ดัชนี VNI ร่วงกว่า 4% จากแรงขายทำกำไร แต่พื้นฐานเศรษฐกิจเวียดนามยังแกร่ง K WEALTH คงมุมมองบวก

ประเด็นร้อน: ตลาดหุ้นเวียดนามร่วง จากนักลงทุนแห่ขายทำกำไร

ดัชนี VNI ร่วงกว่า 4% จากแรงขายทำกำไร แต่พื้นฐานเศรษฐกิจเวียดนามยังแกร่ง K WEALTH คงมุมมองบวก

กดฟัง
หยุด
  • ตลาดหุ้นเวียดนามปรับฐานหลังขึ้นแรง ดัชนี VNI ร่วงกว่า 4% จากแรงขายทำกำไร แต่ไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลง
  • เศรษฐกิจยังมีแรงหนุนชัดเจน ทั้งภาคส่งออกที่แข็งแกร่ง และความคืบหน้าในดีลการค้ากับสหรัฐฯ ช่วยดึงดูดเงินทุนเพิ่ม

ตลาดหุ้นเวียดนามร่วง หลังนักลงทุนขายทำกำไร

ดัชนี VNI ปรับตัวลงมากกว่า 4% เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวขึ้นมาแรงตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. อย่างไรก็ตาม “การปรับตัวขึ้นมาแรงต้องมีการปรับฐานระหว่างทาง” ขณะเดียวกันปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลง และมีแนวโน้มเชิงบวก ทำให้ K WEALTH ยังคงมุมมอง “Slightly Positive” ด้วยสัญญาณชัดเจนว่าเวียดนามยังมี 3 ปัจจัยบวกสำคัญที่พร้อมหนุนเศรษฐกิจและตลาดหุ้น:


  • กระแสเงินลงทุน FDI ต่างชาติไหลกลับอีกครั้ง
    • ตัวเลข FDI ที่ชะลอไปจากความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้า กลับมาอีกครั้ง สะท้อนความเชื่อมั่นจากต่างชาติ ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจ
  • เศรษฐกิจเติบโตต่อไป-ส่งออกยังคงเป็นเครื่องยนต์หลัก
    • ภาคส่งออกยังเติบโตแรง โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีและเครื่องใช้ไฟฟ้า หนุนให้ GDP เติบโตแรงต่อ อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากการบริโภคในประเทศที่เติบโตแรงต่อเนื่อง
  • ความคืบหน้าข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ที่ชัดเจนและเป็นไปในเชิงบวก
    • การเจรจาการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐฯ ที่ได้ข้อตกลงชัดเจน และค่อนข้างดีกว่าประเทศอื่น ยิ่งดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติทั้งภาคอุตสาหกรรมและตลาดการเงิน

ดัชนีและกองทุนที่เกี่ยวข้อง

  • VN Index -4.31%

(ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. 68)


คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นเวียดนาม
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำ “ยังคงถือต่อได้ และ ทยอยเพิ่มสัดส่วนให้ไม่เกิน 20%”
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนเวียดนาม
    • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนเวียดนาม “ทยอยสะสมได้”
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-VIETNAM ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-VIETNAM : ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-VIETNAM: T+5
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6


คำเตือน

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top