หลังจากสงครามการค้าได้ประทุขึ้นอีกครั้ง ตลาดการลงทุนทั่วโลกก็เกิคความปั่นป่วนอย่างมาก สินทรัพย์เสี่ยงต่างถูกเทขายอย่างรุนแรง แต่คูณรู้มั้ยว่าการลงทุนในตราสารหนี้นั้นเป็นอีกสินทรัพย์หนึ่งที่เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี ไม่ว่าจะเป็น K-SF-A, K-SFPLUS, K-FIXED-A และ

อัปเดตภาพรวมกองทุนตราสารหนี้ ฉบับเดือน เม.ย. 68

หลังจากสงครามการค้าได้ประทุขึ้นอีกครั้ง ตลาดการลงทุนทั่วโลกก็เกิคความปั่นป่วนอย่างมาก สินทรัพย์เสี่ยงต่างถูกเทขายอย่างรุนแรง แต่คูณรู้มั้ยว่าการลงทุนในตราสารหนี้นั้นเป็นอีกสินทรัพย์หนึ่งที่เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี ไม่ว่าจะเป็น K-SF-A, K-SFPLUS, K-FIXED-A และ

กดฟัง
หยุด
  • ปี 2024 ถือได้ว่าเป็นปีทองของกองทุนตราสารหนี้ที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างดี ซึ่งได้อานิสงส์จากการเข้าสู่วัฎจักรดอกเบี้ยขาลงอย่างแท้จริง เมื่อเข้าสู่ 2025 สงครามการค้าได้ปะทุขึ้นขีดสุดหลังทรัมป์แถลง "ภาษีตอบโต้" ประเทศคู่ค้าทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นป่วนหนักและนักลงทุนต่างย้ายมาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตราสารหนี้
  • K WEALTH คาดว่าปี 2025 นี้ก็ยังถือได้ว่าเป็นปีที่ดีในการลงทุนกองทุนตราสารหนี้อยู่ โดยแนะนำให้ลงทุนในกองทุน K-SF-A และ K-SFPLUS สำหรับนักลงทุนที่เน้นสภาพคล่องและเป้าหมายผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก และกองทุน K-FIXED-A และ K-FIXEDPLUS สำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายสร้างโอกาสได้ผลตอบแทนโดยรวมที่ดีในระยะยาว

ดอกเบี้ยเปลี่ยนทิศ ปัจจัยหนุน ปี 2024 กองทุนตราสารหนี้ผลตอบแทนดี

ปี 2024 ถือได้ว่าเป็นปีทองของการลงทุนในตราสารหนี้ จากการเปลี่ยนแปลงทิศทางของอัตราดอกเบี้ยได้สร้างโอกาสสำคัญให้กับสินทรัพย์ประเภทนี้อย่างมาก หลังจากเผชิญกับแรงกดดันจากดอกเบี้ยขาขึ้นในปีก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ที่เราแนะนำสร้างผลตอบแทนที่ดีดังนี้


  • K-SF-A (+2.2%)
  • K-SFPLUS (+2.4%)
  • K-FIXED-A (+3.6%)
  • K-FIXPLUS (+3.3%)


แม้ตลาดผันผวนในปี 2025 แต่กองทุนตราสารหนี้ยังไปต่อ

เข้าสู่ปี 2025 ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวนหนักแต่ท่ามกลางความไม่แน่นอนเหล่านี้นักลงทุนจึงต้องการสินทรัพย์ที่มั่นคงมากขึ้น ส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ที่ทาง K WEALTH แนะนำยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างเนื่อง และยิ่งไปกว่านั้นหลัง กนง. ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้ที่เราแนะนำในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2025 เป็นตามนี้

  • K-SF-A (+0.6%)
  • K-SFPLUS (+0.7%)
  • K-FIXED-A (+1.4%)
  • K-FIXEDPLUS (+1.6%)

นอกจากการลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดแล้ว การมีผู้จัดการกองทุนคอยปรับพอร์ตการลงทุนโดยการเพิ่มอายุเฉลี่ยของตราสาร (Duration) ให้ยาวขึ้นเพื่อให้ได้ประโยชน์ก่อนการลดดอกเบี้ยก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสร้างผลตอบแทนใน 3 เดือนแรกของปี 2025


ดอกเบี้ยขาลง...กับโอกาสของการลงทุนตราสารหนี้

การที่ กนง. ตัดสินใจลดดอกเบี้ยสวนกระแสคาดการณ์ของตลาดนั้นมีผลอย่างมากต่อการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากราคาของตราสารหนี้ที่มีอยู่ในตลาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้กองทุนที่ถือตราสารอยู่ก่อนแล้วได้กำไรจาก Capital Gain และยิ่งหากตราสารนั้นมีอายุที่ค่อนข้างยาวแล้วยิ่งจะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นมากกว่าตราสารที่มีอายุสั้นกว่า ดังจะเห็นได้ในภาพด้านล่างนี้ ทุกครั้งที่ กนง. ลดดอกเบี้ยราคาของกองทุนตราสารหนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกองทุน K-FIXED-A และ K-FIXEDPLUS ที่มีอายุของตราสารที่ยาวกว่ากองทุน K-SF-A และ K-SFPLUS



รู้ว่าดอกเบี้ยจะลดต่อ แล้วจะไม่ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ได้อย่างไร

ตลาดยังคงคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้อีก 2 ครั้งหรือมากกว่านั้นก็เป็นได้ จากปัจจัยต่างๆ ดังนี้


  • เศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ กนง. เซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ยมาแล้วก่อนหน้านี้
  • การเกิดแผ่นดินไหวส่งผลให้การหยุดชะงักหรือเลื่อนออกไปของกิจกรรมทางเศรษฐกิจรวมถึงการท่องเที่ยวในระยะสั้นอาจขาดความเชื่อมั่น
  • หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จัดหนัก แถลงภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าทั่วโลก กระทบต่อการเติบเศรษฐกิจไทยค่อนข้างมาก

จะเห็นได้จากภาพด้านล่าง (ซ้าย) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องซึ่งสะท้อนจากการคาดการณ์ลดดอกเบี้ยของตลาดที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิมแค่ 1-2 ครั้งในปีนี้



เลือกลงทุนตราสารหนี้ที่เหมาะสมและถูกจังหวะ ผลตอบแทนดีกว่าที่คิด

การเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่เหมาะกับความเสี่ยงและระยะเวลาการลงทุนของเราแล้ว จังหวะการลงทุนตามวัฏจักรของอัตราดอกเบี้ยนั้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดและลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยดังนี้


  • เมื่ออัตราดอกเบี้ยกำลังเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น ควรเลือกลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างเช่นกองทุน K-SF-A หรือ K-SFPLUS เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ราคาของตราสารหนี้ลดลง แต่กองทุนที่มีอายุเฉลี่ยของตราสารที่สั้น (Duration) จะได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย ในทางกลับกันจะได้ประโยชน์จากตราสารเข้ามาใหม่ที่ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการพักเงินระยะสั้น
  • เมื่ออัตราดอกเบี้ยกำลังเข้าสู่วัฏจักรขาลง ควรเลือกลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวเช่นกองทุน K-FIXED-A และ K-FIXEDPLUS เนื่องจากการนักลงทุนจะได้ประโยชน์จากราคาของตราสารหนี้ที่มีอยู่ในพอร์ตมีมูลค่าสูงขึ้นจนกว่าจะจบวัฏจักรขาลง

คำแนะนำการลงทุน:

  • นักลงทุนที่มีกำไรจากการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบขายออกสามารถถือต่อไปได้ หรือทยอยสะสมตามระยะเวลาและความเสี่ยงก่อนที่ กนง. ลดดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า
  • นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำหรือเคยลงทุนใน Term Fund สามารถเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นหรือระยะยาวได้เนื่องผลตอบแทนของ Term Fund มีแนวโน้มที่ลดลง


คำเตือน

ผลตอบแทนในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต กองทุนรวมนี้มีลักษณะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะเงื่อนไขของผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสอนใจลงทุน

ผู้เขียน

K WEALTH กิตติภพ เรืองอ่อน AISA, AFPT

Back to top