-
เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความท้าทายไม่แน่นอนหลายด้านในปี 2025 แต่ผลตอบแทนของกองทุนตราสารนี้ปียังคงโดดเด่น
-
กองทุนตราสารหนี้มีแนวโน้มได้ประโยชน์ทั้งจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สงคราม และแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับสูงหรือเป็นขาลง
-
K WEALTH ยังแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้ K-SF-A, K-SFPLUS-A, K-FIXED-A และ K-FIXEDPLUS-A
เศรษฐกิจโลกยิ่งไม่แน่นอนฉันใด ตราสารหนี้ยิ่งน่าสนใจฉันนั้น
ในปี 2025 นับว่าเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เป็นภาพรวมของ
- อัตราดอกเบี้ยที่อยู่สูงยาวนานกว่าคาด
- นโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
- เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า
- ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคุกรุ่น (รัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ, ไต้หวัน-จีน, อิสราเอล-กาซา)
ความไม่แน่นอนเหล่านี้ล้วนทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังที่จะเริ่มเห็นผลกระทบของการขึ้นภาษีนำเข้าในหลายๆ ประเทศ นำมาซึ่งความผันผวนในตลาดหุ้น แต่ยังมีหนึ่งสินทรัพย์ที่ K WEALTH มองว่านอนชิวมาตั้งแต่ต้นปี นั้นก็คือ ”กองทุนตราสารหนี้” ซึ่งในอดีตสะท้อนว่าในปีที่เศรษฐกิจชะลอตัว กองทุนตราสารหนี้มีผลตอบแทนเป็นบวกเสมอ
ผลตอบแทนกองทุนตราสารหนี้ K-FIXED-A เป็นบวกเสมอในปีที่เกิดความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว
*ตารางข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา : World Bank
ตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่มักคว้าชัยในช่วงที่เกิดความกังวลสงคราม ซึ่งในปีนี้ยังมีความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ให้ตลาดกังวลอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อมาหลายปี ความเสี่ยงช่องแคบใต้หวัน/ทะเลจีนใต้ ซึ่งยังมีการซ้อมรบกันอยู่เรื่อยๆ ความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส / อิหร่าน
จากข้อมูลในอดีตในช่วงเกิดความกังวลสงครามกองทุนตราสารหนี้มักเป็นหลุมหลบภัยเสมอ

อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับสูงนาน หรือมีแนวโน้มขาลง เป็นบวกต่อกองทุนตราสารหนี้
แม้ยังมีความไม่แน่นอนในตลาดว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อไหร่ แต่อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง หรือมีแนวโน้มเป็นขาลงเป็นผลบวกอยากมากต่อกองทุนตราสารหนี้ ยกตัวอย่างจากสถิติย้อนหลังในอดีต เช่น
- ปี 2019 ที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวจากสงครามการค้า ส่งผลให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้ง กองทุน K-FIXED-A +3.23%, K-FIXDEPLUS-A +3.32%
- ปี 2024 ดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับสูงถึง 5.25% และ Fed เริ่มส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย กองทุน K-FIXED-A +3.56%, K-FIXEDPLUS-A +3.29%
ซึ่งในปี 2025 นี้ กองทุนตราสารหนี้ได้ประโยชน์ทั้งจากดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงนาน (ได้ Yield) และมีแนวโน้มจะเป็นขาลงในอนาคต ทำให้กองทุนตราสารหนี้ทำผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นในปีนี้ (ผลตอบแทน ณ 25 ก.ค. 2025)
- K-SF+1.15%,
- K-SFPLUS +1.36%,
- K-FIXED-A 3.45%,
- K-FIXEDPLUS-A +3.50%
ปีที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูงหรือเป็นขาลง จะเป็นปีที่ดีของกองทุนตราสารหนี้อย่างมาก
ดังนั้นแม้อัตราดอกเบี้ยในตลาดจะยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะลดลงเมื่อใดก็ตาม แต่อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มเป็นขาลง จะส่งผลบวกและเป็นโอกาสในการลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะการลงทุนในปีนี้
สรุป!! โลกไม่แน่นอน แต่กองทุนตราสารหนี้ได้อานิสงส์เต็มประตูในปี 2025
- เศรษฐกิจชะลอตัว >> ธนาคารกลางจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย >> ผลบวกต่อราคาตราสารหนี้
- ภาวะสงคราม >> นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย >> ผลบวกต่อราคาตราสารหนี้ (หากราคาน้ำมันไม่ได้พุ่งแรงทะลุ 100$ เหมือนปี 2022)
- ดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่มีแนวโน้มลดลง >> กองทุนตราสารหนี้ได้ผลบวกจาก Yield และกำไรจากราคาตราสารหนี้ (Capital Gain)
ชี้เป้า!! กองทุนตราสารหนี้แนะนำ…เลือกยังไงดี
หากคุณกำลังมองหากองทุนตราสารหนี้แต่ยังไม่รู้จะเลือกกองทุนแบบไหนดี K WEALTH มีกองทุนตราสารหนี้แนะนำด้วยกัน 4 กองทุน คือK-SF-A, K-SFPLUS-A, K-FIXED-A และ K-SFPLUS-A สามารถเลือกง่ายๆ ได้ตามวัตถุประสงค์ ระยะเวลาที่ต้องการถือครอง และประเภทของตราสารที่ต้องการลงทุน