-
ในเดือนพ.ค.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ มีความผันผวนและเร่งตัว แต่ตลาดพันธบัตรไทยยังมีเสถียรภาพและ Yield ไม่ได้เร่งตัวตาม
-
กองทุนตราสารหนี้ที่เราแนะนำทำผลตอบแทนบวกต่อเนื่อง 5 เดือนติดต่อกันในปีนี้
-
K WEALTH มองว่าตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในปีนี้ จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังเป็นขาลง และในระยะสั้นที่ตลาดหุ้นอาจยังมีความผันผวนจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า เรายังคงแนะนำลงทุนในกองทุนตราสารหนี้อย่าง K-SF-A, K-SFPLUS-A , K-FIXED-A และ K-FIXEDPLUS-A
ในเดือน พ.ค.Bond Yield สหรัฐฯ ยังผันผวนต่อจากเม.ย.และปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ในเดือนพ.ค. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (US Bond Yield) ยังคงมีความผันผวน แม้ประเด็นทางการค้าจะผ่อนคลายลงจากเดือนเม.ย. เริ่มจาก Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวจุดกระแสความกังวล อีกทั้งนักลงทุนกังวลว่าร่างงบประมาณฉบับใหม่ของสหรัฐฯ จะยิ่งทำให้การขาดดุลของประเทศซึ่งมีจำนวนมากอยู่แล้วสูงยิ่งขึ้น และส่งผลให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดันให้ Bond Yield 30 ปีสหรัฐฯ พุ่งทะลุ 5% ในปลายเดือนพ.ค.
- เรามองว่า Bond Yield สหรัฐฯ ขณะนี้อยู่ในระดับสูงในรอบหลายปี ขณะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบของนโยบายทางการค้า จะทำให้ Fed ต้องลดดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ Bond Yield มีแนวโน้มปรับลดลงในอนาคต นับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ
ตลาดพันธบัตรไทยมีเสถียรภาพไม่ผันผวนตามสหรัฐฯ
- ด้านตลาดพันธบัตรไทยยังมีเสถียรภาพต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 70,000 กว่าล้านบาทนับจากต้นปี สูงสุดในรอบ 3 ปี มองไปข้างหน้า ตลาดพันธบัตรไทยยังมีแรงหนุนจากคาดการณ์ลดดอกเบี้ยและการแข็งค่าของเงินบาท
- ปัจจุบันนักลงทุนยังกังวลว่ามาตรการภาษีของปธน.ทรัมป์อาจทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวและ Fed ไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ หากกนง.มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าสหรัฐฯ จะยังเป็นปัจจัยหนุน Fund flow ไหลเข้าตลาดพันธบัตรไทย จนกว่าจะเห็นภาพของเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชัดเจนมากขึ้น

กองทุนตราสารหนี้กสิกรไทยสุดปัง…ทำผลตอบแทนบวกทุกเดือน
แม้ในระยะสั้นนักลงทุนที่ถือกองทุนตราสารหนี้อาจเผชิญความผันผวนบ้าง แต่ กองทุนตราสารหนี้ที่เราแนะนำยังทำผลตอบแทนบวกต่อเนื่องทุกเดือนตลอดทั้งปีนี้
กอดตราสารหนี้ไว้ยังไงก็อุ่นใจ เมื่อตลาดหุ้นถึงจุดต้องระวังหลังฟื้นตัวแรง
ด้วยตลาดหุ้นที่ฟื้นตัวแรงกว่า 20% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Valuation เริ่มตึงตัว อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg ปัจจุบันดัชนี MSCI ACWI เทรด Fwd P/E 19.4 เท่า เหนือค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีไปแล้ว ซึ่งสวนทางกับกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ถูกปรับประมาณการณ์ลงมาตั้งแต่ต้นปี ขณะเศรษฐกิจมีแนวโน้มเปราะบางในปีนี้ อีกทั้งนักลงทุนก็ยังจับตาการเจรจาภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศต่างๆ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง หากการเจรจาไม่คืบหน้าอาจทำให้ตลาดผิดหวัง ดังนั้นเรามองว่าการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในปีนี้ที่จะช่วยลดความผันผวนจากประเด็นดังกล่าว สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนตราสารหนี้อยู่แล้วในระยะสั้นอาจเผชิญความผันผวนอยู่บ้าง ลองให้เวลาสักหน่อยจะช่วยข้ามผ่านความผันผวนนี้ไปได้
แนะนำให้นักลงทุนถือกองทุนตราสารหนี้ในระยะเวลาที่สอดคล้องกับ Duration ของกองทุนขึ้นไป เช่น
- K-SF-A : ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ สภาพคล่องสูง แนะนำลงทุน 3 เดือนขึ้นไป
- K-SFPLUS-A : ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ สภาพคล่องสูง แนะนำลงทุน 6 เดือนขึ้นไป
- K-FIXED-A : ลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวในประเทศเท่านั้น แนะนำลงทุน 1 ปีขึ้นไป
- K-FIXEDPLUS-A : ลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวทั้งในและต่างประเทศ แนะนำลงทุน 1 ปีขึ้นไป
มองไปข้างหน้าตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ความสนใจในปีนี้ ทั้งจากแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยขาลง และความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า รวมถึงเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งเราเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของตราสารหนี้อย่างแน่นอน