การประชุม FOMC เดือนมิ.ย. 2025 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25–4.50% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ ความเห็นล่าสุดเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ยังคงแตกเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน

ประเด็นร้อน : Fed เสียงเอกฉันท์คงดอกเบี้ยต่อ ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว

การประชุม FOMC เดือนมิ.ย. 2025 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25–4.50% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ ความเห็นล่าสุดเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ยังคงแตกเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน

กดฟัง
หยุด
  • Fed คงดอกเบี้ยต่อ ในการประชุมรอบ มิ.ย. 2025 แต่ในช่วงเวลาที่เหลือของ เสียงแตกว่าจะลดหรือคงดอกเบี้ย
  • ปัจจัยที่ Fed จะประเมินต่อจากนี้ ได้แก่ "ผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เกิดจากภาษี" และ "ทิศทางตลาดแรงงาน"
  • สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุน แนะนำกระจายความเสี่ยงเพื่อรับมือกับความผันผวน เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED หรือหากต้องการเน้นลงทุนหุ้นสหรัฐฯ แนะนำลงทุนผ่านกองทุนหุ้นทั่วโลก เช่น K-GSELECT

อัปเดตผลการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. 2025

คณะกรรมการ FOMC มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25–4.50% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีมติเป็นเอกฉันท์


สำหรับความเห็นล่าสุด ในการลดดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เหลือของปี ของคณะกรรมการ FOMC หรือ Dot plot แม้ยังมีแนวโน้มว่าอาจลดอีก 2 ครั้งในปีนี้ หรือ 0.50% แต่ความเห็นแตกเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน:

  • 7 ท่าน คาดว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยเลยในปีนี้
  • 8 ท่าน คาดว่าจะลด 2 ครั้ง (0.50%)

ดังนั้นหากมีสมาชิกท่านใดท่านหนึ่งเพียง 1 คน เปลี่ยนมุมมองจาก 2 เป็น 1 ครั้ง คาดการณ์ดอกเบี้ยในปีนี้จะเหลือเพียงลด 1 ครั้ง (0.25%) ทันที


โดย Fed ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อ Core PCE ปี 2025 ขึ้นเป็น 3.1% และ GDP ลงเป็น 1.4% และคาดการณ์ลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2026 เหลือเพียง 1 ครั้ง (0.25%) จาก 2 ครั้ง (0.50%)


ประธาน Fed คุณ Jerome Powell ส่งสัญญาณว่า Fed จะ "ประเมินผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เกิดจากภาษี" และ "ทิศทางตลาดแรงงาน" ก่อนเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน ในช่วง 2-3 เดือนนี้


FOMC Projections (มิ.ย. 2025) - คณะกรรมการ Fed คาดการณ์เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจมีแนวโน้ม ชะลอตัว ท่ามกลางความเสี่ยงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้า

  • GDP ปี 2025 ปรับลดเหลือ 1.4% จาก 1.7% และและ ปี 2026 ลดลงเหลือ 1.6% จาก 1.8%
  • เงินเฟ้อ Core PCE ปี 2025 ปรับเพิ่มเป็น 3.1% จาก 2.8% และและ ปี 2026 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.4% จาก 2.2%
  • อัตราว่างงาน ปี 2025 ปรับเพิ่มเป็น 4.5% จาก 4.4% และและปี 2026 ปรับเพิ่มเป็น 4.5% จาก 4.3%

ดัชนีตลาดหุ้นและสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง เทียบกับวันก่อนหน้า (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิ.ย. 2025)

  • Dow Jones -0.10%
  • S&P500 -0.03%
  • NASDAQ +0.13%
  • Bond Yield 2 ปี และ 10 ปี เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

โดยตลาดคาดการณ์ลดดอกเบี้ยในปีนี้ ยังคงเดิมที่ 2 ครั้ง (0.50%) เท่า Fed แต่ในปี 2026 ตลาดคาดที่ 2 ครั้ง (0.50%) ต่างจาก Fed ที่คาดจะลดเพียง 1 ครั้ง (0.25%)


Market Outlook

  • Fed ยังคงเน้นข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก "data dependent" และรอดูผลของเงินเฟ้อจากภาษีนำเข้าและตลาดแรงงาน
  • ความแตกต่างใน dot plot สะท้อนว่า ยังมีความไม่แน่นอนสูง ต่อการลดดอกเบี้ย
  • ตลาดแรงงานที่ยังแข็งแรง และเงินเฟ้อที่ขยับขึ้น อาจทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาด

คำแนะนำการลงทุน จาก K WEALTH

  • กระจายความเสี่ยงเพื่อรับมือกับความผันผวน — แนะนำทยอยสะสม Core Port อย่างกอง K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED
  • สำหรับผู้ที่ต้องการงทุนในหุ้นสหรัฐฯ
    • แนะนำลงทุนผ่านกองทุนหุ้นทั่วโลก เช่น K-GSELECT (ณ 17 มิ.ย. 2025 กองทุนหลัก ลงทุนในสหรัฐฯ 68.7%) เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของนโยบายการค้าและเศรษฐกิจเฉพาะประเทศ
    • หากต้องการลงทุนเฉพาะในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ — แนะนำลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 30% ของเงินลงทุนรวม
    • สำหรับผู้ที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เช่น K-USA, K-US500X, K-USXNDQ หากถือในสัดส่วนที่น้อยกว่า 30% ยังแนะนำให้ถือต่อได้ แต่หากถือในสัดส่วนมากกว่า 30% หรือกำไร แนะนำหาจังหวะขายทำกำไร และนำเงินไปลงทุนในกองทุนหุ้นแนะนำอื่นของ K WEALTH เช่น K-GSELECT K-GINFRA
  • สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แต่ยังต้องการความมั่นคงและความผันผวนต่ำ (Defensive) — แนะนำกอง K-GPINUH (ลงทุนได้บน K PLUS) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้น Defensive ทั่วโลก พร้อมการขาย Option เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ต เหมาะกับช่วงตลาดที่มีความไม่แน่นอนสูง
  • สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย — แนะนำกองทุน ตราสารหนี้ไทย ที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากความตึงเครียดทางการค้าและได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง เช่น K-SFPLUS และ K-FIXEDPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-GSELECT, K-GPINUH-A(A), K-USA-A, K-US500X-A, K-USXNDQ-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-GSELECT, K-US500X-A : ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
    • K-USA-A, K-USXNDQ-A: ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน
    • K-GPINUH-A(A): ไม่ป้องกันความเสี่ยง
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-GSELECT, K-GPINUH-A(A), K-US500X-A, K-USXNDQ-A: T+3
    • K-USA-A: T+4
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6


คำเตือน

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

KWEALTH

Back to top