-
18 มิ.ย. 68 พรรคภูมิใจไทยที่มี ส.ส. 69 ที่นั่ง ประกาศ ถอนตัวออกจากรัฐบาลผสม ส่งผลต่อต่อเสถียรภาพของรัฐบาลปัจจุบัน และอาจกระทบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
-
K WEALTH มองเป็นโอกาสทยอยสะสมกองทุนตราสารหนี้ แต่ให้ระมัดระวังหุ้นไทย สำหรับผู้ที่มีเงินต้องการลงทุนและรับความเสี่ยงได้ แนะนำการลงทุนหุ้นโลก (K-GSELECT) หุ้นอินเดีย (K-INDIA) และหุ้นเวียดนาม (K-VIETNAM) หรือกระจายความเสี่ยงด้วยกองทุนผสม เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED
-
สำหรับกองทุนลดหย่อนภาษีที่มีเงื่อนไขเน้นลงทุนไทยเป็นหลัก อย่าง ThaiESGX สามารถซื้อและถือลงทุนระยะยาวได้ หรือผู้ที่ถือกองทุน LTF หากยังเสียภาษีเงินได้อยู่ แนะนำพิจารณาสับเปลี่ยนไป ThaiESGX ตามเงื่อนไขสรรพากร ภายใน มิ.ย. 68
เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย 68) พรรคภูมิใจไทยประกาศ ถอนตัวออกจากรัฐบาลผสม ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย (วันนี้) โดยพรรคภูมิใจไทยถือว่าการรั่วไหลของ คลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรี กัมพูชา ทำให้เกิดความเสียหายต่อ ศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ พรรคภูมิใจไทยจึงต้องถอนตัว และให้ ส.ส.และรัฐมนตรีภายในพรรคยื่นใบลาออก
การถอนตัวของพรรคภูมิใจไทย มีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยครอง ส.ส. มากถึง 69 ที่นั่ง และอาจนำมาสู่การยุบสภาได้ ซึ่งหากมีการยุบสภา จะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มีความล่าช้า กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานหลังมีข่าว ได้ตอบสนองเชิงลบไปบ้างแล้ว โดย SET Index -1.7%เทียบกับวันก่อนหน้า มาปิดที่ 1094.58 จุด (ณ 18 มิ.ย. 68) โดยวันนี้ (19 มิ.ย. 68) หลักทรัพย์กสิกรไทย (KSecurities) คาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1085-1100
สำหรับค่าเงินบาทเช้านี้ (19 มิ.ย.) อ่อนค่าสู่ระดับ 32.7 บาทต่ออดอลลาร์สหรัฐฯ
Market Outlook
เป็นโอกาสทยอยสะสมกองทุนตราสารหนี้ แต่ให้ระมัดระวังหุ้นไทย
K WEALTH มีมุมมอง Slightly Positive (ค่อนข้างเป็นบวก) ต่อกองทุนตราสารหนี้ไทยคุณภาพดี สภาพคล่องสูง มีความผันผวนต่ำ และคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ยของ กนง. อีก 1 ครั้งในปีนี้
K WEALTH มีมุมมอง Slightly Negative (ค่อนข้างเป็นลบ) ต่อการลงทุนในหุ้นไทย เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองจะยิ่งซ้ำเติมความเชื่อมั่นในการลงทุนในหุ้นไทย อีกทั้งพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างเปราะบาง
คำแนะนำจาก K WEALTH
- ผู้ที่มีเงินลงทุน แต่ยังกังวลกับความผันผวนหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศ แนะนำลงทุนตราสารหนี้ไทยผ่านกองทุน K-SFPLUS และ K-FIXEDPLUS
- สำหรับผู้ที่ถือกองทุนหุ้นไทย ที่เป็นกองทุนเปิดทั่วไป
- หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และไปลงทุนในประเทศอื่นที่มีศักยภาพในการเติบโตมากกว่า เช่น หุ้นโลก (K-GSELECT) หุ้นอินเดีย (K-INDIA) และหุ้นเวียดนาม (K-VIETNAM) หรือกระจายความเสี่ยงเพื่อรับมือกับความผันผวน ด้วยการทยอยสะสม Core Port อย่างกองทุน K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED
- หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% สามารถถือต่อได้ และค่อยๆ ทยอยลดสัดส่วนเมื่อตลาดหุ้นรีบาวด์ (ปรับตัวขึ้น) เนื่องจากหุ้นไทยปรับตัวรับข่าวร้ายมามากแล้ว ปัจจุบันเทรด Price/Book value ใกล้เคียง -2 S.D. ต่ำสุดตั้งแต่วิกฤตทางการเงิน จึงมองว่า Downside ต่อจากนี้ไม่มากแล้ว
- สำหรับผู้ที่ถือกองทุนลดหย่อนภาษี ที่เป็นการลงทุนในหุ้นไทย
- ผู้ที่ถือกองทุน LTF อยู่ หากปีนี้ยังมีเงินได้ต้องเสียภาษี ยังคงแนะนำให้พิจารณาสับเปลี่ยนไปกองทุน ThaiESGX ภายใน 30 มิ.ย. 68 เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และสามารถนำเงินคืนภาษีมาชดเชยการขาดทุนบางส่วนได้ (ศึกษาเงื่อนไขการสับเปลี่ยน LTF ไป Thai ESGX ได้ที่ สรุปเงื่อนไข Thai ESGX เข้าใจง่ายในภาพเดียว)
- ผู้ที่ถือกองทุน ThaiESGX หรือ SSFX อยู่ ยังคงสามารถถือต่อได้ เพื่อไม่ให้ผิดเงื่อนไขทางภาษี และเงินลงทุนหุ้นไทยส่วนนี้ ยังคงถือเป็นการลงทุนระยะยาวได้ โดยไม่ต้องกังวลกับปัจจัยที่มากระทบในระยะสั้นมากนักได้
- สำหรับกำลังพิจารณาลงทุนกองทุน ThaiESGX ยังคงสามารถลงทุนกองทุน ThaiESGX เพื่อใช้สิทธิทางภาษีได้และคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีการถือการลงทุนในหุ้นไทย/กองทุนหุ้นไทย ในสัดส่วนที่ยังไม่เกิน 20%ของเงินลงทุนโดยรวม
หมายเหตุ:
- ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
- K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
- K-GSELECT, K-INDIA, K-VIETNAM ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
- นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-GSELECT, K-VIETNAM: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- K-INDIA: ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน
- ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-SFPLUS: T+1
- K-FIXEDPLUS-A: T+2
- K-GSELECT : T+3
- K-INDIA: T+4
- K-VIETNAM: T+5
- K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6