Fed คงดอกเบี้ย 4.25–4.50% เป็นครั้งที่ 5 ขณะ GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2 โตเกินคาด 3.0% จับตาผลกระทบภาษีนำเข้าและทิศทางลดดอกเบี้ย

ประเด็นร้อน : สหรัฐ GDP ยังสดใส พร้อมคงดอกเบี้ยตามคาด

Fed คงดอกเบี้ย 4.25–4.50% เป็นครั้งที่ 5 ขณะ GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2 โตเกินคาด 3.0% จับตาผลกระทบภาษีนำเข้าและทิศทางลดดอกเบี้ย

กดฟัง
หยุด
  • GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 3.0% (QoQ) สูงกว่าคาดการณ์ที่ 2.3% และดีกว่าการหดตัว -0.5% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี
  • FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25–4.50% เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน โดย 9 เสียงโหวตให้คงดอกเบี้ย ขณะที่มี 2 เสียงสนับสนุนให้ลดดอกเบี้ย มองเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุมและตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรง
  • ควรจับตาผลกระทบจากภาษีนำเข้า ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนชัดเจนในไตรมาส 3 เป็นต้นไป นักลงทุนควรบริหารพอร์ตอย่างระมัดระวัง และเน้นกระจายการลงทุนเพื่อรับมือความผันผวนจากปัจจัยการค้า
  • เฟดยังเน้นนโยบายแบบ “data dependent” การลดดอกเบี้ยอาจล่าช้ากว่าที่คาด นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ควรพิจารณากองทุนตราสารหนี้ไทยที่มีความผันผวนต่ำ เช่น K-SFPLUS และ K-FIXEDPLUS เพื่อรับประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง

I. GDP สหรัฐฯเติบโตดีกว่าคาด

  • เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 3.0% (QoQ)ในไตรมาสที่สอง สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.3% และดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับการหดตัว -0.5% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี
  • การบริโภคภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 1.4% โดยเฉพาะส่วนบริการ เช่น ด้านการแพทย์ ภัตตาคารและที่พัก และบริการการเงิน
  • ธุรกิจลงทุนโดยเฉพาะในภาคที่อยู่อาศัยและภาคสินค้าคงคลังลดลง
  • อย่างไรก็ตามสาเหตุหลักมาจากการนำเข้าสินค้าที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งถูกหักลบในการคำนวณ GDP จึงกลายเป็นตัวผลักดันเชิงบวกให้เศรษฐกิจขยายตัวโดยไม่แท้จริง
  • โดยในไตรมาสก่อนหน้ามีการเร่งนำเข้าสินค้า ( Front -loading)เพื่อเลี่ยงภาษีทางการค้า ส่งผลให้ภาพรวม GDP ไตรมาสที่ 1 ติดลบ
  • ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่คาดจะเริ่มสะท้อนให้เห็นตัวเลขได้ในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป

II.ผลการประชุม FOMC เดือน กค 2568

  • คณะกรรมการ FOMC มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25–4.50% เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน โดยกรรมการ 9 รายลงมติให้คงอัตราดอกเบี้ย ส่วนอีก 2 รายคือมิเชล โบว์แมน และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สนับสนุนให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมองว่าเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม และตลาดแรงงานอาจเริ่มอ่อนแอในไม่ช้า
  • เจอโรม พาวเวล ประธาน Fed แถลงว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าFed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนก.ย.หรือไม่ และระบุว่านโยบายการเงินของ Fed ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่คุมเข้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจ
  • คณะกรรมการ FOMC พยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว ส่วนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับสูง

Related Indices

  • Dow Jones -0.38%
  • S&P500 -0.13%
  • NASDAQ +0.16%
  • Bond Yield 2 ปี และ 10 ปี เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

(ข้อมูล ณ วันที่ 30 กค 2568)


Market Outlook

  • Fed ยังคงเน้นข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก "data dependent" และรอดูผลจากภาษีการค้า
  • ตลาดแรงงานที่ยังแข็งแรง และ เงินเฟ้อที่ขยับขึ้น อาจทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาด

คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 30% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 30% แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ “รอโอกาสลงทุนที่น่าสนใจ”
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-STAR-A, K-VALUE: ไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A): ป้องกันความเสี่ยง ไม่น้อยกว่ากว่า 75%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A): T+6


คำเตือน

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top