รีวิวกองทุนผสม

เดือนนี้ K WEALTH ยังคงชอบการลงทุนในกองทุนผสม เช่นเดียวกับเดือนที่ผ่านมา

แนะนำทยอยสะสมกองทุนผสมได้

มุมมองจาก K WEALTH: ยังคงมุมมองค่อนข้างบวก (Slightly Positive) ต่อกองทุนกลุ่มนี้ ในเดือน ส.ค. 68

• ไทยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยที่ 19% ต่ำกว่ากรอบเดิมที่ 36% และอยู่ในระดับใกล้เคียงประเทศอาเซียนอื่นๆ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ข้อตกลงนี้ช่วยลดแรงกดดันต่อการส่งออกไทยในครึ่งปีหลัง

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ให้ขยายตัวขึ้นเป็น 1.5% โดยได้รับแรงหนุนหลักจากภาคส่งออกที่ฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยหลายด้าน เช่น ภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่ำกว่าคาด สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา และความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ
• คาด กนง. ลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง และลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีหน้า จากเศรษฐกิจไทยที่ชะลอลง เงินเฟ้อหดตัวติดต่อกันจากแรงกดดันของราคาพลังงานและอาหารที่ลดลง ทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อทั้งปีต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย
• อย่างไรก็ตาม Yield ที่ลดลงมากแล้ว ทำให้โอกาสสร้าง Capital Gain ในระยะต่อไปมีจำกัด ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงด้านการคลังและภาระหนี้สาธารณะที่สูงอาจกดดันอันดับเครดิตและดัน Yield กลับขึ้นได้ราว 5-10 bps ซึ่งอาจทำให้ NAV ของกองทุนผันผวนในระยะสั้น

(ข้อมูล ณ 1 ส.ค. 68)

คำแนะนำ

• หากมีกำไรจากกองทุนกลุ่มนี้ สามารถถือต่อและทยอยซื้อเพิ่มได้ โดยสามารถถือเป็นเงินลงทุนหลักได้ถึง 60% ของเงินลงทุน แต่หากต้องการขายทำกำไร สามารถพิจารณาขายบางส่วนไปลงทุนกองทุนอื่น เช่น K-SFPLUS-A, K-FIXEDPLUS-A ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และ K WEALTH มีมุมมองค่อนข้างบวก (Slightly Positive)
• หากขาดทุนจากกองทุนกลุ่มนี้ ยังสามารถถือต่อได้ หรือทยอยซื้อเพิ่มหากยังถือกองทุนกลุ่มนี้ไม่เกิน 60% ของเงินลงทุน
• สำหรับผู้ที่ยังไม่ถือกองทุนกลุ่มนี้ สามารถทยอยลงทุนและถือเป็นสัดส่วนหลักของพอร์ตได้