนีตลาดหุ้นต่างๆ ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปี ถึงวันที่ 13 พ.ย. 2567




ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 14 พ.ย. 67



เงินเฟ้อที่เป็นไปตามคาด

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 2.6% (YoY) ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเดือนก.ย.เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2.4% ในขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% (YoY) ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ และทรงตัวจากระดับ 3.3% ในเดือนก.ย.


หลังการเปิดเผยดัชนี CPI นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 82% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ให้น้ำหนักเพียง 58.7% ก่อนที่จะมีการเปิดเผยดัชนี CPI


กราฟ : เงินเฟ้อทั่วไป และ เงินเฟ้อพื้นฐาน เดือนตุลาคม ของสหรัฐฯ



ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 14 พ.ย. 67




ที่มา CME FedWatch Tool ณ วันที่ 14 พ.ย. 67



ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง: การปรับตัวลดลงจากความกังวลนโยบายจีนและทรัมป์

ในขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น หุ้นในฮ่องกงกลับปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยดัชนี Hang Seng ร่วงลงจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่


• ผิดหวังในมาตรการของรัฐบาลจีน: นักลงทุนผิดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่เพียงพอในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการบริโภคที่ยังชะลอตัว ทำให้เงินทุนที่คาดว่าจะไหลเข้าสู่ฮ่องกงน้อยลง


• ความกังวลต่อนโยบายของทรัมป์: หลังจากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าหรือการควบคุมการลงทุนที่อาจเข้มงวดขึ้นภายใต้การบริหารของทรัมป์ ที่อาจกระทบต่อภาคเทคโนโลยีและภาคธุรกิจอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับจีนและฮ่องกง


กราฟ : ดัชนีตลาดหุ้นต่างๆ ของจีน ตั้งแต่ต้นปี ถึงวันที่ 13 พ.ย. 2567



ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 14 พ.ย. 67



มุมมองการลงทุน

K WEALTH ยังมีมุมมองเป็นกลางกับกองทุนหุ้นสหรัฐฯ แม้ว่าในระยะสั้น-กลาง จะได้รับผลบวกจากความชัดเจนทางการเมืองและทิศทางดอกเบี้ยขาลง จากมูลค่าตลาดที่ตึงตัว ทำให้ในระยะถัดไปอาจมีความผันผวนได้


สำหรับตลาดหุ้นจีน เรายังมีมุมมองเป็นกลางเนื่องจากตลาดยังเผชิญความผันผวนจากปัจจัยภายในและนโยบายต่างประเทศ นักลงทุนอาจพิจารณากระจายการลงทุนไปยังตลาดอื่นที่มีความมั่นคง


สำหรับภาพรวมการลงทุนในปัจจุบัน แม้ว่านโยบายของทรัมป์จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศและการควบคุมบริษัทเทคโนโลยี ดังนั้น การกระจายการลงทุนและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารความเสี่ยง



กองทุนแนะนำ

• กองทุน K-WPBALANCED (ระดับความเสี่ยง 5 จาก 8 ระดับ) กองทุนกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ สามารถทยอยสะสมเป็น Core Port ได้ เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลาง

• กองทุน K-WPSPEEDUP (ระดับความเสี่ยง 5 จาก 8 ระดับ) กองทุนกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ สามารถทยอยสะสมเป็น Core Port ได้ เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง



ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg และ สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”