หุ้นไทยกลุ่มสื่อสารบวกแรง ตลาดมองประมูลคลื่นแข่งขันไม่รุนแรง

• หุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวบวกได้ดี นำโดย ADVANC จากปัจจัยบวกของการประมูลคลื่นความถี่ที่แข่งขันไม่สูง และผลประกอบการไตรมาส 4/67 ที่แข็งแกร่ง

•K WEALTH คงมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นไทย เนื่องจากระดับ P/E แตะค่าเฉลี่ย 10 ปีแล้ว และยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นใหม่ที่ชัดเจน นักลงทุนควรจับตานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลและแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2025


หุ้นกลุ่มสื่อสารบวกดี ได้ปัจจัยหนุนจากการประมูลคลื่นความถี่ที่แข่งขันไม่สูง

สัปดาห์ที่ผ่านมากองทุน K-ICT ปรับตัวบวกได้ดี 6.95% นำโดยหุ้น ADVANC ที่เตรียมเข้าประมูลคลื่นความถี่ 21000MHZ ที่กำลังจะหมดอายุ โดยตลาดคาดว่าจะมีคู่แข่งหลักเพียงเจ้าเดียวคือ TRUE ช่วยลดแรงกดดันต่อราคาคลื่นและความเสี่ยงในการประมูล

สำหรับกลยุทธ์ของ ADVANC ในครั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารักษาความสามารถในการให้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้คลื่นความถี่ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 39,000 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมทั้งการซื้อคลื่นที่หมดอายุและการเสริมพอร์ตคลื่นกลาง (mid-band spectrum) เพื่อรองรับความต้องการใช้งานในอนาคต

ประกอบกับในช่วงเดียวกันหุ้น ADVANC ประกาศงบปี ไตรมาส 4/67 กำไรสุทธิ อยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.2% YoY และ 5.4% QoQ

ปัจจัยสนับสนุนงบการเงินที่สำคัญ

• รายได้จากการให้บริการมือถือ (55.9% ของรายได้รวม) อยู่ที่ 31.7 พันล้านบาท (+5.5% YoY, +2.5% QoQ) ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออก
•ARPU เฉลี่ยอยู่ที่ 228 บาท (+2% YoY, +2.3% QoQ)
•รายได้จากอินเทอร์เน็ตบ้าน (FBB) (13.4% ของรายได้รวม) อยู่ที่ 7.6 พันล้านบาท (+51% YoY, +2.2% QoQ) ได้อานิสงส์จากการรวม TTTBB และการขยายฐานลูกค้า ARPU FBB อยู่ที่ 509 บาท (+3.9% YoY, +0.9% QoQ)

โดยกองทุน K-ICT เป็นกองทุนที่กระจุกตัวในหุ้นกลุ่มสื่อสารสัดส่วนหลักเป็น ADVANC 44.95%, TRUE 20.28% และ INTUCH 16.45% ตามลำดับ จึงรับอานิสงส์จากปัจจัยบวกดังกล่าว


มุมมองการลงทุน

สำหรับกองทุน K-ICT เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่ค่อนข้างกระจุกตัวในหุ้นไม่กี่ตัว ทำให้มีความผันผวนมากเวลามีปัจจัยมากระทบต่อราคาหุ้น ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

สำหรับมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในภาพรวม K WEALTH ยังมีมุมมองเป็นกลาง เนื่องระดับมูลค่า (อัตราส่วน P/E) เพิ่มขึ้นมาแตะระดับค่าเฉลี่ย 10 ปี อาจสะท้อนปัจจัยบวกปีที่แล้วไปเรียบร้อยแล้ว โดยยังขาดปัจจัยหนุนใหม่เพิ่มเติม จึงต้องติดตามปัจจัยสนับสนุนใหม่ในปี 2025 โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมจากทางรัฐบาล รวมไปถึงโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเป็นอีกเครื่องมือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ


คำแนะนำสำหรับกองทุนหุ้นไทย ดังนี้

ผู้ที่ถือกองทุนที่มีสัดส่วนหุ้นไทย แนะนำถือต่อ
ผู้ที่ถือกองทุนที่ไม่มีสัดส่วนหุ้นไทย ประเมินสถานการณ์

โดยมีคำแนะนำในกองทุนแนะนำ มีดังนี้
• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้
      • o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น Medtech, Biotechnology
        oแนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-USA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พร้อมรับทุกโอกาสการเติบโตของเศรษฐกิจและธุรกิจสหรัฐฯ
        oแนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม
        o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GINFRA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ซึ่งลงในบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก เช่น ท่อก๊าซ โรงไฟฟ้า สนามบิน
        oแนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GOLD** (ระดับความเสี่ยง 8 จาก 8 ระดับ) เพื่อรับกับความผันผวนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
        • สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น หรือกังวลกับความเสี่ยงในการลงทุน
        oหากรับความเสี่ยงได้บ้าง หรือเป็นเงินลงทุนที่ถือได้อย่างน้อย 1 ปี ขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่
        กองทุน K-FIXED-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศ
        กองทุน K-FIXEDPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนต่างประเทศหรือรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศได้
        • หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือต้องการหลีกเลี่ยงทางเลือกที่มีความผันผวน หรือต้องการพักเงินสั้นๆ เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง แนะนำ
        oกองทุน K-SF-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน
        oกองทุน K-SFPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน







คำเตือน



Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน"

*กองทุน K-GHEALTH, K-VIETNAM, K-GINFRA, K-USA มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนหรือป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน

**กองทุน K-FIXED-A, K-FIXEDPLUS, K-SF-A, K-SFPLUS และ K-GOLD มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด


ผู้เขียน

KWEALTHธนธัช เอนกลาภากิจ

Back to top