อัปเดตกองทุนสหรัฐฯ S&P 500, Nasdaq และ Dow Jones ตัวท็อปปี 2568 เปรียบเทียบผลตอบแทน ค่าธรรมเนียม คำแนะนำกองทุนจากผู้เชี่ยวชาญ ซื้อได้ทันทีผ่าน K PLUS

เลือกกองทุนอเมริกาแบบมือโปร S&P 500, Nasdaq หรือ Dow Jones แบบไหนเหมาะกับคุณ?

อัปเดตกองทุนสหรัฐฯ S&P 500, Nasdaq และ Dow Jones ตัวท็อปปี 2568 เปรียบเทียบผลตอบแทน ค่าธรรมเนียม คำแนะนำกองทุนจากผู้เชี่ยวชาญ ซื้อได้ทันทีผ่าน K PLUS

กดฟัง
หยุด
  • การลงทุนกองทุนอเมริกาที่อิงกับดัชนี S&P 500, Nasdaq และ Dow Jones ช่วยกระจายความเสี่ยงในหลายบริษัท ผลตอบแทนสะท้อนการเคลื่อนไหวของดัชนีโดยรวม และยังมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ากองทุนแบบ Active
  • นักลงทุนควรเลือกกองทุนอเมริกาให้เข้ากับสไตล์การลงทุนของตนเอง พิจารณาความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เป้าหมายการลงทุน และระยะเวลาการลงทุน รวมถึงกระจายการลงทุนและลงทุนระยะยาว เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี

เมื่อตลาดหุ้นโลกมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น การลงทุนในกองทุนหุ้นอเมริกากลายเป็นทางเลือกที่นักลงทุนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกองทุนที่อิงดัชนีชื่อดังอย่าง S&P 500, Nasdaq และ Dow Jones ซึ่งแต่ละดัชนีมีลักษณะเฉพาะและเหมาะกับนักลงทุนที่มีความต้องการแตกต่างกัน


ทำไมกองทุนอเมริกาถึงน่าลงทุนในปี 2568

ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการฟื้นตัวของตลาด

เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวชัดเจนในครึ่งหลังของปี โดยเฉพาะจากฝั่งผู้บริโภคที่เริ่มลดการใช้จ่ายหลังรายได้หดตัว และต้นทุนจากภาษีนำเข้าสะท้อนผ่านราคาสินค้ามากขึ้น แม้ภาคธุรกิจยังมีผลประกอบการดีในบางอุตสาหกรรม แต่แรงขับเคลื่อนภายในประเทศเริ่มอ่อนแรง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ Valuation ยังคงอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอในครึ่งปีหลัง


ความนิยมของหุ้นกลุ่ม FAANG, AI และหุ้นเทคโนโลยี

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอเมริกายังคงเป็นจุดสนใจของนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Google และ Meta ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเทรนด์ AI ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว


จุดเด่นของกองทุนอิงดัชนี (S&P 500 / Nasdaq / Dow Jones)

กองทุนอิงดัชนีมีข้อดีหลายประการ ได้แก่ การกระจายความเสี่ยงในหลายบริษัท ผลตอบแทนสะท้อนการเคลื่อนไหวของดัชนีโดยรวม และยังมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ากองทุนแบบ Active อีกด้วย


กองทุน S&P 500 ตัวไหนดี?

ภาพรวมกองทุน S&P 500

ดัชนี S&P 500 ประกอบด้วยหุ้น 500 บริษัทใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นอเมริกา โดยมีบริษัทชั้นนำอย่างบริษัท Apple, Microsoft, Amazon, Alphabet และ Tesla เป็นต้น เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจอเมริกา


สำหรับกองทุนที่ลงทุนในดัชนี S&P 500 ได้แก่

  • กองทุน K-US500X-A(A) ลงทุนในกองทุน iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น NYSE Arca และมีนโยบายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนี S&P 500
  • กองทุน SCBS&P500A ลงทุนในกองทุน iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500
  • กองทุน KFUSINDX-A ลงทุนในกองทุน iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 Index เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนของกองทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 Index
  • กองทุน ASP-S&P500-A ลงทุนในกองทุน SPDR Trust (SPDR S&P500 ETF) (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวม ETF ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งบริหารและจัดการโดย State Street Global Advisors ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange, NYSE Arca)

กองทุน Nasdaq ตัวไหนดี?

ภาพรวมกองทุน Nasdaq

ดัชนี Nasdaq มุ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยีเป็นหลัก ประกอบด้วยบริษัทชั้นนำอย่างบริษัท Apple, Microsoft, Amazon, Tesla และ Nvidia เหมาะกับนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี


สำหรับกองทุนที่ลงทุนในดัชนี Nasdaq ได้แก่

  • กองทุน K-USXNDQ-A(A) ลงทุนในกองทุน Invesco NASDAQ 100 ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq และมีนโยบายลงทุนให้มีผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นสหรัฐฯ Nasdaq-100 ที่ประกอบด้วยหุ้นจำนวน 100 หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq
  • กองทุน SCBNDQ(A) ลงทุนในกองทุน Invesco NASDAQ 100 ETF (กองทุนหลัก) สกุลเงิน USD ซึ่งกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ลงทุนให้ผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี NASDAQ-100 Index
  • กองทุน KFNDQ-A ลงทุนในกองทุน Invesco NASDAQ 100 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี NASDAQ-100
  • กองทุน TNASDAQ-A ลงทุนใน Invesco QQQ Trust, Series 1 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Nasdaq-100

กองทุน Dow Jones ตัวไหนดี?

ภาพรวมกองทุน Dow Jones

ดัชนี Dow Jones Industrial Average ประกอบด้วยหุ้น 30 บริษัทขนาดใหญ่ที่มีประวัติยาวนาน เช่น Apple, Boeing, Coca-Cola และ Johnson & Johnson เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนาน


สำหรับกองทุนที่ลงทุนในดัชนี Dow Jones ได้แก่

กองทุน SCBDJI(A) ลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Dow Jones Industrial Average โดยมีเป้าหมายให้ผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีดังกล่าว


ทั้งนี้ ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทย ยังไม่มีกองทุนที่ลงทุนในดัชนี Dow Jones โดยตรง แต่มีกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ คือ กองทุน K-USA-A(A) ซึ่งลงทุนในกองทุน Brown Advisory US Sustainable Growth Fund, Dollar Class SI Acc (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทสหรัฐอเมริกาที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีรูปแบบธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว


คำถามที่พบบ่อย

ลงทุนผ่าน RMF ได้หรือไม่?

ปัจจุบันมีกองทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้นอเมริกาให้เลือก เช่น KUSARMF, KUS500XRMF, K-USXNDQRMF ซึ่งสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย


อยากลงทุนต้องทำอย่างไร?

สามารถลงทุนได้ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆ โดยเปิดบัญชีกองทุนและซื้อผ่านแอปพลิเคชัน หรือสาขา แนะนำให้ศึกษาข้อมูลกองทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน


ลงทุนขั้นต่ำเท่าไหร่?

โดยทั่วไปกองทุนส่วนใหญ่มีการลงทุนขั้นต่ำที่ 500 บาท สำหรับการซื้อครั้งแรก และลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท สำหรับการซื้อครั้งถัดไป


DCA หรือซื้อก้อนใหญ่ดีกว่า?

การทยอยลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด ในขณะที่การซื้อก้อนใหญ่เหมาะกับนักลงทุนที่มั่นใจในทิศทางตลาดและมีเงินทุนเพียงพอ


สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนอเมริกา ควรพิจารณาจากความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เป้าหมายการลงทุน และระยะเวลาการลงทุน เพื่อเลือกกองทุนที่เหมาะสมที่สุดกับตนเอง ทั้งนี้ การกระจายการลงทุนและการลงทุนระยะยาวยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการบริหารความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว


หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-US500X-A(A), K-USXNDQ-A(A), K-USA-A(A), SCBS&P500A, SCBNDQ(A), SCBDJI(A), KFUSINDX-A, KFNDQ-A, ASP-S&P500-A, TNASDAQ-A: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • SCBS&P500A, SCBNDQ(A), SCBDJI(A), KFUSINDX-A, ASP-S&P500-A: ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-USXNDQ-A(A), K-USA-A(A): ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-US500X-A(A), KFNDQ-A, TNASDAQ-A: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • SCBS&P500A, SCBNDQ(A), SCBDJI(A), KFUSINDX-A, KFNDQ-A, ASP-S&P500-A: T+2
    • K-US500X-A(A), K-USXNDQ-A(A): T+3
    • K-USA-A(A), TNASDAQ-A: T+4

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บลจ.กสิกรไทย


คำเตือน


“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ CFP®

Back to top