ในวันที่ 9 ธันวาคม 24 ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น จากการที่คณะกรรมการ Politburo ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศเตรียมใช้แนวนโยบายการเงินแบบขยายตัวระดับกลาง และจะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น

ประเด็นร้อน: ผลการประชุม Politburo

ในวันที่ 9 ธันวาคม 24 ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น จากการที่คณะกรรมการ Politburo ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศเตรียมใช้แนวนโยบายการเงินแบบขยายตัวระดับกลาง และจะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น

• ผลการประชุมคณะกรรมการ Politburo ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน ประกาศเตรียมใช้แนวนโยบายการเงินแบบขยายตัวระดับกลาง และจะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น ก่อนการประชุมเศรษฐกิจประจำปี Central Economic Work Conference จะเริ่มขึ้น ในวันที่ 11-12 ธ.ค. นี้

• K WEALTH ยังคงมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นจีน แม้ว่ามีการพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน แต่ยังคงต้องติดตามผลในระยะยาวของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้ ว่าจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนได้อย่างมีเสถียรภาพมากน้อยเพียงใด


จีนพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเชิงรุก

ที่ประชุมคณะกรรมการโปลิตบูโร (Politburo) นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระบุว่า คณะกรรมการเตรียมใช้แนวนโยบายการเงินแบบขยายตัวระดับกลาง (Moderately loose monetary policy stance) และจะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น ซึ่งเป็นสัญญานบ่งชี้ถึงโอกาสในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะในการประชุมเศรษฐกิจประจำปี Central Economic Work Conference จะเริ่มขึ้น ในวันที่ 11-12 ธ.ค. นี้


ในทั้งสองเวทีการประชุม ผู้กำหนดนโยบายระดับสูงจะทำการพิจารณาผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่ผ่านมาในปีนี้ พร้อมทั้งวางแผนงานหรือกำหนดภารกิจสำคัญที่จะดำเนินการในปีต่อไป


รัฐบาลกรุงปักกิ่งจะหารือเกี่ยวกับเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจและงบประมาณสำหรับปี 2025 รวมถึงแนวทางในการให้คำแนะนำแก่รัฐบาลท้องถิ่นเพื่อกำหนดเป้าหมายของตนเองก่อนการประชุมสภาประจำปีในช่วงต้นปีหน้า


ดัชนีที่เกี่ยวข้อง

รายงานผลประชุมเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2024 ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นจีนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

• Hang Seng +2.7%

• China A50 +5.9%


ในวันที่ 10 ธันวาคม 2024 ตลาดได้มีการขายทำกำไรระยะสั้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนโดยรวมปรับตัวลดลง

• Hang Seng -0.5%

• China A50 -4.3%


การเคลื่อนไหวของดัชนีเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม และผลการประชุมเศรษฐกิจประจำปี Central Economic Work Conference ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11-12 ธันวาคม อาจส่งผลกระทบต่อราคากองทุนจีนในระยะสั้น


ผลกระทบต่อราคากองทุนหุ้นจีน

หลังจากตลาดรับรู้ถึงปัจจัยบวกดังกล่าว กองทุนที่เกี่ยวข้องได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นซึ่งสะท้อนในราคา NAV เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2024

• K-CHX ปรับตัวขึ้น +4.16% เมื่อเทียบกับวันที่ 6 ธันวาคม 2024


มุมมองการลงทุน

K WEALTH มีมุมมอง Neutral ต่อการลงทุนในตลาดหุ้นจีนและกองทุนหุ้นจีน เช่น K-CHINA K-CCTV K-CHX โดยเริ่มมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นหลังรัฐบาลจีนแสดงความชัดเจนในการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลัง อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามรายละเอียดในแต่ละมาตรการว่าจะให้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวังมากน้อยเพียงใด และการกลับเข้ามาลงทุนของนักลงทุนในตลาดหุ้นจีนจะเข้ามาต่อเนื่องอย่างมีนัยยะหรือไม่

โดยสัดส่วนการลงทุนในกองทุนหุ้นจีนที่แนะนำ

• สำหรับผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีน น้อยกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด

o หากมีกำไร สามารถพิจารณาขายส่วนที่กำไรได้

o แต่หากยังขาดทุน ก็ยังคงสามารถถือต่อได้อยู่ เพื่อรอให้ราคาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง


• สำหรับผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีนเกิน 30%ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำพิจารณาหาโอกาสขายเพื่อลดสัดส่วนให้เหลือน้อยกว่า 30%ของเงินลงทุนรวม


• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น MedTech, Biotechnology

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-USA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พร้อมรับทุกโอกาสการเติบโตของเศรษฐกิจและธุรกิจสหรัฐฯ

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GINFRA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ซึ่งลงในบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก เช่น ท่อก๊าซ โรงไฟฟ้า สนามบิน

o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GOLD** (ระดับความเสี่ยง 8 จาก 8 ระดับ) เพื่อรับกับความผันผวนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน


• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น หรือกังวลกับความเสี่ยงในการลงทุน

o หากรับความเสี่ยงได้บ้าง หรือเป็นเงินลงทุนที่ถือได้อย่างน้อย 1 ปี ขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่

 กองทุน K-FIXED-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศ

 กองทุน K-FIXEDPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนต่างประเทศหรือรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศได้


• หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือต้องการหลีกเลี่ยงทางเลือกที่มีความผันผวน หรือต้องการพักเงินสั้นๆ เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง แนะนำ

o กองทุน K-SF-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน

o กองทุน K-SFPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg




คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

*กองทุน K-GHEALTH, K-VIETNAM และ K-GINFRA มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

**กองทุน K-FIXED-A, K-FIXEDPLUS, K-SF-A, K-SFPLUS และ K-GOLD มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top