หลายคนอยากลงทุนในหุ้นปันผลเพื่อสร้างรายได้สม่ำเสมอ แต่มักสับสนกับเรื่อง "XD" และกังวลว่าจะพลาดโอกาสรับเงินปันผล บทความนี้จะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกับเครื่องหมาย XD ที่สำคัญต่อการรับเงินปันผล พร้อมแนะนำทางเลือกการลงทุนที่ง่ายและเสี่ยงน้อยกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการรับผลตอบแทนสม่ำเสมอจากเงินปันผล แต่ไม่มีเวลาติดตามตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด
XD ย่อมาจากอะไร ทำไมคำนี้ถึงสำคัญกับนักลงทุนหุ้น
XD ย่อมาจาก Excluding Dividend หมายถึง "ไม่รวมเงินปันผล" เป็นเครื่องหมายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใช้ขึ้นแสดงบนกระดานซื้อขายหุ้น เพื่อแจ้งให้นักลงทุนทราบว่า
ผู้ที่ซื้อหุ้นในวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD และหลังจากนั้น จะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในรอบการจ่ายนั้น
โดยทั่วไป ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย XD ล่วงหน้า 2 วันทำการก่อนวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ของไทยที่ใช้เวลา 2 วันทำการ
XD เกี่ยวข้องกับวันปิดสมุดทะเบียนอย่างไร
วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น (Record Date) คือ วันที่บริษัทจดทะเบียนกำหนดให้เป็นวันสำรวจรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล โดยมีความสัมพันธ์กับเครื่องหมาย XD ดังนี้
- วันขึ้นเครื่องหมาย XD = 2 วันทำการก่อนวันปิดสมุดทะเบียน
- เฉพาะผู้ที่ซื้อหุ้นก่อนวันขึ้น XD และถืออยู่จนถึงวัน XD เท่านั้นที่จะได้รับสิทธิปันผล
- ผู้ที่ซื้อหุ้นในวันที่ขึ้น XD จะไม่ได้รับสิทธิปันผลในรอบนั้น
ความแตกต่างระหว่าง XD กับเครื่องหมายอื่นๆ
นอกจาก XD แล้ว ยังมีเครื่องหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ได้แก่
-
XD (Excluding Dividend) - ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล
-
XR (Excluding Right) - ไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่
-
XW (Excluding Warrant) - ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหลักทรัพย์
-
XT (Excluding Transferable Subscription Right) – ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอน สิทธิได้
-
XM (Excluding Meetings) - ไม่ได้สิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น
-
XE (Excluding Exercise) - ไม่ได้สิทธิในการนำตราสารสิทธิไปแปลงสภาพเป็นหุ้นอ้างอิง
- XN (Excluding Capital Return) - ไม่ได้สิทธิในการรับเงินคืนจากการลดทุน
-
XB (Excluding Other Benefit) – ไม่ได้สิทธิประโยชน์ที่บริษัทให้แก่ผู้ถือหลักทรัพย์ที่บริษัทกำหนด เช่น สิทธิในการ จองซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทในเครือ
-
XA (Excluding All) - ไม่ได้สิทธิทุกประเภทที่บริษัทประกาศให้ในคราวนั้น มักจะขึ้นเครื่องหมาย XA เมื่อหุ้นขึ้นเครื่องหมายมากกว่า 1 เครื่องหมาย
XD ส่งผลต่อสิทธิรับเงินปันผลอย่างไรบ้าง
ซื้อหุ้นก่อนหรือหลัง XD ได้ปันผลเหมือนกันไหม
- ซื้อหุ้นก่อนวันขึ้น XD ➔ ได้รับสิทธิปันผลในรอบนั้น
- ซื้อหุ้นในวันขึ้น XD หรือหลังจากนั้น ➔ ไม่ได้รับสิทธิปันผลในรอบนั้น
ตัวอย่างสถานการณ์จริงที่จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น
สมมติว่า บริษัท ABC จำกัด (มหาชน) ประกาศจ่ายเงินปันผล 1 บาทต่อหุ้น โดยมีกำหนดการดังนี้
- วันที่คณะกรรมการมีมติจ่ายปันผล: 15 มีนาคม 2568
- วันขึ้นเครื่องหมาย XD: 25 มีนาคม 2568
- วันปิดสมุดทะเบียน: 27 มีนาคม 2568
- วันจ่ายเงินปันผล: 20 เมษายน 2568
หากคุณซื้อหุ้น ABC
- วันที่ 24 มีนาคม 2568 (ก่อนวัน XD) ➔ คุณจะได้รับเงินปันผล 1 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 20 เมษายน 2568
- วันที่ 25 มีนาคม 2568 (วัน XD) ➔ คุณจะไม่ได้รับเงินปันผลรอบนี้
ในวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ราคาหุ้นมักจะปรับตัวลดลงเท่ากับมูลค่าเงินปันผลที่จะจ่าย ในกรณีนี้ราคาหุ้น ABC อาจลดลงประมาณ 1 บาท เนื่องจากผู้ซื้อหุ้นในวันนี้จะไม่ได้รับเงินปันผล
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ XD ที่มักเจอ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ XD ที่มักเจอบ่อยๆ ได้แก่
-
ถ้าซื้อหุ้นในวัน XD แล้วถือไว้จนถึงวันจ่ายปันผล จะได้รับปันผลด้วย
ความจริง ไม่ว่าจะถือนานแค่ไหน หากซื้อในวัน XD หรือหลังจากนั้น จะไม่ได้ปันผลในรอบนั้น
-
ราคาหุ้นที่ลดลงในวัน XD เป็นการขาดทุน
ความจริง ราคาที่ลดลงสอดคล้องกับมูลค่าปันผลที่จะไม่ได้รับ ไม่ใช่การขาดทุนที่แท้จริง
-
ควรซื้อหุ้นก่อนวัน XD เสมอเพื่อรับปันผล
ความจริง ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีเสมอไป เพราะราคาหุ้นมักปรับลดลงในวัน XD ใกล้เคียงกับมูลค่าที่ปันผล
หุ้นปันผล เหมาะกับใคร
หุ้นปันผล เหมาะกับ
-
นักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ
การลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดเข้าพอร์ตเป็นประจำ เช่นผู้เกษียณอายุหรือผู้ที่ต้องการรายได้เสริมจากการลงทุนโดยไม่ต้องขายหลักทรัพย์
-
คนที่วางแผนลงทุนระยะยาว
นักลงทุนระยะยาวที่สนใจ "พลังของเงินปันผลทบต้น" (Dividend Reinvestment) จะได้ประโยชน์จากการนำเงินปันผลกลับไปลงทุนต่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ
ถ้าไม่เข้าใจ XD ควรเลือกลงทุนแบบไหนดี
การลงทุนในหุ้นเพื่อรับปันผลมีความซับซ้อนและต้องติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลหรือไม่ต้องการความเสี่ยงสูงอาจพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น
กองทุนหุ้นปันผล – ทางเลือกง่ายๆ สำหรับมือใหม่
กองทุนหุ้นปันผล คือ กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ มีข้อดีคือ
- ไม่ต้องติดตามเรื่อง XD ให้วุ่นวาย
- มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพบริหารให้
- กระจายความเสี่ยงกว่าซื้อหุ้นเอง
กองทุนผสม – ความเสี่ยงต่ำ พร้อมโอกาสรับปันผล
กองทุนผสมจะลงทุนทั้งในหุ้นและตราสารหนี้ ช่วยให้มีความผันผวนน้อยกว่ากองทุนหุ้นล้วน ขณะที่ยังมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี
- ความเสี่ยงต่ำกว่ากองทุนหุ้น
- กองทุนมีรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผล
- เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการความผันผวนสูง
ลงทุนแบบ DCA ในกองทุนที่จ่ายเงินปันผล
การลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือการทยอยลงทุนสม่ำเสมอ เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
- ลงทุนอัตโนมัติทุกเดือน ไม่ต้องจับจังหวะตลาด
- ลดต้นทุนเฉลี่ยเมื่อตลาดผันผวน
- ทำได้ง่ายผ่าน K PLUS
เปรียบเทียบระหว่างหุ้นปันผลกับการลงทุนในกองทุนรวม

เปรียบเทียบความเสี่ยง และความสะดวกในการลงทุน
เลือกลงทุนแบบไหนให้เหมาะกับคุณที่สุด
การลงทุนเพื่อรับเงินปันผลมีหลายรูปแบบ ทั้งการลงทุนในหุ้นโดยตรงที่ต้องเข้าใจเรื่อง XD หรือลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีความสะดวกกว่า การเลือกรูปแบบที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ
-
เวลาที่มี หากมีเวลาจำกัด กองทุนรวมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
-
ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หากไม่ชอบความผันผวนสูง กองทุนผสมอาจเหมาะสมกว่า
-
ขนาดเงินลงทุน ต้องใช้เงินลงทุนมากพอเพื่อกระจายความเสี่ยง สำหรับการลงทุนในหุ้นโดยตรง
-
ความรู้และประสบการณ์ นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มจากกองทุนรวมก่อน
แบบทดสอบเบื้องต้นเพื่อช่วยเลือกแนวทางการลงทุนที่ตรงใจ
ลองตอบคำถามต่อไปนี้เพื่อหาแนวทางการลงทุนที่เหมาะกับคุณ
- คุณมีเวลาติดตามข่าวสารและวันขึ้น XD ของหุ้นแต่ละตัวหรือไม่?
- คุณสามารถรับความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้มากน้อยเพียงใด?
- คุณต้องการรายได้จากการลงทุนบ่อยแค่ไหน – รายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี?
- คุณมีเงินลงทุนเริ่มต้นเท่าไร?
หากคุณตอบว่า มีเวลาน้อย รับความผันผวนได้ไม่มาก ต้องการรายได้เป็นรายไตรมาส และมีเงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก การลงทุนแบบ DCA ในกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
กองทุนแนะนำเพื่อรับเงินปันผล
-
กองทุน K-GHEALTH ลงทุนในหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจดูแลสุขภาพทั่วโลกไม่น้อยกว่า 67% ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง
-
กองทุน K-GINFRA-A(D) ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่มีลักษณะคงทนถาวรทั่วโลก เช่น บริษัทที่อยู่ในหมวดสาธารณูปโภค การขนส่ง พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าอุตสาหกรรม และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง
การทำความเข้าใจเรื่องเครื่องหมาย XD ทำให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสได้รับเงินปันผลซึ่งจะช่วยสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลหรือติดตามตลาด การลงทุนในกองทุนหุ้นปันผลก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพบริหารจัดการให้ และสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่อคาดหวังเงินปันผล ควรเป็นการทยอยลงทุน (DCA) และ/หรือ ถือเงินลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 3-5 ปีขึ้นไป เพราะในระยะสั้นทางเลือกเหล่านี้ราคามีความผันผวน และในบางช่วงเวลาอาจไม่มีการจ่ายเงินปันผลได้
หมายเหตุ:
- ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-GHEALTH, K-GINFRA-A(D): ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
- นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-GHEALTH, K-GINFRA-A(D): ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
- ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-GHEALTH, K-GINFRA-A(D): T+4
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บลจ.กสิกรไทย, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย