หลายคนพยายามออมเงินมาตลอด แต่ทำไมเงินเก็บไม่เพิ่มสักที การออมเงินเป็นพื้นฐานสำคัญของความมั่นคงทางการเงิน แต่การออมอย่างไรให้ได้ผลและเกิดประโยชน์สูงสุด อาจเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ บทความนี้ K WEALTH จะมาแนะนำวิธีออมเงินที่ได้ผลจริง พร้อมทั้งเคล็ดลับการลงทุนเพื่อเพิ่มพูนเงินออมให้งอกเงยมากขึ้น
การออมเงินคืออะไร
การออมเงิน หมายถึง การเก็บเงินส่วนหนึ่งจากรายได้ไว้เพื่อใช้ในอนาคต โดยไม่นำไปใช้จ่ายในปัจจุบัน เป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินและเตรียมพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ทำไมเราควรออมเงิน
การออมเงินมีประโยชน์หลายด้าน ทั้งช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน เป็นกันชนรองรับเหตุฉุกเฉิน ช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะสั้นและระยะยาว ลดความเครียดและความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเงิน รวมถึงเป็นรากฐานสู่อิสรภาพทางการเงินในอนาคต
ออมเงิน กับ ลงทุน ต่างกันอย่างไร
การออมเงิน คือ การเก็บเงินไว้ในที่ปลอดภัย โดยมีความเสี่ยงต่ำและได้รับผลตอบแทนแน่นอน แต่ผลตอบแทนมักจะต่ำด้วย เช่น การฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากประจำ
การลงทุน คือ การนำเงินไปสร้างผลตอบแทนผ่านสินทรัพย์ต่างๆ ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการออม แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน เช่น การลงทุนในหุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์
วิธีออมเงินที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัย
การออมเงินควรปรับให้เหมาะกับช่วงวัยและเป้าหมายชีวิต เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
วัยเริ่มต้นทำงาน (20-30 ปี)
เป็นช่วงที่เริ่มมีรายได้และมีภาระน้อย จึงเป็นโอกาสดีในการสร้างพื้นฐานทางการเงินที่มั่นคง ควรตั้งเป้าหมายออม 10-20% ของรายได้ โดยเริ่มต้นจากจำนวนที่ทำได้จริงแล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้น การเปิดบัญชีออมเงินแยกจากบัญชีใช้จ่ายจะช่วยให้ไม่นำเงินออมมาใช้โดยไม่จำเป็น อีกทั้งการใช้แอปพลิเคชันอย่าง K PLUS ช่วยให้ตั้งเป้าหมายและติดตามการออมได้ง่าย นอกจากนี้ ควรเริ่มลงทุนในกองทุนรวมตั้งแต่อายุน้อยเพื่อให้ได้ประโยชน์จากพลังของการทบต้นที่มากขึ้น
วัยทำงาน (30-50 ปี)
ช่วงที่รายได้เพิ่มขึ้น แต่ภาระค่าใช้จ่ายก็อาจเพิ่มขึ้นด้วย ควรเน้นวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ตั้งคำสั่งให้เงินเข้าบัญชีออมทันทีที่ได้รับเงินเดือนเพื่อไม่ให้นำไปใช้จ่าย ควรมีเงินสำรอง 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือนเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉิน และควรแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
วัยสร้างครอบครัว (35-50 ปี)
ช่วงที่มีภาระครอบครัว ทั้งหนี้บ้าน และค่าเลี้ยงดูบุตร ควรวางแผนการเงินอย่างรอบด้าน ออมเงินเพื่อการศึกษาของบุตรตั้งแต่เนิ่นๆ ผ่านบัญชีเงินฝากหรือกองทุนรวม วางแผนการเงินเพื่อลดภาระในครอบครัวโดยบริหารหนี้ ไม่ก่อหนี้เกินความจำเป็น และสร้างสมดุลระหว่างการชำระหนี้และการออม ไม่ควรทุ่มเงินทั้งหมดไปกับการชำระหนี้จนไม่มีเงินออม
วัยเกษียณ (50 ปีขึ้นไป)
ช่วงที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตหลังเกษียณที่ไม่มีรายได้ประจำ ควรเน้นความสม่ำเสมอและการวางแผนที่รอบคอบเพื่อเกษียณอย่างมั่นคง ปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความเสี่ยงลดลง เน้นการรักษาเงินต้น และวางแผนการใช้เงินหลังเกษียณโดยคำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและวางแผนการเบิกถอนเงินอย่างเหมาะสม
เทคนิคการออมเงินแต่ละแบบ
กฎ 50/30/20: การแบ่งรายได้เพื่อการออมอย่างมีประสิทธิภาพ
กฎ 50/30/20 เป็นแนวทางง่ายๆ ในการจัดสรรรายได้ โดยแบ่งเป็น 50% สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าเช่า ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงการชำระหนี้ 30% สำหรับค่าใช้จ่ายที่อยากได้ เช่น ท่องเที่ยว สันทนาการ และ 20% สำหรับการออมและการลงทุน วิธีนี้จะช่วยให้มีเงินเก็บอย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกว่าตัวเองใช้ชีวิตอย่างจำกัดจนเกินไป
เปรียบเทียบบัญชีเงินฝาก
เงินฝากออมทรัพย์ มีข้อดีคือ ถอนได้ตลอดเวลา สภาพคล่องสูง แต่มีข้อเสียคือ ดอกเบี้ยต่ำ (ประมาณ 0.25-0.5% ต่อปี) เหมาะกับเงินสำรองฉุกเฉินและเงินที่ต้องใช้ในระยะสั้น
เงินฝากประจำ มีข้อดีคือ ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ (ประมาณ 1-2% ต่อปี) แต่มีข้อเสียคือ ถอนก่อนกำหนดอาจไม่ได้รับดอกเบี้ยหรือได้ดอกเบี้ยลดลง เหมาะกับเงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะเวลาหนึ่ง
กองทุนรวม มีข้อดีคือ โอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก แต่มีข้อเสียคือ มีความเสี่ยง มูลค่าอาจลดลงได้ เหมาะกับเงินออมระยะยาว เช่น เงินเกษียณ
แอปพลิเคชันช่วยออมเงิน
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้การออมเงินเป็นเรื่องง่าย อย่าง K PLUS ที่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมอัตโนมัติโดยการตั้งโอนเงินล่วงหน้า
การออมเงิน กับ การลงทุน ควรเลือกแบบไหน
อะไรเหมาะกับคุณ
การตัดสินใจระหว่างการออมและการลงทุนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
ควรเลือกออมเงิน เมื่อต้องการความปลอดภัยของเงินต้น ต้องการสภาพคล่อง สามารถเข้าถึงเงินได้ทันที เป็นเงินสำหรับใช้จ่ายในระยะสั้น (1-3 ปี) หรือยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนมากพอ
ควรเลือกลงทุน เมื่อมีระยะเวลาลงทุนที่ยาวนานพอ (3 ปีขึ้นไป) ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก เข้าใจและยอมรับความเสี่ยงได้ และมีเงินสำรองฉุกเฉินเพียงพอแล้ว
ความเสี่ยงของการออมและการลงทุน
ความเสี่ยงของการออมเงินมีทั้งความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ทำให้เงินมีมูลค่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไป และผลตอบแทนต่ำที่อาจไม่เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว
ส่วนความเสี่ยงของการลงทุนนั้นมีทั้งความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดที่อาจทำให้มูลค่าการลงทุนลดลง ความเสี่ยงจากการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่เหมาะสม และความเสี่ยงจากสภาพคล่องที่อาจไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันทีเมื่อต้องการ
กลยุทธ์ออมและลงทุนที่เหมาะสม
กลยุทธ์ที่ลงตัวคือ การผสมผสานระหว่างการออมและการลงทุน เริ่มจากการสร้างเงินสำรองฉุกเฉินในบัญชีที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ ออมเงินระยะสั้นในบัญชีเงินฝากประจำสำหรับเป้าหมายระยะสั้น 1-3 ปี ลงทุนเพื่อเป้าหมายระยะยาวในหุ้นหรือกองทุนรวมสำหรับเป้าหมาย 3-5 ปี และจัดสรรการลงทุนตามอายุโดยลดสัดส่วนความเสี่ยงเมื่ออายุมากขึ้น
Wealth PLUS ออมเงินและลงทุนในแอปเดียว
Wealth PLUS คืออะไร
Wealth PLUS เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่ครบวงจร อยู่ภายใต้แอป K PLUS ที่ช่วยให้ออมเงินและลงทุนได้อย่างง่ายดาย โดยมีคุณสมบัติที่ช่วยให้การวางแผนการเงินเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก
ทำไม Wealth PLUS เหมาะกับคนที่อยากออมเงิน
Wealth PLUS เหมาะกับคนที่อยากออมเงินเพราะเริ่มต้นลงทุนได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่ มีตัวช่วยวางแผนการเงินที่ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงและแนะนำการลงทุนที่เหมาะกับเรา สามารถลงทุนได้หลากหลายทั้งในกองทุนรวม ตราสารหนี้ และผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นๆ ติดตามการลงทุนได้ง่าย เห็นภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมดในที่เดียว และทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ ขาย หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน
เริ่มต้นใช้งาน Wealth PLUS ได้อย่างไร
การเริ่มต้นใช้งาน Wealth PLUS ทำได้ไม่ยาก เพียงเปิดแอป K PLUS และเลือกเมนู "ลงทุน" หรือ "Investment" จากนั้นกดเลือก "Wealth PLUS" และทำการเปิดบัญชีหากยังไม่มี ทำแบบประเมินความเสี่ยงเพื่อให้ระบบวิเคราะห์ความเหมาะสมในการลงทุน เลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เหมาะกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ แล้วเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนที่สบายใจ
การออมเงินเป็นพื้นฐานสำคัญของความมั่นคงทางการเงิน แต่อย่าลืมว่าในยุคที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นและเงินเฟ้อกัดกินมูลค่าเงินออม การผสมผสานระหว่างการออมและการลงทุนจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มออมเงินวันนี้ด้วยวิธีที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเป้าหมาย การออมอัตโนมัติ หรือการใช้แอปพลิเคชันช่วยออม และเมื่อมีเงินออมพร้อมแล้ว ลองก้าวไปสู่การลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสให้เงินเติบโตมากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บลจ.กสิกรไทย