เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 1/2025 หดตัว -0.3% ต่อปี ต่ำกว่าคาดที่ -0.2%

ประเด็นร้อน: เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 1 หดตัวครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 1/2025 หดตัว -0.3% ต่อปี ต่ำกว่าคาดที่ -0.2%

กดฟัง
หยุด
  • เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 1/2025 หดตัว -0.3% ต่อปี ต่ำกว่าคาดที่ -0.2% และเป็นการหดตัวครั้งแรกนับจากปี 2022 จากแรงกดดันการเร่งนำเข้าก่อนขึ้นภาษี ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังแข็งแกร่ง ยอดขายภายในขยายตัว +2.3% แม้ชะลอจาก +3.0% ไตรมาสก่อน
  • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ แนะนำ ชะลอการลงทุน และติดตามท่าทีของภาครัฐและ Fed อย่างใกล้ชิด หากมีสัดส่วน >20% แนะนำ “ทยอยขาย” เพื่อลดความเสี่ยง

Market Update

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 1/2025 หดตัว -0.3% ต่อปีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ -0.2% โดยเป็นผลจากการเร่งนำเข้าสินค้าก่อนการขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งกดดัน GDP อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านตัวเลขยอดขายภายในประเทศที่ยังขยายตัว +2.3% แม้จะลดลงจาก +3.0% ในไตรมาสก่อน


รายละเอียดสำคัญขององค์ประกอบ GDP ได้แก่:

  • การบริโภคภาคเอกชน +1.8% ดีกว่าคาด (ตลาดคาด +1.2%) แม้ชะลอลงจาก 4.0% โดยเฉพาะสินค้าคงทนที่ลดลง -3.4% จากปัจจัยฤดูกาลและการเร่งซื้อก่อนขึ้นภาษี ขณะที่การใช้จ่ายภาคบริการชะลอลงเหลือ +2.4%
  • การลงทุนภาคธุรกิจ +9.8% จาก -3.0% ใน Q4/24 นำโดยการลงทุนในอุปกรณ์ +22.5% และทรัพย์สินทางปัญญา +4.1% จากการเร่งสั่งของก่อนการปรับขึ้นภาษี
  • การลงทุนภาคอสังหาฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังถูกกดดันจากความสามารถในการซื้ออยู่ท่ามกลางดอกเบี้ยที่ถือว่ายังคงอยู่ในระดับสูงการนำเข้า เร่งตัวขึ้น ส่งผลต่อ GDP ถึง -4.8 จุด กดดันภาพรวม GDP ให้หดตัว

Related Indices & Funds (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2568)


  • Dow Jones +0.35%
  • S&P500 +0.15%
  • NASDAQ -0.09%
  • Bond Yield 2 ปี และ 10 ปี เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

Market Outlook

ตลาดยังมองการหดตัวของ GDP ครั้งนี้ว่าเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว โดยเฉพาะการเร่งนำเข้าก่อนมาตรการภาษีใหม่ ซึ่งอาจสะท้อนการเร่งใช้จ่าย และความต้องการมาใช้ล่วงหน้า และอาจกดดันการเติบโตช่วงครึ่งปีหลัง นักวิเคราะห์ประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสถัดไปมีความเสี่ยงชะลอตัวต่อเนื่องจากการบริโภคและการลงทุนที่อาจลดลงจากความไม่แน่นอนของนโยบาย


ตลาดยังให้ความสำคัญกับ:

  • ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
  • ท่าทีของ Fed ว่าจะมีแนวโน้มดำเนินนโยบายดอกเบี้ยแบบผ่อนคลายมากขึ้นหรือไม่
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และการใช้จ่ายในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือยที่เริ่มอ่อนแรง

คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำถือเพื่อรอติดตามความคืบหน้าของสงครามการค้า
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • แนะนำชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างกองทุนหุ้นสหรัฐ และติดตามท่าทีของภาครัฐและ Fed อย่างใกล้ชิด
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-USA-A, K-US500X-A, K-USXNDQ-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-US500X-A: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
    • K-USA-A, K-USXNDQ-A: ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-US500X-A, K-USXNDQ-A: T+3
    • K-USA-A: T+4
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6

คำเตือน

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top