ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงร้อนแรงไม่หยุด...ฉุดไม่อยู่ หลังทำ All-Time High ได้อีกครั้ง ส่งผลดีต่อผลตอบแทนของกองทุน K-WealthPLUS Series ที่ได้อนิสงค์ด้วยเหมือนกัน

อัปเดตภาพรวมกองทุนผสม ก.ค. 68 “หุ้น US แรงไม่หยุด! WealthPLUS ยังไงต่อ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงร้อนแรงไม่หยุด...ฉุดไม่อยู่ หลังทำ All-Time High ได้อีกครั้ง ส่งผลดีต่อผลตอบแทนของกองทุน K-WealthPLUS Series ที่ได้อนิสงค์ด้วยเหมือนกัน

กดฟัง
หยุด
  • กองทุน K-WealthPLUS Series สร้างผลผลตอบแทนได้อย่างร้อนแรงเป็นบวกสองเดือนติดต่อกัน ไม่แพ้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง แต่คงมีคำถามว่าต่อจากนี้จะยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หรือจะค่อยๆ แผ่วไป
  • ถึงแม้สงครามการค้าจะยังคงอยู่ แต่มุมมองของตลาดที่คิดว่าความผันผวนจากนโยบาย Tariffs ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว รวมไป U.S. Earning Season ในไตรมาส 2/2025 ที่จะเริ่มขึ้นในเดือน ก.ค. นี้ ที่ตลาดคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง และที่พลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่จะสนับสนุนให้ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นต่อ
  • อย่างไรก็ตาม การจัดสรรการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ โดยกระจายในภูมิภาคต่างยังคงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ เพราะเราไม่รู้ก่อนล่วงหน้าว่าความผันผวนจะเกิดขึ้นเมื่อใด เพราะฉะนั้นการลงทุนกองทุน K-WealthPLUS Series จึงยังคงเป็นเครื่องมือที่ดีของนักลงทุน


K-WealthPLUS Series ยังร้อนแรงไม่แพ้หุ้น US ที่ทำ All Time High

กองทุน K-WealthPLUS Series ฟื้นตัวดีต่อเนื่องสร้างผลตอบแทนเป็นบวก 2 เดือนติดต่อกัน โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กองทุน K-WPBALANCED (+2.1%), K-WPSPEEDUP (+2.8%) และ K-WPULTIMATE (+3.4%) ส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนตั้งแต่ต้นปี (YTD) กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ผลตอบแทนของกองทุนจะโดนกดดันจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกแล้วมาซ้ำเติมด้วยสงครามการค้าภาคต่อของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


ต้องยอมรับว่าหนึ่งในตลาดหุ้นที่เป็นส่วนช่วยให้กองทุน K-WealthPLUS Series กลับมาสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงสองเดือนนี้นั่นก็คือตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น S&P500 หรือ Nasdaq ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงกลับมาทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) หลังตลาดยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามการค้ารอบใหม่


ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลัง All Time High จะไปต่อหรือขอพักก่อน...

ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงเป็นประเด็นสงครามการค้าที่ได้คลี่คลายลงไปมากแล้ว รวมถึงนักลงทุนกลับมาเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังออกมาแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงาน รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อยังอยู่ภายใต้การควบคุม ส่งผลให้ตลาดได้คลายความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวรุนแรงลงไปมาก ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ Fed พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยชัดเจนมายิ่งขึ้น ซึ่งการส่งสัญญาณดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่สำคัญต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ นอกจากนั้นแล้ว U.S. Earning Season ไตรมาส 2/2025 ตลาดคาดว่ากำไรจะออกมาแข็งแกร่ง


นอกจากนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าขาขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ รอบนี้มีการกระจายตัวมากขึ้นไม่ได้กระจุกแค่หุ้นในกลุ่ม 7 นางฟ้าเท่านั้น นั่นหมายความว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นบนพื้นฐานของเศรษฐกิจจากปัจจัยสนับสนุนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่อาจผลักดันให้ตลาดสามารถเติบโตต่อไปได้


กองทุน K-WealthPLUS ไม่ได้มีดีแค่หุ้นสหรัฐฯ

กองทุน K-WealthPLUS Series ไม่ได้มีดีแค่หุ้นสหรัฐฯถึงแม้ว่าจะมีสัดส่วนที่มากก็ตาม แต่ยังมีการกระจายไปทั่วโลก ยิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯนั้นได้ปรับตัวขึ้นสร้าง All-Time High มาแล้ว หลายคนอาจมองว่าถึงเวลาต้อง “พัก” หรือ “รอ” แต่สำหรับการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงที่หลากหลายนั้น ผลตอบแทนยังมีโอกาสเติบโตได้แม้ตลาดสหรัฐฯแกว่งตัว การมีเพียงแค่หุ้นสหรัฐอาจไม่เพียงพอ ซึ่งในเดือนมิถุนายน ทางผู้จัดการกองทุนก็ได้มีการปรับสัดส่วนเพื่อรองรับตลาดที่อาจเกิดความผันผวนข้างหน้า ดังนี้

  • เพิ่มสัดส่วนในหุ้นเอเชียให้มากขึ้น เพื่อให้พอร์ตมีการกระจายความเสี่ยงที่มากขึ้น รวมถึงเพื่อที่จะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลให้โอกาสที่เงินทุนจะไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น
  • เพิ่มสัดส่วนหุ้นเติบโต (US Growth) ของสหรัฐฯ หลังตลาดคลายความกังวลทั้งเรื่องภาษีรวมถึงเงินเฟ้อส่งผลให้การสับเปลียนหุ้นจากกลุ่ม Value สู่กลุ่ม Growth
  • ได้ขายทำกำไรตราสารหนี้ไทยบางส่วนหลังจาก Yield ได้ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง

แม้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเดินหน้าทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากมุมมองของตลาดที่คิดว่าความผันผวนจากนโยบาย Tariffs ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและต่อจากนี้การเจรจาทางการค้าอาจนำมาซึ่งความผันผวนที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ก็คือทรัมป์ นโยบายดังกล่าวยังคงมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้นการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงยังคงเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การลงทุนในขณะนี้


คำแนะนำลงทุนจาก K WEALTH

  • K-WPBALANCED ลงทุนในหุ้นประมาณ 30% เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่หรือรับความผันผวนได้ปานกลาง ที่อยากเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนให้พอร์ตมากขึ้น
  • K-WPSPEEDUP ลงทุนในหุ้นประมาณ 65% เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้นแต่ก็รับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน
  • K-WPULTIMATE ลงทุนในหุ้นประมาณ 85% เหมาะกับนักลงทุนที่รับความผันผวนได้สูง เพื่อโอกาสสร้างพอร์ตเติบโตในระยะยาว



คำเตือน

ผลตอบแทนในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต กองทุนรวมนี้มีลักษณะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะเงื่อนไขของผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสอนใจลงทุน

ผู้เขียน

K WEALTHกิตติภพ เรืองอ่อน AISA, AFPT

Back to top