-
สำหรับการลดหย่อนภาษีปีนี้ กองทุน K-70ThaiESGX เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีความยั่งยืนตามหลัก ESG ประมาณ 70% และอีก 30% กระจายไปยังตราสารหนี้และตลาดเงินเพื่อลดความผันผวน จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการรับโอกาสหาผลตอบแทนจากหุ้นไทยพื้นฐานดี แต่ก็ต้องการลดความเสี่ยงไปพร้อมกัน โดยกองทุนนี้สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท หรือไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และวงเงินสำหรับผู้ลงทุนที่โยก LTF มาเข้า Thai ESGX ลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท โดยต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปีแบบวันชนวัน
-
สำหรับช่องทางการลงทุนใน K-70ThaiESGX นั้นสามารถทำได้ง่ายและสะดวก ผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS หรือหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา กองทุนจะเปิดให้จองซื้อครั้งแรกระหว่างวันที่ 2–8 พฤษภาคม 2568 และเสนอขายครั้งถัดไปวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ถึง 30 มีนาคม 2568
ลดหย่อนภาษีปีนี้ เลือกลงทุนอะไรดี?
การลงทุนในกองทุนที่สามารถลดหย่อนภาษีได้เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เงินของคุณเติบโตในระยะยาว โดยที่ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงมากเกินไป กองทุน Thai ESGX (Thai ESG Extra) ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปีนี้ เนื่องจากเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์นักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดีและเข้าเกณฑ์ด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) รวมทั้งยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
เข้าใจพื้นฐาน Thai ESGX คืออะไร?
กองทุน Thai ESGX มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) และลงทุนในหุ้นยั่งยืนไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV กองทุนนี้เน้นการลงทุนในหุ้นไทยที่มีการบริหารจัดการตามหลักการ ESG ซึ่งครอบคลุมถึงการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลที่ดี การลงทุนในกองทุน Thai ESGX ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณได้ร่วมลงทุนในบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ยั่งยืน แต่ยังช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างมีความรับผิดชอบต่อต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
สิทธิประโยชน์และเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของกองทุน Thai ESGX แบ่งวงเงินลดหย่อนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
- วงเงินสำหรับการลงทุนใหม่ที่ซื้อ Thai ESGX ในปี 2568 ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท และไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
- วงเงินสำหรับผู้ลงทุนที่โยก LTF มาเข้า Thai ESGX ลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท แบ่งเป็น
- ปีที่ 1 (2568): สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
- ปีที่ 2 ถึง 5: ใช้สิทธิตามมูลค่ารับโอนส่วนที่เหลือ แต่รวม 4 ปี ใช้สิทธิได้ไม่เกิน 200,000 บาท และใช้สิทธิเฉลี่ยเท่ากันทั้ง 4 ปี
โดยวงเงินลดหย่อนภาษีทั้ง 2 ส่วนดังกล่าวของ Thai ESGX จะไม่ถูกนับรวมกับกองทุน Thai ESG ปกติ
K-70ThaiESGX กองทุนลดหย่อนภาษีใหม่จากกสิกรไทย
กองทุน K-70ThaiESGX คือการนำเอาคอนเซ็ปต์ของ Thai ESGX มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีสูงสุด โดยกองทุนนี้เน้นการลงทุนในหุ้นไทยที่มีความยั่งยืนในสัดส่วนประมาณ 70% และกระจายลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้และตลาดเงินในสัดส่วน 30%
ข้อดีของ K-70ThaiESGX:
- รับโอกาสเติบโตจากหุ้นไทยพื้นฐานดี
- ลดความเสี่ยงด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำอย่างตราสารหนี้
- เน้นความยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล
- มีนโยบายจ่ายเงินปันผลระหว่างการลงทุน
เงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีของกองทุน K-70ThaiESGX
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน K-70ThaiESGX มีเงื่อนไขสำคัญที่ต้องทราบเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากการลงทุนในกองทุนนี้:
- วงเงินลดหย่อนภาษี: สามารถลดหย่อนภาษีในปี 2568 ได้สูงสุด 300,000 บาท
- ระยะเวลาการถือครอง: นักลงทุนต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแบบวันชนวัน เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี
หากคุณต้องกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศโดยที่ไม่กระจุกอยู่แค่การลงทุนในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว กองทุน K-WealthPLUS Series ในรูปแบบ RMF เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขลงทุนของกองทุน RMF แม้ลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท และไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ต้องถือลงทุนจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องมีการลงทุนต่อเนื่องทุกปี โดยสามารถเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี
ช่องทางการซื้อกองทุน K-70ThaiESGX
หากได้อ่านมาถึงตรงนี้และเห็นถึงโอกาสในการลงทุนในกองทุน K-70ThaiESGX ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี แต่ยังสามารถลงทุนในหุ้นไทยคุณภาพดีที่มีความยั่งยืนระยะยาว รวมทั้งการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพเพื่อช่วยลดความผันผวนและสร้างความสมดุลให้กับการลงทุนครั้งนี้อีกด้วย กองทุน K-70ThaiESGX จะเปิดให้จองซื้อครั้งแรกช่วงระหว่างวันที่ 2 – 8 พฤษภาคม 2568 และเสนอขายครั้งถัดไปวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ถึง 30 มีนาคม 2568 สามารถทำรายการจองซื้อได้ง่ายๆ ผ่านหลากหลายช่องทาง ดังนี้:
- ผ่าน K PLUS: ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด แค่ไม่กี่คลิกบนมือถือ ก็สามารถจองซื้อกองทุนได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
- ผ่านธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา: หากอยากได้คำปรึกษาเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อซื้อกองทุนได้ที่สาขาของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ
สามารถเช็กการถือครอง LTF ทุก บลจ. ของท่านได้ที่ Website ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย >>คลิกที่นี่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: KAsset, KBank