ธนาคารกลางจีน (PBOC) คงอัตราดอกเบี้ย LPR เพื่อประคองเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ขณะเดียวกันรัฐบาลใช้มาตรการการคลังควบคู่เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและจัดการภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังเป็นประเด็นกดดัน

ประเด็นร้อน : จีนชะลอลดดอกเบี้ย รอดูเลขเศรษฐกิจรอบถัดไป

ธนาคารกลางจีน (PBOC) คงอัตราดอกเบี้ย LPR เพื่อประคองเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ขณะเดียวกันรัฐบาลใช้มาตรการการคลังควบคู่เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและจัดการภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังเป็นประเด็นกดดัน

กดฟัง
หยุด
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) คงอัตราดอกเบี้ย LPR โดยรอดูทิศทางการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจรอบใหม่ก่อน
  • PBOC ดำเนินนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อประคองเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ส่วนรัฐบาลใช้มาตรการการคลังควบคู่เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย
  • ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีนอยู่ K WEALTH แนะนำให้ยังคงถือต่อได้หากยังมีสัดส่วนการลงทุนไม่สูง หรือขายทำกำไรและนำเงินไปลงทุนกองทุนหุ้นอื่น เช่น K-GSELECT K-INDIA K-GHEALTH

ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (Loan Prime Rate - LPR) ทั้งระยะ 1 ปี ที่ 3.0% และ 5 ปี ที่ 3.5% สอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาด หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 0.1% เมื่อเดือน พ.ค. 68 ซึ่งสะท้อนถึงการรอดูทิศทางการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจรอบใหม่ก่อนจะตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายเพิ่ม โดยนักลงทุนและนักวิเคราะห์กำลังจับตาผลการประชุมคณะกรรมการโปลิตบูโรในปลายเดือนก.ค. และการสิ้นสุดช่วงพักเก็บภาษีในกลางเดือนส.ค. ซึ่งจะมีผลต่อแนวนโยบายทางเศรษฐกิจและการเงินของจีนช่วงครึ่งปีหลัง


ความเคลื่อนไหวดัชนีที่เกี่ยวข้อง ณ 20 มิ.ย. 68 เทียบกับวันก่อนหน้า
  • Hang Seng Index +1.26%
  • Hang Seng Tech +0.88%
  • CSI300 +0.09%
  • China A50 +0.35%

Market Outlook

การตรึง LPR ครั้งนี้สะท้อนว่า PBOC ยังคงดำเนินนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อประคองเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ใช้มาตรการการคลังควบคู่เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและจัดการภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังเป็นประเด็นกดดัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามความคืบหน้าของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อการส่งออก และอาจเป็นปัจจัยชี้ชะตาการกระตุ้นรอบถัดไป หากไม่มีสัญญาณบวกต่อการค้าหรือเศรษฐกิจภายในประเทศ ตัวเลข LPR อาจถูกปรับลดเพิ่มอีก 0.2% ภายในสิ้นปีนี้ตามคาด


คำแนะนำจาก K WEALTH

  • สำหรับผู้ที่มีสถานะการลงทุนใหนกองทุนหุ้นจีนอยู่ เช่น K-CHINA, K-CCTV, K-CHX
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20%ของเงินลงทุน แนะนำคงสัดส่วนการลงทุน
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20%ของเงินลงทุน หรือมีกำไรมากกว่า 10% แนะนำหาจังหวะขายทำกำไรกองทุนหุ้นญี่ปุ่นบางส่วน (Take Profit) เพื่อปรับพอร์ตให้สมดุลตามเป้าหมายการลงทุน หรือนำเงินไปลงทุนในกองทุนหุ้นแนะนำอื่นของ K WEALTH เช่น K-GSELECT K-INDIA K-GHEALTH
  • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นจีน แนะนำลงทุนในกองทุนแนะนำอื่น ตามคำแนะนำดังนี้
    • ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยเข้าลงทุนในกองทุนที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว เช่น
      • ประเทศเศรษฐกิจขยายตัวสูง: เข้าลงทุนผ่านกองทุน K-INDIA และ K-VIETNAM
      • Sector ที่มีความทนทานต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจ: เช่น กลุ่ม Global Healthcare ผ่านกองทุน K-GHEALTH และกลุ่ม Global Infrastructure ผ่านกองทุน K-GINFRA
      • กองทุนหุ้นโลกที่เน้นคัดเลือกหุ้นคุณภาพดี พื้นฐานแข็งแกร่ง ผ่านกองทุน K-GSELECT
    • ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ แนะนำ
      • ทยอยเข้าลงทุนกองทุนผสม K WealthPLUS Series เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ที่มีการกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายทั่วโลก
      • K-FIXEDPLUS-A ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว เหมาะกับการลงทุน 1 – 1.5 ปีขึ้นไป
    • ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำลงทุนในกองทุนตลาดเงินหรือตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS-A

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-GSELECT, K-GHEALTH, K-GINFRA-A(D), K-INDIA, K-VIETNAM ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-GSELECT, K-VIETNAM: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
    • K-GHEALTH, K-GINFRA-A(D), K-INDIA: ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-GSELECT : T+3
    • K-GHEALTH, K-GINFRA-A(D), K-INDIA : T+4
    • K-VIETNAM: T+5
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6


คำเตือน

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top