-
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนยังมีความท้าทาย เงินเฟ้อชะลอตัว และ GDP 1Q25 ขยายตัวเพียง 0.3% ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องภาษีการค้าจากสหรัฐฯ
-
จากปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อลดลง เศรษฐกิจอ่อนแอ ค่าเงินยูโรแข็งค่า คาดว่า ECB จะลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง แนะนำให้ชะลอการลงทุนในกองทุนหุ้นยุโรป และติดตามสงครามการค้าต่อไป
Market Update
วันที่ 5 มิ.ย. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 2.00% อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 2.15% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 2.40% ECB ปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 8 ในวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงที่เริ่มต้้งแต่ มิ.ย.24
การปรับลดในครั้งนี้ สนับสนุนโดยเงินเฟ้อที่ชะลอลง และ GDP 1Q25 ก็ขยายตัวได้เพียง 0.3% QoQ อีกทั้งยังอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องภาษีการค้าจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากประเด็นภาษีรถยนต์ เหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจาก EU
Related Indices & Funds
- Euro Stoxx50 +0.03%
- FTSE100 +0.11%
- DAX +0.19%
- CAC40 -0.18%
(ข้อมูลวันที่ 5 มิถุนายน2025)
Market Outlook
จากปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อที่ปรับลดลง เศรษฐกิจที่อ่อนแอ ค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้คาดว่า ECB จะยังคงตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่องในปีนี้
คำแนะนำการลงทุน
- สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นยุโรป
- หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต โดยนำเงินไปพักในกองทุน K-SFPLUS
- หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำถือต่อเพื่อรอติดตามพัฒนาการในระยะสั้น
- สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นยุโรป
- แนะนำชะลอการลงทุนและติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าของสงครามการค้าในช่วงเวลาต่อจากนี้
- เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WealthPLUS Series เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว เพื่อรองรับตลาดที่มีความผันผวนจากประเด็นสงครามการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น และมีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก
- แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
- สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS
หมายเหตุ:
- ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
- K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
- K-EUROPE-A, K-EUX, K-EUSMALL, K-EUSAGE ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
- นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง 100% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยงมากกว่า 90% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-EUROPE-A, K-EUX, K-EUSMALL, K-EUSAGE: ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 75% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-SFPLUS: T+1
- K-FIXEDPLUS-A: T+2
- K-EUX: T+3
- K-EUROPE-A, K- EUSMALL: T+4
- K-EUSAGE: T+5
- K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED: T+6