ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ธุรกิจและครอบครัวยังดำเนินต่อไปได้ บทความนี้มีแนวทางวางแผนหลักประกันสำหรับเจ้าของกิจการมาแนะนำ

หลักประกันที่แข็งแกร่งสำหรับเจ้าของกิจการ

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ธุรกิจและครอบครัวยังดำเนินต่อไปได้ บทความนี้มีแนวทางวางแผนหลักประกันสำหรับเจ้าของกิจการมาแนะนำ

กดฟัง
หยุด
  • การวางแผนหลักประกันสำหรับเจ้าของกิจการไม่เพียงปกป้องธุรกิจ แต่ยังช่วยดูแลครอบครัวหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ช่วยให้กิจการสามารถดำเนินต่อไปได้แม้ขาดผู้นำคนสำคัญ
  • ประกันชีวิตพรีเมียร์ เลกาซี่ 99/5, 99/10, 99/99 เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเจ้าของกิจการ เพราะให้ความคุ้มครองสูง คุ้มครองระยะยาว และช่วยสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจและคนในครอบครัว

การวางแผนการเงินสำหรับเจ้าของกิจการ ไม่ได้หมายถึงการบริหารงบดุลและกระแสเงินสดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอน เจ้าของกิจการมักทุ่มเททั้งเวลาและทรัพยากรเพื่อสร้างกิจการให้เติบโต แต่หลายคนกลับมองข้ามการสร้างระบบป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเอง


ความสำคัญของการวางแผนการเงินสำหรับเจ้าของกิจการ

ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทยระบุว่า มีเจ้าของธุรกิจ SME เพียง 63% เท่านั้นที่มีแผนรองรับสำหรับธุรกิจหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน นั่นหมายความว่ายังมีเจ้าของธุรกิจอีกกว่า 37% ที่ไม่มีแผนป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว ดังนั้น หากเจ้าของกิจการประสบปัญหาสุขภาพหรือเสียชีวิตกะทันหัน อาจทำให้ธุรกิจต้องปิดตัวลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อครอบครัวและพนักงาน


การสร้างหลักประกันสำหรับเจ้าของกิจการจึงไม่ใช่แค่เรื่องการดูแลตัวเอง แต่เป็นการรับผิดชอบต่ออนาคตของทั้งธุรกิจ ครอบครัว และพนักงานทุกคน


ชีวิตที่เปลี่ยนไปเมื่อขาดเสาหลัก

คุณธนา อายุ 45 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดกลางที่ประสบความสำเร็จ มีพนักงานกว่า 30 คน และมีรายได้ปีละกว่า 50 ล้านบาท ธุรกิจกำลังเติบโตและมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มในปีหน้า


คุณธนาเป็นทั้งผู้บริหารหลักและผู้มีความสัมพันธ์กับคู่ค้าสำคัญทั้งในและต่างประเทศ แม้ธุรกิจจะเติบโต แต่ยังมีภาระเงินกู้ธนาคารอีกกว่า 15 ล้านบาทที่ใช้ลงทุนในการขยายกิจการและนำเข้าสินค้า โดยคุณธนาเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ด้วยทรัพย์สินส่วนตัว


เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อคุณธนาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งผลให้มีอาการอัมพาตครึ่งล่างและไม่สามารถกลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่อีกต่อไป แพทย์คาดว่าต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานกว่า 2 ปี และอาจไม่สามารถกลับมาทำงานในรูปแบบเดิมได้ ภรรยาและลูกสาววัย 15 ปีต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน


ผลกระทบที่ตามมา


  • ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก การรักษาและฟื้นฟูในระยะยาวทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 2 ล้านบาทในปีแรก
  • ขาดผู้บริหารหลัก คุณธนาไม่สามารถเข้าไปบริหารงานได้ การตัดสินใจสำคัญต่างๆ หยุดชะงัก
  • ขาดสภาพคล่อง ต้องจ่ายเงินเดือนผู้บริหารที่จ้างมาทำงานแทนในขณะที่คุณธนายังเป็นเจ้าของกิจการ
  • การเจรจากับคู่ค้าล่าช้า คู่ค้าต่างประเทศซึ่งมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคุณธนาชะลอการสั่งซื้อ เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นในทีมบริหารชุดใหม่
  • เจ้าหนี้เริ่มกังวล ธนาคารและเจ้าหนี้การค้าเริ่มกังวลถึงความสามารถในการชำระหนี้ และเริ่มเข้มงวดกับเงื่อนไขต่างๆ มากขึ้น
  • รายได้ลดลง ค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มขึ้น แต่รายได้กลับลดลงเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

ภายในเวลาเพียง 1 ปี ธุรกิจของคุณธนาประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง บางสาขาต้องปิดตัวลง พนักงานกว่า 15 คนต้องถูกให้ออก และครอบครัวต้องนำเงินเก็บมาใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและดำรงชีพ ทั้งยังเริ่มมีการผิดนัดชำระหนี้กับธนาคาร สร้างความกังวลต่ออนาคตของทั้งธุรกิจและทรัพย์สินส่วนตัว


หากคุณธนาได้วางแผนหลักประกันไว้ล่วงหน้า สถานการณ์อาจแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เงินก้อนจากความคุ้มครองทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงสามารถนำมาเป็นค่ารักษาพยาบาลและชดเชยรายได้ที่หายไป ในขณะที่ธุรกิจมีเวลาปรับตัวหรือจ้างผู้บริหารมืออาชีพมาดูแลแทน เงินจากกรมธรรม์ยังช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่องเพียงพอและลดความกังวลของเจ้าหนี้ลงได้


ทำไมต้องสร้างหลักประกัน

สำหรับเจ้าของกิจการ การสร้างหลักประกันมีความสำคัญมากกว่าคนทั่วไป ด้วยเหตุผลสำคัญดังนี้


  1. ป้องกันภาระหนี้สินตกไปยังครอบครัว
  2. ธุรกิจส่วนใหญ่โดยเฉพาะ SME มักมีภาระหนี้สินทั้งจากการลงทุนและเงินทุนหมุนเวียน โดยเจ้าของกิจการมักต้องค้ำประกันด้วยทรัพย์สินส่วนตัว หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ภาระหนี้เหล่านี้จะตกไปยังครอบครัวทันที ประกันชีวิตที่มีทุนประกันเพียงพอจะช่วยชำระหนี้ก้อนใหญ่ได้ ทำให้ครอบครัวไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียทรัพย์สินหรือมีภาระผูกพันทางการเงินในระยะยาว


  3. สร้างความมั่นคงทางการเงินให้คนที่เรารัก
  4. เจ้าของกิจการมักเป็นผู้มีรายได้หลักของครอบครัว การจากไปอย่างกะทันหันหมายถึงการสูญเสียแหล่งรายได้สำคัญ ประกันชีวิตจะช่วยทดแทนรายได้ที่หายไป ทำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองสูงช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินให้คนที่เรารักได้


  5. รับมือกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  6. ธุรกิจอาจต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่ไม่คาดคิด เช่น การขยายกิจการ การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ หรือการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด การมีเงินก้อนจากกรมธรรม์จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจในยามจำเป็น


  7. จ่ายเบี้ยน้อย แต่คุ้มครองมาก
  8. ประกันชีวิตมีจุดเด่นตรงที่เบี้ยประกันต่ำกว่าทุนประกันมาก ทำให้เจ้าของกิจการสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดสรรเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนในธุรกิจ แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองในวงเงินที่สูงเพียงพอสำหรับการปกป้องธุรกิจและครอบครัว


ทางเลือกการสร้างหลักประกัน: ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

K WEALTH ขอแนะนำประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของกิจการโดยเฉพาะ


ประกันชีวิตพรีเมียร์ เลกาซี่ 99/5, 99/10, 99/99

จุดเด่น


  • ความคุ้มครองชีวิตสูงเมื่อเทียบกับเบี้ยที่จ่าย
  • เลือกระยะเวลาจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ 5 ปี 10 ปี และถึงอายุ 99 ปี
  • คุ้มครองตลอดชีพ ถึงอายุครบ 99 ปี
  • ส่วนลดเบี้ยอัตราพิเศษเมื่อเทียบกับแบบประกันตลอดชีพปกติสำหรับลูกค้าที่มีสินทรัพย์รวม (AUM) มากกว่า 10 ลบ.
  • เบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด

ประกันชีวิตพรีเมียร์ เลกาซี่ 99/5
  • จ่ายเบี้ยสั้นเพียง 5 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
  • เหมาะกับเจ้าของกิจการที่มีทรัพย์สินก้อนโตที่พร้อมแบ่งมาเป็นเบี้ยประกันได้ทันที หรือผู้ที่มีอายุมากและต้องการจ่ายเบี้ยในระยะสั้น

ประกันชีวิตพรีเมียร์ เลกาซี่ 99/10
  • จ่ายเบี้ย 10 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
  • จ่ายเบี้ยต่อปีน้อยกว่าแบบประกัน 99/5 ด้วยทุนประกันที่เท่ากัน
  • เหมาะกับเจ้าของกิจการที่ต้องการความคุ้มครองสูง และสามารถจ่ายเบี้ยได้นานขึ้น

ประกันชีวิตพรีเมียร์ เลกาซี่ 99/99
  • จ่ายเบี้ยถึงอายุ 99 ปี ได้รับความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
  • จ่ายเบี้ยรายปีน้อยกว่าแบบประกัน 99/5 และ 99/10
  • เหมาะกับเจ้าของกิจการที่ต้องการความคุ้มครองสูง และทยอยจ่ายเบี้ยได้ตลอดชีวิต

การวางแผนหลักประกันสำหรับเจ้าของกิจการเพื่อการคุ้มครองหนี้สินธุรกิจและการส่งต่อกิจการ

เจ้าของกิจการควรพิจารณาจำนวนทุนประกันให้สอดคล้องกับภาระหนี้สินและมูลค่าของกิจการ โดยทั่วไปควรมีทุนประกันอย่างน้อยเท่ากับ


  1. ภาระหนี้สินทั้งหมดของธุรกิจและส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
  2. เงินทุนสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 6-12 เดือน
  3. มูลค่าที่ต้องการส่งมอบให้ทายาทหรือครอบครัว

การมีกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เหมาะสมจะช่วยให้


  • ธุรกิจมีเวลามากขึ้นในการปรับตัวหรือหาผู้สืบทอดที่เหมาะสม
  • ทายาทมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจต่อหรือขายกิจการอย่างมีมูลค่า
  • หุ้นส่วนหรือผู้ร่วมธุรกิจสามารถซื้อหุ้นจากทายาทได้ในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม

นอกจากนี้ การนำกรมธรรม์ประกันชีวิตมาเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนสืบทอดธุรกิจจะช่วยให้การส่งต่อกิจการเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความขัดแย้งระหว่างทายาท และรักษามูลค่าของธุรกิจไว้ได้ในระยะยาว


สำหรับเจ้าของกิจการ การวางแผนหลักประกันไม่ใช่เรื่องที่ควรรอให้ธุรกิจประสบความสำเร็จก่อนแล้วค่อยเริ่มต้น แต่ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ เนื่องจาก


  1. เบี้ยประกันจะยิ่งถูกลงหากเริ่มทำประกันตั้งแต่อายุน้อย
  2. คุณสมบัติในการทำประกันมีความยืดหยุ่นมากกว่าสำหรับผู้ที่มีสุขภาพดี
  3. ยิ่งเริ่มเร็ว การสะสมมูลค่าเงินสดในกรมธรรม์ยิ่งมากขึ้นตามเวลา
  4. ให้ความคุ้มครองทันทีหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน โดยไม่ต้องรอให้ธุรกิจเติบโตถึงจุดหนึ่ง

ประโยชน์ที่คุณและครอบครัวจะได้รับในระยะยาว

การวางแผนหลักประกันอย่างรอบคอบจะช่วยให้เจ้าของกิจการได้รับประโยชน์ในหลายมิติ ได้แก่


  • ความมั่นคงทางการเงินสำหรับครอบครัว แม้คุณจะไม่อยู่ ครอบครัวยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน
  • ความต่อเนื่องของธุรกิจ กิจการสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องปิดตัวหรือขายในราคาถูกเพื่อชำระหนี้
  • การส่งต่อมรดกอย่างมีประสิทธิภาพ ทรัพย์สินและความมั่งคั่งถูกส่งต่อไปยังทายาทอย่างมีแบบแผน ลดภาระภาษีและความยุ่งยากในการจัดการมรดก
  • ความอุ่นใจในการดำเนินธุรกิจ คุณสามารถมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจได้อย่างเต็มที่ โดยมั่นใจว่ามีแผนรองรับความเสี่ยงไว้อย่างครบถ้วนแล้ว

ในฐานะเจ้าของกิจการ คุณไม่เพียงรับผิดชอบต่อความสำเร็จของธุรกิจในวันนี้ แต่ยังต้องวางแผนเพื่ออนาคตที่มั่นคงของทุกคนที่พึ่งพาคุณ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว พนักงาน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ การเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจและทุกคนในครอบครัว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เมืองไทยประกันชีวิต



คำเตือน

ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ผู้เขียน

KWEALTH

Back to top