-
สลากออมทรัพย์เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยส่งเสริมการออมแบบมีวินัย พร้อมลุ้นรางวัล สำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินที่มีความเสี่ยงต่ำและปลอดภัย โดยมีให้เลือกหลายประเภท แตกต่างกันในด้านระยะเวลาการออม อัตราดอกเบี้ย และโครงสร้างรางวัล
-
"หวยเกษียณ" หรือ "สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ" ของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นสลากที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณโดยเฉพาะ มีเงื่อนไขให้ผู้ซื้อต้องมีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ซื้อขั้นต่ำใบละ 50 บาท และไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน
-
K WEALTH แนะนำให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงและพิจารณาทางเลือกการลงทุนอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น กองทุนตราสารหนี้ภาครัฐ กองทุนตลาดเงิน กองทุน Term Fund ซึ่งมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคคล
ช่วงที่ผ่านมา หลายคนน่าจะเคยได้ยินข่าวเรื่อง “หวยเกษียณ” ซึ่งเป็นนโยบายของภาครัฐที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุที่ไม่มีเงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ แล้วหวยเกษียณคืออะไร ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณได้อย่างไร และมีความแตกต่างจากสลากออมทรัพย์อย่างไรบ้าง K WEALTH มีข้อมูลมาแนะนำ
สลากออมทรัพย์คืออะไร
สลากออมทรัพย์ เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกโดยธนาคารของรัฐ มีลักษณะเป็นการออมเงินที่มีการออกรางวัลเป็นระยะ ทำให้ผู้ออมมีโอกาสได้รับเงินรางวัลนอกเหนือจากดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด ซึ่งตอบโจทย์คนที่ต้องการออมเงินในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ยังมีโอกาสลุ้นรางวัลก้อนโต โดยสลากออมทรัพย์เป็นที่นิยมเนื่องจากมีความปลอดภัยสูง มีสถาบันการเงินของรัฐเป็นผู้ค้ำประกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าเงินต้นจะไม่สูญหายแม้ไม่ถูกรางวัล
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่คล้ายคลึงกันเรียกว่า "หวยเกษียณ" ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มนักออมเงินที่มองหาช่องทางเพื่อการเกษียณ โดยจะมีรายละเอียดที่แตกต่างจากสลากออมทรัพย์ทั่วไปซึ่งจะกล่าวถึงในภายหลัง
สลากออมทรัพย์มีกี่ประเภท? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ
ปัจจุบันสลากออมทรัพย์มีหลายประเภทให้เลือก ซึ่งแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันในด้านระยะเวลาการออม อัตราดอกเบี้ย และโครงสร้างรางวัล โดยผู้ออมสามารถเลือกประเภทที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของตนเองได้ เช่น
-
สลากออมทรัพย์ 1 ปี มีสภาพคล่องสูง เหมาะกับคนที่ต้องการออมระยะสั้น เช่น นักศึกษา ผู้เริ่มต้นทำงาน หรือผู้ที่ต้องการสำรองเงินไว้ใช้ในอนาคตอันใกล้
-
สลากออมทรัพย์ 2 ปี มีโอกาสลุ้นรางวัลมากขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการออมระยะยาว เช่น ผู้ที่ทำงานประจำ ผู้ที่ต้องการออมเงินไว้ใช้ในอนาคต หรือผู้ที่เตรียมเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
หวยเกษียณ คืออะไร? ต่างจากสลากออมทรัพย์อย่างไร?
"หวยเกษียณ" หรือชื่อทางการคือ "สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ" เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกโดยกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ช่วยส่งเสริมการออมเงินเพื่อการเกษียณอย่างมีวินัย โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญดังนี้
- ผู้ซื้อต้องมีสัญชาติไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อสลากขูดดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน กอช. ในราคาใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน โดยสามารถสะสมยอดของตนเองได้
- สามารถซื้อได้ทุกวัน โดยมีการออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.
- รางวัลที่ 1 มีมูลค่าสูงถึง 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มีมูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล รวมถึงรางวัลพิเศษ (แจ็กพอต) 1 รางวัล (ถ้ามี) ซึ่งทุกรางวัลสามารถรับเงินได้ทันทีผ่านบัญชีพร้อมเพย์
- ไม่ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม เงินค่าซื้อสลากจะถูกเก็บไว้เป็นเงินออมในบัญชี และสามารถถอนเงินคืนได้เมื่ออายุครบ 60 ปี ผ่าน กอช. พร้อมรับผลตอบแทนจากการลงทุน
จากลักษณะดังกล่าว ทำให้ "หวยเกษียณ" มีความแตกต่างจากสลากออมทรัพย์ทั่วไปหลายประการ ดังนี้
เปรียบเทียบหวยเกษียณกับสลากออมทรัพย์ 
ใครควรเลือกหวยเกษียณ?
หวยเกษียณเหมาะกับคนหลายกลุ่ม ได้แก่
- ผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณอย่างเป็นระบบและมีวินัย
- ผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวและไม่ต้องการถอนเงินก่อนอายุ 60 ปี
- ผู้ที่ชอบการออมเงินในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ยังมีโอกาสลุ้นรางวัล
- ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนและเพิ่มทางเลือกในการออมเงินนอกจากรูปแบบการออมแบบดั้งเดิม
ทางเลือกการลงทุนอื่นๆ สำหรับคนรักความมั่นคง
นอกจากสลากออมทรัพย์และหวยเกษียณแล้ว ยังมีทางเลือกการลงทุนอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำและเหมาะสำหรับผู้ที่รักความมั่นคงในการลงทุน โดย K WEALTH ขอแนะนำทางเลือกดังต่อไปนี้
กองทุนตราสารหนี้ภาครัฐ – ลงทุนปลอดภัย รายได้สม่ำเสมอ
กองทุนตราสารหนี้ภาครัฐเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และตราสารหนี้ที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากมีรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกัน กองทุนประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูงและรับความเสี่ยงได้น้อย โดยมีข้อดีคือ มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้โดยตรง และมีผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในระยะยาว ตัวอย่างกองทุนประเภทนี้ เช่น กองทุน K-TREASURY
กองทุนตลาดเงิน – สภาพคล่องสูง ผลตอบแทนพอประมาณ
กองทุนตลาดเงินเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน และเงินฝากธนาคาร ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำมากและมีสภาพคล่องสูง กองทุนประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้เงินและรับความเสี่ยงได้น้อยที่สุด โดยมีข้อดีคือ มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ มีความเสี่ยงต่ำมาก และมีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของกองทุนตลาดเงินมักจะต่ำกว่ากองทุนตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ ตัวอย่างกองทุนประเภทนี้ เช่น กองทุน K-CASH, K-MONEY
กองทุน Term Fund – เน้นป้องกันความเสี่ยง
กองทุน Term Fund เป็นกองทุนที่มีการกำหนดระยะเวลาการลงทุนไว้แน่นอน เช่น 6 เดือน 1 ปี มีความเสี่ยงต่ำ โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผู้ลงทุนจะทราบประมาณการผลตอบแทนที่จะได้รับก่อนการลงทุน และเมื่อลงทุนจนครบกำหนดเวลาจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ กองทุนประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยและยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินภายในระยะเวลาดังกล่าว โดยมีข้อดีคือ มีความเสี่ยงต่ำ และทราบประมาณการผลตอบแทนล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม กองทุนประเภทนี้มักมีข้อจำกัดในเรื่องสภาพคล่องเพราะมีระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจน ตัวอย่างกองทุนประเภทนี้ เช่น กองทุน Term Fund 6 เดือน 1 ปี เป็นต้น
สลากออมทรัพย์เหมาะกับคุณหรือเปล่า?
สลากออมทรัพย์เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินพร้อมลุ้นรางวัล อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาบางประการ ได้แก่ ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่น โอกาสในการถูกรางวัลใหญ่มีน้อยมาก และหากต้องการถอนก่อนครบกำหนด อาจไม่ได้รับดอกเบี้ย
สำหรับ "หวยเกษียณ" หรือ “สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” ของ กอช. เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเกษียณและต้องการออมเงินระยะยาวไว้ใช้หลังอายุ 60 ปี โดยยังมีโอกาสลุ้นรางวัลระหว่างทาง ซึ่งช่วยสร้างวินัยในการออมเงินเพื่อการเกษียณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม K WEALTH แนะนำให้นักลงทุนพิจารณากระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นด้วย เพื่อสร้างความสมดุลและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยทางเลือกการลงทุนอื่นๆ ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รักความมั่นคง ได้แก่ กองทุนตราสารหนี้ภาครัฐ กองทุนตลาดเงิน และกองทุน Term Fund ซึ่งแต่ละประเภทมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ผู้ลงทุนควรเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงิน ระยะเวลาการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงินเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์และเป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคคล
หมายเหตุ:
- ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-CASH: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 1
- K-MONEY: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 2
- K-TREASURY: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 3
- นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-MONEY: ป้องกันความเสี่ยง 100%
- ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-CASH, K-MONEY, K-TREASURY: T+1
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บลจ.กสิกรไทย, กองทุนการออมแห่งชาติ