การเป็นคนโสดในยุคปัจจุบันให้ความอิสระและความคล่องตัวในการใช้ชีวิต แต่เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ สถานการณ์อาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การไม่มีคู่ครองหรือลูกหลานเป็นที่พึ่งอาจกลายเป็นความท้าทายที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือตั้งแต่วันนี้
ปัญหาสำคัญที่คนโสดต้องเผชิญหลังเกษียณ
- การขาดเครือข่ายสนับสนุนทางการเงิน
คนโสดเผชิญกับความท้าทายด้านการเงินที่แตกต่างจากคนที่มีครอบครัวอย่างชัดเจน เมื่อไม่มีคู่ครองที่สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย หรือมีรายได้เสริมจากการทำงานของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้ต้องพึ่งพาเงินออมและการลงทุนของตัวเองเพียงอย่างเดียว จึงกลายเป็นความเสี่ยงสองเท่าเมื่อรายได้หยุดลงหลังเกษียณ แต่ภาระค่าใช้จ่ายยังคงเดิมหรือเพิ่มขึ้นจากค่ารักษาพยาบาล
นอกจากนี้ การไม่มีลูกหลานช่วยเหลือทางการเงินในยามจำเป็น เช่น เมื่อเจ็บป่วยกะทันหันหรือต้องการเงินเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน ทำให้คนโสดต้องมีเงินสำรองและแผนการเงินที่แน่นหนากว่าคนที่มีครอบครัว เงินที่ต้องเตรียมไว้จึงไม่ใช่แค่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตธรรมดา แต่ต้องรวมถึงเงินสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดระยะเวลา 20-30 ปีหลังเกษียณ
-
การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่
เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาสุขภาพมักจะตามมา และการไม่มีคนใกล้ชิดคอยดูแลอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ การไม่มีคนคอยช่วยเหลือในการพาไปหาหมอ กินยา หรือดูแลความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน ทำให้ต้องพึ่งพาบริการจากบุคคลภายนอกซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
การว่าจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัวหรือ Home Care มีค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000-30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับระดับการดูแลที่ต้องการ หากต้องการการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 40,000-60,000 บาทต่อเดือน นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายแล้ว ความเหงาที่อาจเกิดขึ้นจากการอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม
การเลือกเข้าอยู่บ้านพักผู้สูงอายุจึงกลายเป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมแล้ว ยังมีกิจกรรมและเพื่อนร่วมอายุที่ช่วยลดปัญหาความเหงาได้อีกด้วย
-
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้ลดลง
หลังเกษียณ รายได้จากการทำงานจะหยุดลง แต่ค่าใช้จ่ายกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นตามอายุและความเสื่อมของร่างกาย โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ ต้องใช้เงินในการรักษาอย่างต่อเนื่อง ค่ายาและค่าตรวจรักษาต่อเดือนอาจสูงถึง 5,000-15,000 บาท ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ดูแลหรือบริการต่างๆ ที่เมื่อก่อนอาจทำเองได้ เช่น การทำความสะอาดบ้าน การซื้อของใช้ ก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความสามารถในการหารายได้เสริมลดลงเมื่ออายุมากขึ้น และโอกาสในการทำงานพิเศษก็มีน้อย ทำให้การวางแผนทางการเงินตั้งแต่วัยทำงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง
การคำนวณค่าใช้จ่ายหลังเกษียณสำหรับคนโสด
ค่าใช้จ่ายพื้นฐานรายเดือน
การวางแผนการเงินหลังเกษียณสำหรับคนโสดต้องเริ่มจากการคำนวณค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่จำเป็น โดยค่าอาหารต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 8,000-15,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตและสถานที่ที่อาศัยอยู่ โดยหากอาศัยในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าต่างจังหวัด
ค่าที่อยู่อาศัยเป็นอีกหนึ่งรายการใหญ่ หากยังต้องเช่าบ้านหรือคอนโดฯ ค่าเช่าและค่าส่วนกลางอาจอยู่ที่ประมาณ 8,000-25,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดของที่อยู่ หากมีบ้านของตัวเองแล้วก็ยังมีค่าส่วนกลาง ค่าซ่อมแซมบ้านที่ต้องจ่าย
ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,500-4,000 บาทต่อเดือน ส่วนค่ารักษาพยาบาลพื้นฐาน รวมถึงค่ายาประจำและการตรวจสุขภาพประจำปีอยู่ที่ประมาณ 3,000-8,000 บาทต่อเดือน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว การเดินทาง และกิจกรรมสันทนาการอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 บาทต่อเดือน
เมื่อรวมทุกรายการแล้ว ค่าใช้จ่ายพื้นฐานสำหรับคนโสดหลังเกษียณจะอยู่ที่ประมาณ 26,500-62,000 บาทต่อเดือน ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษต่างๆ เช่น การเดินทางท่องเที่ยว การรักษาโรคฉุกเฉิน หรือค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ดูแล
เปรียบเทียบบ้านพักผู้สูงอายุของรัฐและเอกชน
บ้านพักผู้สูงอายุของรัฐ
บ้านพักผู้สูงอายุของรัฐในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำอยู่ที่ประมาณ 5,000-12,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของสถานที่และบริการที่ให้ สถานที่เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณของรัฐ จึงสามารถเสนอราคาที่เข้าถึงได้สำหรับผู้มีรายได้น้อย บุคลากรที่ทำงานส่วนใหญ่ผ่านการฝึกอบรมจากหน่วยงานของรัฐ และมีการดูแลด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม บ้านพักของรัฐมีข้อจำกัดสำคัญหลายประการคือ จำนวนที่นั่งมีจำกัดมาก ทำให้มีคิวรอที่ยาวนาน บางแห่งอาจต้องรอหลายปีกว่าจะได้เข้าอยู่ สิ่งอำนวยความสะดวกอาจไม่ครบครันเท่าที่ควร อัตราส่วนผู้ดูแลต่อผู้สูงอายุค่อนข้างสูง ทำให้การดูแลเฉพาะบุคคลมีจำกัด และความเป็นส่วนตัวมีน้อยเนื่องจากต้องใช้ห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกัน
บ้านพักผู้สูงอายุเอกชน
บ้านพักผู้สูงอายุเอกชนในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปตามระดับและทำเลที่ตั้ง โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและทันสมัยกว่า บริการดูแลเฉพาะบุคคลที่ใส่ใจรายละเอียด ความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายสูง รวมถึงกิจกรรมและโปรแกรมการดูแลที่หลากหลาย ตั้งแต่การออกกำลังกาย การทำกิจกรรมศิลปะ ไปจนถึงการท่องเที่ยวระยะสั้น
ข้อเสียหลักของบ้านพักเอกชนคือ ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับบริการพิเศษต่างๆ มาตรฐานการดูแลก็แตกต่างกันไปตามราคาที่จ่าย บางแห่งอาจไม่มีทีมแพทย์ประจำ หรือมีบริการทางการแพทย์ที่จำกัด
ผลิตภัณฑ์แนะนำสำหรับคนโสดเตรียมเกษียณ
ประกันบำนาญลดหย่อนได้ จ่ายสั้นปรับได้ 90/5
จุดเด่นสำหรับคนโสด
- จ่ายเบี้ยประกันเพียง 5 ปี แต่รับเงินบำนาญยาวถึงอายุ 90 ปี
- รับเงินบำนาญต่อเนื่องสูงสุดปีละ 24% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ไปจนถึงอายุ 90 ปี
- เลือกอายุเริ่มรับบำนาญได้ตั้งแต่อายุครบ 55, 60, หรือ 65 ปี ตามความเหมาะสม
- ปรับเปลี่ยนแผนระหว่างทางได้ โดยเปลี่ยนอายุเริ่มรับบำนาญและวิธีรับบำนาญ (รายปี/รายเดือน)
- ลดหย่อนภาษีจากประกันบำนาญได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
- เหมาะกับคนที่ต้องการจ่ายเบี้ยสั้น
ผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันบำนาญลดหย่อนได้ จ่ายเบาปรับได้ 90/55, 90/60, 90/65
นวัตกรรมใหม่สำหรับคนโสด
- ยืดหยุ่นในการจ่ายเบี้ย เลือกทยอยจ่ายเบี้ยจนถึงอายุ 55, 60, หรือ 65 ปี
- รับเงินบำนาญต่อเนื่องสูงสุดปีละ 24% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ไปจนถึงอายุ 90 ปี
- เลือกรับเงินบำนาญเป็นรายปี หรือรายเดือน ก็ออกแบบได้ หรือเลือกจ่ายบำนาญรายเดือนตรงเข้า Nursing Home ก็ทำได้
- เลือกจ่ายเบี้ยรายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือ รายปีได้
- ลดหย่อนภาษีจากประกันบำนาญได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
- เหมาะกับคนที่ต้องการทยอยจ่ายเบี้ยไปเรื่อยๆ จนถึงอายุที่กำหนด
ประกันบำนาญช่วยสร้างวินัยในการออม ต่างจากเงินฝากที่อาจถอนมาใช้ได้ง่าย ทำให้มั่นใจได้ว่าเงินส่วนนี้จะอยู่ครบถ้วนเมื่อถึงเวลาเกษียณ และจะได้รับบำนาญอย่างสม่ำเสมอตลอดชีวิต
การเตรียมความพร้อมสำหรับการเกษียณของคนโสดต้องการการวางแผนที่รอบคอบและมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม ประกันบำนาญจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนโสดที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
เมืองไทยประกันชีวิต