-
ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็น 0.5% สูงสุดตั้งแต่ปี 2008 ตามที่ตลาดคาด แสดงถึงความกังวลต่อเงินเฟ้อที่เกินเป้าหมายอยู่
-
K WEALTH ยังมีมุมมอง Slightly Negative ต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น นักลงทุนยังคงถือลงทุนต่อได้ รอจังหวะปรับตัวขึ้น เพื่อทยอยขายบางส่วน แต่ถ้ากำไรแนะนำให้ขายไปลงทุนแนะนำอื่น เช่น กองทุน K-USA-A(A), K-GINFRA-A(D), K-WEALTHPLUS Series เป็นต้น
ธนาคารกลางญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ยตามคาด สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008
วันนี้ 24 ม.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.5% เพิ่มขึ้น 0.25% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 และได้มีการให้แนวโน้มต่อไปในอนาคตว่ายังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ หากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังเติบโตสอดคล้องกับแนวโน้มที่ BOJ วางไว้ และอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น 3% ในเดือน ธ.ค. ซึ่งยังคงสูงกว่าเป้าหมายของ BOJ
โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สามของภายใต้ผู้ว่าอูเอดะภายในระยะเวลาไม่ถึงปีเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ซึ่งแตกต่างกับเหตุการณ์ในเดือนก.ค. ปี 2024 ที่ผ่านมาจนเกิดปัญหา Black Monday ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อน สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดโลกปั่นป่วนและดัชนีหุ้น Nikkei 225 ของญี่ปุ่นร่วงลงรายวันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
Market Indices (24 ม.ค.)
Nikkei225 +0.32%
TOPIX +0.33%
USDJPY -0.48%
คำแนะนำการลงทุนกองทุนหุ้นญี่ปุ่น
- ผู้ที่ลงทุนกองทุนญี่ปุ่น ได้แก่ K-JPX, K-JA-A(D) เป็นต้น สามารถถือลงทุนต่อได้ รอจังหวะปรับตัวขึ้นแล้วทยอยขายบางส่วนเพื่อลดสัดส่วน หรือหากมีกำไรแนะนำขายทำกำไร ให้ไปลงทุนกองทุนอื่นที่มีโอกาสการลงทุนที่ดีกว่า เช่น K-VIETNAM, K-WEALTHPLUS Series, K-GHEALTH, K-GINFRA-A(D) โดยมีสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำไม่เกิน 15% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
- รับผู้ที่ยังไม่มีกองทุนญี่ปุ่น แนะนำรอประเมินสถานการณ์ และพิจารณาการลงทุนในกองทุนอื่นที่แนะนำ เช่น K-VIETNAM, K-WEALTHPLUS Series, K-GHEALTH, K-GINFRA-A(D) เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg