ศาลการค้าสหรัฐฯมีคำสั่งให้ยกเลิก Trump Taiff เกือบทั้งหมดที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน

ประเด็นร้อน : ศาลการค้าสหรัฐฯ ตัดสินให้ยกเลิก Trump Tariff

ศาลการค้าสหรัฐฯมีคำสั่งให้ยกเลิก Trump Taiff เกือบทั้งหมดที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน

กดฟัง
หยุด
  • ศาลการค้าสหรัฐฯ มีคำตัดสินให้ยกเลิกภาษีนำเข้าของ Trump คำสั่งนี้ระงับภาษีเกือบทั้งหมดที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน และภาษีภายใต้กฎหมายอื่น เช่น Section 232 (เหล็ก-อะลูมิเนียม) และ Section 301 (ตอบโต้จีน) ยังคงมีผลอยู่
  • การลงทุนในสินทรัพย์ของสหรัฐฯ อาจได้รับผลบวกระยะสั้นจาก Sentiment แต่ควรพิจารณาความเสี่ยงด้านนโยบายที่ยังคงอยู่ แนะนำกระจายความเสี่ยงไปยังภูมิภาคอื่น เช่น เวียดนาม อินเดีย และประเภทสินทรัพย์ต่างๆ อย่างเช่น ตราสารหนี้

Market Update

  • ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (US Court of International Trade) มีคำตัดสินว่า คำสั่งของประธานาธิบดี Trump ที่ใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินเพื่อเก็บภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมทั่วโลก “ขัดต่อกฎหมาย”
  • คำสั่งนี้ระงับ ภาษีเกือบทั้งหมด ที่ประกาศเมื่อ 2 เม.ย. รวมถึงภาษีทั่วโลก, ภาษีสินค้าจีน และภาษีที่อ้างเหตุเกี่ยวกับสารเฟนทานิลจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก
  • อย่างไรก็ตาม ภาษีภายใต้กฎหมายอื่น เช่น Section 232 (เหล็ก-อะลูมิเนียม) และ Section 301 (ตอบโต้จีน) ยังคงมีผลตามเดิม

Legal Impact & What’s Next

  • คำตัดสินระบุว่า Trump ใช้ International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) อย่างไม่เหมาะสม โดยขาดความชอบธรรมในการประกาศ “ภาวะฉุกเฉินจากดุลการค้า”
  • ฝ่ายรัฐบาลได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินแล้ว โดยคดีอาจขึ้นถึง ศาลฎีกาสหรัฐฯ
  • ศาลปฏิเสธข้อเสนอให้จำกัดผลเฉพาะบางกลุ่ม และตัดสินให้คำสั่งนี้ “ผิดกฎหมายโดยรวม”

Related Indices & Funds

  • S&P 500 ลดลง -0.56% ปิดที่ 5,888.55 จุด
  • NASDAQ ลดลง -0.51% ปิดที่ 19,100.94 จุด
  • Dow Jones ลดลง -0.58% ปิดที่ 42,098.70 จุด

(ข้อมูล ณ วันที่ 28 พ.ค. 2568)


Market Outlook

  • การระงับภาษีจะส่งผลเชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น ลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ และต้นทุนการผลิตในระยะสั้น
  • แต่หากศาลสูงกลับคำตัดสินในอนาคต ตลาดอาจต้องเผชิญความผันผวนรอบใหม่
  • การอุทธรณ์ของฝ่าย Trump อาจใช้เวลาหลายเดือน และยังไม่สามารถบังคับใช้ภาษีที่ถูกตัดสินว่า “ผิดกฎหมาย” ได้จนกว่าจะมีคำสั่งใหม่

ปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม

  • นักลงทุนควรจับตา คำตัดสินในศาลอุทธรณ์
  • ภาคธุรกิจที่พึ่งพาการนำเข้าอาจได้แรงหนุนเชิงบวกชั่วคราว หากต้นทุนลดลง แต่ควรวางแผนรับมือความไม่แน่นอนระยะกลาง
  • สินทรัพย์สหรัฐฯ อาจได้ Sentiment บวกระยะสั้น แต่ความเสี่ยงด้านนโยบายยังคงอยู่ ควรเน้นการกระจายความเสี่ยงระหว่างภูมิภาคและประเภทสินทรัพย์

คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำถือเพื่อรอติดตามพัฒนาการในระยะสั้น
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • แนะนำชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างกองทุนหุ้นสหรัฐ และแนะนำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-USA-A, K-US500X-A, K-USXNDQ-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-US500X-A: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
    • K-USA-A, K-USXNDQ-A: ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-US500X-A, K-USXNDQ-A: T+3
    • K-USA-A: T+4
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>> คลิกที่นี่

.

.

.


คำเตือน

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top