ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ผันผวนสูงในเดือนเม.ย. แต่กองทุนตราสารหนี้ยังทำผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในปีนี้ จากตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีแนวโน้มผันผวนระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และอัตร

ตราสารหนี้ยังได้ไปต่อ (อัปเดตภาพรวมกองทุนตราสารหนี้ ฉบับเดือน พ.ค. 68)

ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ผันผวนสูงในเดือนเม.ย. แต่กองทุนตราสารหนี้ยังทำผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในปีนี้ จากตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีแนวโน้มผันผวนระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และอัตร

กดฟัง
หยุด
  • ในเดือนเม.ย.ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้มีความผันผวนสูง หลังปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าในวันที่ 2 เม.ย. อย่างไรก็ตามกองทุนตราสารหนี้ที่เราแนะนำยังทำผลตอบแทนได้เป็นบวกได้ต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน
  • K WEALTH มองว่าตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในปีนี้ จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังเป็นขาลง และในระยะสั้นที่ตลาดหุ้นอาจยังมีความผันผวนจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า เรายังคงแนะนำลงทุนในกองทุนตราสารหนี้อย่าง K-SF-A, K-SFPLUS-A , K-FIXED-A และ K-FIXEDPLUS-A

ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ผันผวนสูงในเดือนเม.ย.

  • ในเดือนเม.ย.ทั้งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ปั่นปวนกันอย่างพร้อมเพียง หลังปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าหลายประเทศ โดยเฉพาะจีนที่มีการตอบโต้ไปมากับสหรัฐฯ หลายรอบ ส่งผลให้ดัชนี MSCI ACWI ปรับตัวลดลงมากกว่า 10% ก่อนที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาที่จุดเดิมในเดือนพ.ค.
  • ด้านตลาดตราสารหนี้ไทย ผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ไทยทั้งอายุ 2 ปีและ 10 ปี ปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2568 ตามความคาดหวังว่ากนง. จะลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งกนง.มีการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดสู่ระดับ 1.75% โดย Bond Yield มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเป็นไปตามที่เราคาด K WEALTH เชื่อว่าทิศทาง Bond Yield ไทยจะยังเป็นขาลงอย่างเนื่อง ตามความคาดหวังว่าปีนี้ยังมีโอกาสอีก 1-2 ครั้งที่กนง. จะลดอัตราดอกเบี้ย สุดท้ายเรื่องการปรับลดมุมมองด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยจาก Stable สู่ Negative ของ Moody’s คาดว่าผลกระทบจำกัดเนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงมุมมอง (Outlook) ขณะที่ Credit Rating ยังคงเดิม และ Credit Rating Agency เจ้าอื่นๆอีก 2 แห่งอย่าง S&P และ Fitch ก็ยังคง Credit Rating ของประเทศไทย ไม่เปลี่ยนแปลง
  • ด้านตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ US Bond Yield 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังปธน. ทรัมป์ประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้าช่วงต้นเดือนเม.ย. จนกระทั่งมีการประกาศเบรคการขึ้นภาษี 90 วันให้กับประเทศต่างๆ ยกเว้นจีน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้หลายประเทศเจรจาต่อรอง Bond Yield จึงเริ่มชะลอตัวลงมา สะท้อนว่านักลงทุนเริ่มคลายความกังวลลงบ้างแล้ว ขณะที่ Fed แม้จะถูกปธน.ทรัมป์กดดันให้ลดอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดยังคาดว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือน พ.ค.-มิ.ย. และมีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. เป็นต้นไป จึงทำให้ Bond Yield สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นมาอีกครั้ง


แม้ตลาดผันผวนแต่กองทุนตราสารหนี้ยังทำผลตอบแทนได้ดี

กองทุนตราสารหนี้ในปีนี้ต้องบอกว่าได้อานิสงส์บวกเต็มๆ จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เป็นขาลงตามแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญๆ โดยเฉพาะ Fed รวมไปถึงกนง. ของบ้านเรา ซึ่งส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ที่เราแนะนำสร้างผลตอบแทนที่ดีดังนี้



*ผลตอบแทนขอกองทุน ณ 30 เม.ย. 68


ดอกเบี้ยขาลง ตลาดผันผวน…โอกาสลงทุนในตราสารหนี้

  • กองทุนตราสารหนี้ได้ประโยชน์จาก แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง หลังตลาดมอง Fed ลดดอกเบี้ยปีนี้ทั้งหมด 4 ครั้งจากเดิม 1-2 ครั้ง กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยอย่างน้อยอีก 1 ครั้งปีนี้ จากความเสี่ยงของนโยบายการค้าที่กระทบต่อเศรษฐกิจไทย
  • เงินฝากและ Term Fund อาจจะไม่ตอบโจทย์จากผลตอบแทนที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่กองทุนตราสารหนี้มีโอกาสได้ทั้ง Capital Gain และ Yield ของตราสารหนี้ในพอร์ตการลงทุนปัจจุบันที่สูง
  • ตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีแนวโน้มผันผวนในระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ ตราสารหนี้จึงยังเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าสนใจ
  • โอกาสเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารหนี้คุณภาพดี ผลตอบแทนสูง

- สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก แต่ยังต้องการสภาพคล่อง หรือพักเงินระยะสั้น แนะนำ K-SF-A , K-SFPLUS ที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ความเสี่ยงต่ำสภาพคล่องสูง

- สำหรับนักลงทุนที่อยากเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนในตราสารหนี้ และสามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป แนะนำ K-FIXED-A และ K-FIXEDPLUS-A ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวทั้งภาครัฐและเอกชน Duration > 1 ปี




ผู้เขียน

K WEALTHปาณิศา เจียรพุฒิ

Back to top